เมื่อไม่นานมานี้ ในการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การใช้กิจกรรมดนตรี เพื่อกระตุ้นทักษะสมอง EF” ให้กับครูปฐมวัยจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในโครงการสร้างเสริมศักยภาพภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อสุขภาวะเด็กปฐมวัย (COACT) ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นพ.อุดม เพชรสังหาร จิตแพทย์เด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า Executive Functions หรือ EF คือหลักประกันในเรื่องความสำเร็จในชีวิต การมีพฤติกรรมที่เหมาะสม การมีสุขภาพที่ดีและการศึกษา ส่วนการใช้กิจกรรมดนตรีในการพัฒนาทักษะทางสมอง ตามแนวคิด Communicative Musicality ที่เป็นพื้นฐานของมนุษย์ในการใช้จังหวะ เสียงสูงต่ำและการเคลื่อนไหวร่างกายในการสื่อสารกับผู้อื่นที่มีมาตั้งแต่แรกคลอดจนถึงก่อนที่เด็กจะพูดได้ และสามารถพัฒนาให้เกิดเป็นทักษะการสื่อสาร โดยเฉพาะการใช้ดนตรีจะไปเชื่อมกับการพัฒนาทักษะในการอ่านและการพูดได้ ทั้งนี้ การใช้จังหวะดนตรีเพื่อการพัฒนาทักษะสมอง มีลำดับการพัฒนา 5 ขั้นตอน ได้แก่
- สร้าง Scent of Rhythm เช่น การให้เด็กตีกลองเข้ากับจังหวะทำให้เด็กเกิดความมั่นใจสามารถคิดและสร้างจังหวะดนตรีของตนเองได้
- สร้าง Self Control เป็นการฝึกการควบคุมตนเอง ด้วยการกำหนดการตีเสียงดัง-เบา ช้า-เร็ว หยุด-ไป
- สร้าง Inhibitory Control ช่วยในการควบคุมร่างกาย อารมณ์ การแสดงออก การควบคุมตัวเราให้จดจ่ออยู่กับงานที่ทำ ไม่วอกแวกไปกับสิ่งรบกวน
- สร้าง Attention & Working Memory Capacity ความสามารถในการจำและใช้ประโยชน์จากข้อมูล ความสามารถในการรับรู้ ปรับปรุงข้อมูลอยู่เสมอ
- สร้าง Mental Flexibility & Growth Mindset มีความยืดหยุ่น ทบทวนความคิด มีการเปลี่ยนแปลงได้ทั้งวิธีการและเป้าหมาย “ความรู้ของผู้บริหาร ผู้กำหนดนโยบาย ต้องทันต่อข้อมูลความรู้ตลอดเวลาว่าเกิดอะไรขึ้นในโลกใบนี้ เพราะความรู้หมดอายุเป็น หากจะดึงดันเดินต่อไปในแบบเดิม จะทำให้ทุกอย่างเลวร้าย
นพ.อุดม กล่าวอีกว่า Communicative Musicality สามารถแก้ไขปัญหาการศึกษาของประเทศได้ โดยวัดได้จากเด็กที่มีปัญหาเรื่องจังหวะจะมีปัญหาเรื่องการอ่านเสมอ หรือเด็กที่ไม่สามารถฟัง ติดตามและเล่นจังหวะให้สอดคล้องกับคนอื่นได้ จะมีปัญหาเรื่องสมาธิและเกิดปัญหาในการเรียนรู้ การสื่อสาร และการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นตามมา โดยเฉพาะเด็กสมาธิสั้นจะพบปัญหานี้มาก ฉะนั้น จะต้องทำให้สังคมรับรู้ ทักษะที่จำเป็นของเด็กไทยในศตวรรษที่ 21 ที่ทั่วโลกต้องการตั้งแต่ปฐมวัย โดยตนจะทำคู่มือการใช้กิจกรรมดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะสมอง โดยจากการวิจัยจะเริ่มกิจกรรมครั้งละ 20 นาทีถึง 40 นาที และสามารถทำได้ทุกวัน ซึ่งต้องดูที่ตัวเด็กและการจัดระบบ แต่อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
รศ.ดร.จุฑามาศ โชติบาง ผู้จัดการโครงการ COACT กล่าวว่า โครงการเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพเด็กปฐมวัยโดยใช้ครอบครัวและชุมชนเป็นฐาน จึงได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการในเรื่องดังกล่าวนี้ ให้แก่ครูปฐมวัยจากพื้นที่เครือข่ายศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของโครงการ จำนวน 160 พื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้มีความรู้และทักษะในการพัฒนาทักษะสมอง EF โดยเฉพาะการใช้กิจกรรมดนตรี ซึ่งเป็นความสามารถพื้นฐานของมนุษย์ในการใช้จังหวะ เสียงสูงต่ำ และการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบจังหวะ ทั้งการพูด การแสดง และดนตรี ซึ่งเป็นการพัฒนาความสามารถในการสื่อสาร การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นและเพื่อการกระตุ้นทักษะสมองของเด็กปฐมวัยให้ดียิ่งขึ้น
ด้านนางสุทธินันท์ สมสุนันท์ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดพรหมวิหาร จ.เชียงราย กล่าวว่า โดยปกติการใช้ดนตรีกับเด็กเป็นสิ่งสำคัญมาก จากการอบรมการใช้ดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะสมองจึงก่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจที่เพิ่มมากขึ้น
“ดนตรีสามารถดึงความสนใจของเด็กได้เป็นอย่างดี ทำให้มีสมาธิในการเรียนรู้ อีกทั้งสามารถสอดแทรกในเรื่องต่างๆได้ เช่นทักษะการเรียนรู้ พฤติกรรมของเด็ก การรู้จักแบ่งปัน จึงเป็นความท้าทายของครูที่จะทำให้เด็กรู้จังหวะ เสียงสูงต่ำ และการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบจังหวะ” นางสุทธินันท์ กล่าว
ที่มา : www.kroobannok.com
ข่าวประชาสัมพันธ์
คณะนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ขอเชิญผู้บริหารขององค์กรภา
โดยจะสอนพื้นฐานการใช้เสียง
สอนโดย ครูเต้ บดินทร์ ปิยะธนะศิริกุล สมาชิกวง “Fivera” วงป๊อปโอเปร่าวงแรกและวงเดี
รางวัล “นักร้องชายยอดเยี่ยม” จากการแข่งขันชิงถ้วยพระราช
ไม่จำเป็นต้องร้องเพลงเป็น เพียงแค่มีความชื่นชอบในเสี
คลาสขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 คน รับเฉพาะผู้บริหารเท่านั้น เรียนกับอุปกรณ์ทันสมัยและเ
เรียนวันเสาร์ที่ 11 และ 18 มี.ค. 60 วันละ 6 ชั่วโมง รวม 12 ชั่วโมง ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต
ติดต่อสอบถามที่ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ 02-954-7300 ต่อ 301,708 และ 061-823-1199 Line ID : commarts_DPU