มนู มากมณี แห่งบ้านเพลงรีสอร์ท

0
541

ในบ้านเพลง รีสอร์ท (Ban Pleng Resort) จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นรีสอร์ทเล็ก ๆ ที่เหมือนรีสอร์ททั่วๆไป แต่ได้ยินมานานแล้วว่า แขกผู้ไปเยือนท่านใดลองได้เจอกับเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้  วันหยุดพักผ่อนของท่านก็จะเป็นที่จดจำไปอีกนาน รีสอร์ทแห่งนี้นอกจากความสะดวกเเละบรรยากาศสดชื่นตามปกติแล้ว ในทุกค่ำคืนจะมีเสียงเพลงจากศิลปินผู้ที่เป็นเจ้าของรีสอร์ท มาบำบัดความเหนื่อยใจ ให้หายไปจากใจของแขกผู้มาเยือน

รีสอร์ทแห่งนี้ เจ้าของคือ คุณมนู มากมณี ศิลปินเพลง เจ้าของธุรกิจบ้านเพลงรีสอร์ท วัย 40ปี จากคนที่เคยเป็นนักดนตรีและหลงใหลในเสียงเพลงหันมาเปิดธุรกิจรีสอร์ท โดยคุณมนู มากมณี ตอนเด็กๆก็วิ่งเล่นและโตมาในต่างจังหวัดอาศัยความชอบดนตรี โดยที่ไม่ได้เรียนมาในสายดนตรีแต่อย่างใด  เริ่มหัดเล่นดนตรีอย่างจริงจัง ตั้งวงดนตรีเล่นตามงานตามงานต่างๆ ไปเรื่อยๆ จนสามารถเปิดธุรกิจรีสอร์ทของตัวเองได้  วันนี้เราจึงขอนำบทสัมภาษณ์ คุณมนู มากมณี มาฝากท่านผู้ที่สนใจการทำธุรกิจ SMEs ให้ได้รับทราบกัน

การเริ่มทำธุรกิจรีสอร์ทช่วงแรกยากหรือไม่

ถือว่ายาก ต้องพัฒนาตลอดเวลา ตอนที่เราเริ่ม เราต้องเริ่มจากการกำหนดจุดยืน คือเราอยากให้รีสอร์ทของเราเป็นสไตล์ไหนก่อน  ต่อมาเมื่อกำหนดได้แล้วก็เริ่มศึกษาและค่อย ๆ วางแผนแก้ปัญหา ค่อยๆพัฒนาเป็นส่วนๆ   โดยต้องเริ่มจากการวางแผนบริหารการเงินให้เป็นระบบ  ลงทุนและควบคุม ดูทุกอย่างด้วยตนเอง

หลังจากเริ่มขึ้นมาได้ก็ต้องทำการสื่อสารการตลาด หาวิธีเพิ่มกลุ่มลูกค้า ในขณะเดียวกันก็ต้องรับฟังความคิดเห็น Customer Feedback เรียนรู้และปรึกษา ทั้งเพื่อนหรือลูกค้าเอง ว่าควรปรับเปลี่ยนอะไรตรงไหนควรแก้ไขอย่างไรในช่วงเปิดแรกๆ จะเน้นที่การแก้ไขปัญหามากกว่าอย่างอื่น และ พยายามปรับพัฒนาให้ระบบต่างๆมันดีขึ้น

มีการใช้สื่อออนไลน์ เข้ามาสื่อสารอย่างไร

ในการทำการสื่อสารการตลาดยุคนี้ ต้องมีการใช้ facebook และ line  เป็นหลัก การทำแฟนเพจต้องทำให้ต่อเนื่อง ต้องสื่อสารการประชาสัมพันธ์รีวิวรีสอร์ทให้ลูกค้าได้เห็น  ยุคนี้ต้องไม่ใช่แค่ภาพนิ่งแต่เป็นการ live เป็นคลิปภาพเคลื่อนไหวให้เห็นสถานที่จริง เพราะมีลูกค้าที่เคยมาพักมักจะพูดว่าเคยไปใช้บริการที่อื่นเห็นรูปสวยใหญ่แต่พอไปแล้วกับไม่เหมือนในรูปเลยสักนิด การใช้สื่อออนไลน์เข้ามาประชาสัมพันธ์เป็นแค่ส่วนแรก  ส่วนต่อมาคือการใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทางการติดต่อลูกค้า สื่อสารให้เข้าใจ ปิดดีลได้

ซึ่งผลการใช้สื่อของเรา คือจากที่เมื่อก่อนไม่ค่อยมีใครรู้จัก  แต่ตอนนี้มีลูกค้ามาใช้บริการตลอดทั้งปี  ในส่วนของข้อร้องเรียนก็ยอมรับว่ามีปัญหาที่แก้ไม่ตกเรื่องที่จอดรถไม่พอและถนนทางเข้ารีสอร์ทที่ขรุขระ ซึ่งต้องนี้เราต้องสื่อสารให้ลูกค้าทราบและเข้าใจ  รวมไปถึงพยายามสื่อสารเน้นจุดแข็งของเรา คือ การบริหารงานอย่างเป็นกันเองให้มากที่สุดและให้ทุกคนที่มาอยู่ให้รู้สึกว่าเหมือนอยู่บ้านตัวเองมากที่สุด  ด้วยกลยุทธ์สำคัญคือ เราเป็นศิลปิน ตัวเองเคยเป็นนักดนตรีเก่ามาก่อนเลยเล่นดนตรีให้ลูกค้าฟังเอง ลูกค้าเลยติดใจและรู้สึกว่าที่นี้เป็นกันเอง จึงมีลูกค้าประจำและอีกหลายกลุ่มที่กลับมาใช้บริการอีกเมื่อเทียบกับที่อื่น

เป้าหมายและโครงการในอนาคต ของรีสอร์ท

เป้าหมายในอนาคต อยากจะขยายพื้นที่ให้บริการมากขึ้น และทำให้มีที่พักแบบหลากหลาย ตั้งแต่มีร้านสะดวกซื้อและอยากที่จะขยาย เราต้องวางแผนให้ดี  เราคิดเสมอว่าระบบบริหารอาจจะสู้โรงแรรมที่มีขนาดใหญ่ไม่ได้ แต่เราต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นกันเอง เรียนรู้จากเขา และเรียนรู้ปรับปรุงการทำงานของเราเองให้มากที่สุด

ในฐานะที่เป็นเจ้าของรีสอร์ทที่ได้รับคำชมมากในวงการ อยากจะให้แนะนำถึงนักธุรกิจ SMEs ท่านอื่น

อยากจะแนะนำนักธุรกิจรุ่นใหม่ว่า การทำงานสำคัญสุดคือต้องรู้จักเรียนรู้ พัฒนา ปรับปรุงตัวเองอยู่ตลอดเวลา เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ทั้งจากลูกค้า คนรอบข้าง รวมถึงธุรกิจคู่แข่ง นอกจากนี้ บุคลากรที่ทำงานด้านบริการ ต้องชอบและมีใจรักในงานที่ทำอยู่  ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา ในทางที่ดี เพราะหากคิดดีก็ย่อมทำอะไรออกมาได้ดี ถ้าทีมงานมีใจรักในงานอย่างมุ่งมั่นจริงๆ ทีมก็จะตั้งใจทำให้ดีที่สุด การประสบความสำเร็จก็ย่อมเกิดขึ้นง่าย ผมคิดเสมอว่า เราจะทำดีที่สุดเพื่อลูกค้า อันนี้คือความท้าทายสำคัญในการทำงาน

 

เรื่องโดย : คุณัญญา ฤทธิพงษ์ / วิภาวี บุญมากุล   นักศึกษาสาขาการสื่อสารการตลาด คณะนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์