จีนเร่งพัฒนา “ชีป่ายน้ง” ชุมชนที่เคยถูกสาปให้ยากจนนานกว่าสิบปี

0
172

ชุมชนชีป่ายน้ง (七百弄) ตั้งชื่อตามสภาพภูมิประเทศที่ขรุขระที่อยู่รายล้อม อีกทั้งยังถูกบันทึกโดยสหประชาชาติให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ยากลำบากของโลก ถึงแม้ว่าจะแห้งแล้ง แต่ก็เป็นสถานที่ที่มนุษย์พออยู่อาศัยได้ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางใต้ของจีน

พื้นที่ดังกล่าวมีหลุมมากกว่า 1,300 แห่งทั่วบริเวณ บางหลุมมีความลึกมากกว่า 300 เมตรเลยทีเดียว แต่สภาพแวดล้อมที่ยากลำบากนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน 20,000 รายมานานกว่าสิบปีแล้ว ทำให้ชีวิตของพวกเขายากจนต่ำกว่าระดับมาตรฐานเสียอีก

เมื่อ 15 ปีที่แล้วพวกเขาต้องสร้างบ่อน้ำบนหลังคา และบ่อน้ำเล็กๆอีกสองแห่งบนพื้นดิน เพื่อเป็นแหล่งน้ำเดียวในการใช้ชีวิตของพวกเขา ฉินหงกวน ชาวบ้านคนหนึ่งเล่ากับซินหัวว่า “น้ำมันไม่สะอาด แต่พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”
เนื่องจากฝนฟ้าไม่เอื้ออำนวย ทำให้พวกเขาปลูกพืชได้ไม่กี่ชนิด ส่วนใหญ่เป็นข้าวโพด แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูชาวบ้านทั้งหมดได้

นอกจากปัญหาขาดแคลนอาหารแล้ว ครอบครัวที่นี้ยังมีขนาดใหญ่ด้วย เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวเผ่าเหยา (瑶族) จึงไม่ได้นับรวมอยู่ในนโยบายลูกคนเดียวของจีน อีกทั้งด้วยความเชื่อแต่โบราณว่า ยิ่งมีลูกยิ่งดี ดังนั้นจึงมักจะเห็นชาวบ้านที่นี่มีลูก 5 คนขึ้นไป ซึ่งคนที่อายุ 30 กว่าๆก็เป็นพ่อของลูก 8 คนแล้ว

ทั้งหมดนี้ทำให้ชุมชนดังกล่าวยากจน ไม่มีถนนเส้นทาง เดินทางด้วยม้า เด็กส่วนใหญ่ถูกทิ้งโดยไม่ได้เข้ารับการศึกษา ในขณะที่พ่อแม่ก็ออกไปทำงานต่างเมือง ไม่มีโอกาสได้ดูแลลูกๆอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม ที่นี่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยรัฐบาลท้องถิ่นจะสร้างถนนให้ทุกหมู่บ้านที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่มากกว่า 20 ครัวเรือน อีกทั้งจะย้ายที่อยู่ให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในสภาพที่ห่างไกลความเจริญเกินไปด้วย

รัฐบาลท้องถิ่นจะลงทุน 1 ล้านหยวน เพื่อสร้างฟาร์มแมงป่องขนาด 1,000 ตารางเมตร เพื่อเอาไปขายเป็นอาหารและยาในราคาสูงให้ชาวจีนต่างเมือง อีกทั้งจะส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงไก่ ซึ่งในปัจจุบันมีการเลี้ยงไก่ราว 160,000 ตัวแล้ว และมีราคาตัวละ 100 หยวน (ราว 550 บาท)

ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และมุ่งขจัดความยากจนภายในปี 2020

หยางหลงเหวิน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหาอุตสาหกรรมที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น และให้รายได้ที่มั่นคงกับชาวบ้านได้”