นายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการการประปานครหลวง

0
786

ที่ประชุม ครม. วันที่ 11 เมษายน 2560 มีมติเห็นชอบแต่งตั้งให้ นายปริญญา ยมะสมิต ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปานครหลวง แทน นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ที่เกษียณอายุ นับเป็นผู้ว่าการลำดับที่ 16 และเป็นลำดับที่ 7 ที่มาจากการคัดสรร ตาม พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับคณะกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2543)

นายปริญญา เกิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2503 ปัจจุบันอายุ 56 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโทวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมโยธา) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ นอกจากนี้ยังได้เข้าอบรมหลักสูตรต่าง ๆ อาทิ NON-REVENUE WATER MANAGEMENT (LEAKAGE CONTROL) JICA ประเทศญี่ปุ่น นักบริหารมหานครระดับสูง รุ่นที่ 9 (บนส.9) ผู้บริหารระดับสูงด้านการบริหารงานพัฒนาเมือง (มหานครรุ่นที่ 4) LEADERSHIP SUCCESSION PROGRAM (LSP) รุ่นที่ 6 เริ่มงานกับ กปน. ตั้งแต่ปี 2528 การทำงานก้าวหน้าเป็นลำดับ จนเมื่อปี 2557 ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการ (ก่อสร้าง) และขึ้นเป็นรองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) ในปี 2559 ก่อนขึ้นแท่นเป็นผู้ว่าฯ กปน. คนใหม่ ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมทั้งความรู้และประสบการณ์การทำงานด้านงานประปาอย่างแท้จริง

โดยเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2560 เวลา 08.49 น. ณ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการ กปน. ได้เข้าพบ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายจาดุร อภิชาตบุตร ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อรายงานตัว ในโอกาสที่ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560 มีมติเห็นชอบแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ กปน. ในการนี้ เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ไทย นายปริญญา ได้ขอรับพร พร้อมโอวาทและนโยบายในการทำงานในฐานะ ผู้ว่าการ กปน. โดยทั้ง 4 ท่าน กล่าวว่า ผู้ว่าการ กปน. มีคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับ ซึ่ง กปน. มีความสำคัญยิ่งในการทำให้ประชาชนได้มีน้ำสะอาด มีคุณภาพ เพียงพอ สำหรับอุปโภคบริโภค ทั้งยังเน้นย้ำว่า ขอให้รักษาไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ ยึดหลักธรรมาภิบาล ทำงานเป็นทีม ให้มีความรักสามัคคีในองค์กร ทำงานอย่างมีความสุข บริการอย่างมีคุณภาพเฉกเช่นการทำงานอย่างภาคเอกชน ช่วยกันบริหารบ้านเมืองและดูแลทุกข์สุขของประชาชน ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะคอยสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือ เพื่อร่วมกันทำงานเพื่อประชาชน