84 ปี กรมประชาสัมพันธ์

0
255

“84 ปี กรมประชาสัมพันธ์” ก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลง

ถาม ในโอกาสครบรอบ 84 ปี กรมประชาสัมพันธ์ ท่ามกลางโลกแห่งการสื่อสารที่ได้มีเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสื่อสารไปอย่างมากมาย ภายใต้การเปลี่ยนแปลงนี้ กรมประชาสัมพันธ์ และ สื่อมวลชนในยุคปัจจุบัน ต้องก้าวทันต่อเทคโนโลยีและต้องปรับตัวอย่างไรบ้าง
ตอบ ตลอดระยะเวลากว่า 84 ปีที่ผ่านมา ถ้าเปรียบเทียบกับอายุของคน กรมประชาสัมพันธ์ก็เรียกได้ว่าเป็นรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์การทำงานด้านสื่อสารมวลชนสั่งสมมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยข้อจำกัดของระบบราชการอาจทำให้การปรับตัวเปลี่ยนแปลงยังไม่สามารถทำได้ทันท่วงทีกับการพัฒนาทางเทคโนโลยีในอย่างไม่หยุดยั้งในยุคปัจจุบัน ถึงเป็นเช่นนั้นกรมประชาสัมพันธ์ก็ยังปรับการทำงานให้ทันต่อยุคสมัย ทั้งการใช้ช่องทางการสื่อสารดังเดิมอย่างสื่อวิทยุ ทีวี และก้าวไปเล่นบนช่องทางออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย ก็เพื่อให้ประชาชนทุกระดับได้รับข้อมูลข่าวสารจากรัฐบาลและภาครัฐ แม้จะใช้ช่องทางต่างๆ มากมายเพียงไร สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ประชาชนสนใจก็คือเนื้อหาสาระ
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ยอมรับว่าเนื้อหาที่นำเสนอผ่านสื่อหนักไปสำหรับประชาชน “เนื้อหาสาระของ NBT หนักเกินไป หนักเกินไปกว่าประชาชนคนธรรมดาจะเปิดดูอยู่ได้ตลอดเวลาเพราะคนไทยสมัยนี้ชอบดูเรื่องสนุกๆ วันข้างหน้าเราจะลดสาระหนักๆ แบบนี้ลง จะเอาสาระความบันเทิง จะเอาสาระเกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรม จะทำให้สถานีโทรทัศน์ NBT 2 HD เป็นช่องที่ทุกคนหันกลับมาดูให้ได้”
ภายในเดือนพฤษภาคมจนถึงต้นเดือนมิถุนายนนี้ รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับเอ็นบีที ช่อง 2 เอชดี(NBT 2HD) ทั้งรายการใหม่ๆ และปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอให้บันเทิงมากขึ้น รวมถึงการเปิดพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนมีพื้นที่แสดงความคิดเห็น อย่างเช่นที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ เปิดโอกาสให้ชนเผ่าชาติพันธุ์ต่างๆ มาจัดรายการ ตามที่นางสาวชนิสา ชมศิลป์ ผู้อำนวยการสถานี กล่าวไว้ “เราทำงานภายใต้ที่เราคิดว่าเราเป็นสื่อสารมวลชน สิ่งที่เราจะสามารถช่วยได้คือทำอย่างไรให้มีการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน คือเราดูแล้วว่าพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเรามีปัญหาเยอะ ปัญหายาเสพติดเราก็มี ปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์เราก็เยอะอยู่ หรือปัญหาสิ่งแวดล้อมเรื่องของหมอกควันพิษ เราก็ใช้เครือข่ายเข้ามาทำงานเขาเป็นผู้สื่อข่าวชาวบ้านที่จะส่งข่าวให้เราตอนเช้า ทุกวันเสาร์จะมาจัดรายการ”
การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างต้องใช้เวลาและการพัฒนาที่เหมาะสม และสิ่งสำคัญที่สุดของการพัฒนาในครั้งนี้ก็เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนไปสู่ประชาชนให้ได้รับความรู้และความเข้าใจ อันจะช่วยกันพัฒนาประเทศชาติสืบไป