สรุปสาระสำคัญคำกล่าวของนายสีจิ้นผิง ในที่ประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่ 19

0
922

สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า เช้าวันที่ 18 ตุลาคมนี้ การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่ 19 หรือสมัชชาฯ 19” เริ่มขึ้นที่กรุงปักกิ่ง นายสีจิ้นผิง กล่าวรายงานต่อที่ประชุมในฐานะผู้แทนคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 18 และวางแผนการทำงานเพี่อการพัฒนาในอนาคตของจีน

ผู้แทนในที่ประชุมสมัชชาฯ 19 มีจำนวนกว่า 2,000 คน ซึ่งถูกคัดเลือกจากสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศกว่า 89 ล้านคน โดยจะพิจารณาตรวจสอบรายงานของนายสีจิ้นผิง และรายงานการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจวินัยของคณะกรรมการกลางพรรคฯ พิจารณาระเบียบข้อบังคับของพรรคคอมมิวนิสต์จีน(ฉบับแก้ไขปรับปรุง) รวมถึงเลือกตั้งคณะกรรมการกลางพรรคฯและคณะกรรมการตรวจวินัยชุดใหม่

พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นพรรคบริหารปกครองประเทศจีน และเป็นพรรคการเมืองใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคฯ ทั่วประเทศที่จัดขึ้นทุก 5 ปีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะเป็นการประชุมผู้แทนพรรคระดับชาติและคณะกรรมการกลางพรรคฯอันเป็นหน่วยงานการนำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

นายสีจิ้นผิง ระบุว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า พรรคคอมมิวนิสต์จีนยืนหยัดแนวคิดใหม่ในการพัฒนาของตน และปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนา ทำให้เศรษฐกิจจีนพ้นจากความยากลำบากและประสบผลสำเร็จที่สำคัญหลายประการ จีดีพีเพิ่มขึ้นเป็น 80 ล้านล้านหยวน ซึ่งนับเป็นคุณูปการต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวตามสูงขึ้นกว่า 30% นอกจากนี้โครงสร้างทางเศรษฐกิจยังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ อุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น เศรษฐกิจดิจิตอลมีการพัฒนาอย่างคึกคัก เกษตรกรรมพัฒนาเป็นแบบทันสมัยอย่างต่อเนื่อง การสร้างสรรค์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางประสบผลสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด และมีการเปิดตัวผลงานทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเด่นๆ มากมาย อาทิ ห้องทดลองอวกาศเทียนกงยานดำน้ำสำรวจทะเลลึกพร้อมมนุษย์เจียวหลงกล้องโทรทรรศน์วิทยุฟาสต์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จนได้สมญานามว่าดวงตาแห่งจักรวาลดาวเทียมอู้คงที่ค้นหาอนุภาคของสสารมืด ดาวเทียมทดลองควอนตัมโม่จื่อดวงแรกของโลก การผลิตเครื่องบินขนาดใหญ่ และการก่อสร้างตามแนวหินโสโครกในทะเลจีนใต้ นอกจากนี้ การค้าต่างประเทศ การลงทุนในต่างประเทศ และการสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนล้วนอยู่แนวหน้าของโลก

นายสีจิ้นผิง ระบุอีกว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนปฏิบัติตามแนวคิดการพัฒนาที่ถือมนุษย์เป็นที่ตั้ง ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โครงการช่วยเหลือผู้ยากจนประสบผลสำเร็จที่น่ายินดี ทำให้ประชากรกว่า 60 ล้านคนพ้นขีดความยากจน เฉลี่ยแล้วมีประชากรพ้นจากความยากจนมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี จนอัตราความยากจนของจีนลดลงจาก 10.2% เป็นน้อยกว่า 4%

จีนเริ่มโครงการช่วยเหลือผู้ยากจนขนาดใหญ่ตั้งแต่ปี 1986 เป็นต้นมา แต่หลังเริ่มศตวรรษนี้เป็นต้นมา เฉลี่ยแล้วแต่ละปีจีนประชากรยากจนลดจำนวนลงกว่า 6 ล้านคน และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ลดลงปีละกว่า 10 ล้านคน นับเป็นผลงานโดดเด่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

นายสีจิ้นผิง กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การต่างประเทศของประเทศใหญ่ที่มีเอกลักษณ์ของจีนพัฒนาอย่างรอบด้าน ครบวงจร มีระดับที่หลากหลาย และเป็นแบบสามมิติ เข้าร่วมปฏิบัติตามข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางมีการเปิดธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย(เอไอไอบี) โดยมุ่งหวังให้เกิดประชาคมที่มีความสมานฉันท์ ขณะเดียวกันยังขยายอิทธิพล ชื่อเสียง และภาพพจน์ทางสากลของจีนให้ดียิ่งขึ้น นับได้ว่าเป็นการสร้างคุณูปการใหม่เพื่อสันติภาพและการพัฒนาของโลก

นายสีจิ้นผิง ยังกล่าวอีกว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนยืนหยัดแก้ปัญหาการควบคุมบริหารพรรคฯที่หย่อนยาน มุ่งหวังให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดอย่างจริงจัง และยึดมั่นแนวคิดของพรรคฯ โดยมีการปรับปรุงระบบกฎข้อบังคบของพรรคฯให้สมบูรณ์แบบอย่างต่อเนื่อง แก้ปัญหาที่ประชาชนส่งเสียงสะท้อนมา และสิ่งที่เป็นการคุกคามต่อพื้นฐานการบริหารประเทศของพรรคฯ มากที่สุดตลอด 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังทุ่มเทกำลังและใช้มาตรการต่างๆ ในการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นอย่างเต็มที่ ทำให้พรรคฯได้รับผลงานคืบหน้าด้านนี้อย่างมาก

นายสีจิ้นผิง ประกาศว่า หลังจากใช้ความพยายามเป็นเวลายาวนาน สังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีนย่างเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ นี่เป็นทิศทางและตำแหน่งการพัฒนาใหม่เชิงประวัติการณ์ของการพัฒนาประเทศหมายความว่า จีนบรรลุซึ่งการพัฒนาแบบก้าวกระโดดอันยิ่งใหญ่ หลังจากประชาชาติลุกขึ้นหยัดยืนสถาปนาประเทศเป็นต้นมา สร้างความมั่งคั่งจนเข้มแข็ง แม้จีนจะเป็นประเทศกำลังพัฒนา แต่ก็ได้ขยายช่องทางการพัฒนาสู่ความทันสมัยต่างๆ จนเกิดทางเลือกใหม่สำหรับประเทศและชนชาติที่ปรารถนาทั้งการพัฒนาและดำรงเอกราชของตนเองไว้ได้ พร้อมนำเสนอวิธีคิดและแผนปฏิบัติงานของจีนในการแก้ปัญหาของมนุษยชาติ

นายสีจิ้นผิง ระบุว่า ยุคสมัยใหม่ของการพัฒนาสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน เป็นยุคสมัยแห่งการช่วงชิงชัยชนะอันยิ่งใหญ่ เป็นยุคสมัยแห่งการสร้างสรรค์สังคมพอกินพอใช้ให้เสร็จสมบูรณ์อย่างรอบด้าน จนกระทั่งประเทศมีความเข้มแข็งที่ทันสมัยในแบบสังคมนิยม เป็นยุคสมัยที่ประชาชนจีนทั่วทั้งประเทศบรรลุความมั่งคั่งไปพร้อมๆ กัน เป็นยุคสมัยที่ความฝันของจีนเป็นที่ประจักษ์ และมีการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีน เป็นยุคสมัยที่จีนเดินเข้าไปยืนกลางเวทีโลกเพื่อสร้างคุณูปการยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นแก่มวลมนุษย์อย่างต่อเนื่อง

นายสีจิ้นผิง ระบุอีกว่า ความขัดแย้งหลักในสังคมจีนยุคใหม่คือความต้องการที่จะดำรงชีวิตอย่างสุขสบายของประชาชนกับการพัฒนาที่ไม่สมดุล ซึ่งอีกไม่นาน จีนจะสร้างสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้านให้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ได้ ประชาชนมีความต้องการชีวิตความเป็นอยู่ทั้งทางวัตถุและจิตใจที่มีระดับสูงขึ้น และต้องการประชาธิปไตย การปกครองตามกฎหมาย ความยุติธรรม ความเที่ยงธรรม ความมั่นคง และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ปัญหาโดดเด่นของจีนคือ การพัฒนาไม่สมดุลและไม่เต็มที่ ซึ่งกลายเป็นปัจจัยจำกัดต่อความต้องการชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายของประชาชน สภาพความเป็นจริงในขณะนี้ของจีนอยู่ในช่วงขั้นตอนการพัฒนาสังคมนิยมขั้นแรกและยังมีหนทางอีกยาวไกล และสถานะในประชาคมโลกที่เป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดของโลกนั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง

นายสีจิ้นผิง ระบุต่อว่า ตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 เป็นต้นมาได้เกิดแนวคิดสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีนในยุคใหม่ซึ่งเป็นแนวคิดที่กำหนดทิศทางการปฏิบัติของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประชาชนจีนในการบรรลุซึ่งความเจริญรุ่งเรืองอันยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีนโดยจะต้องยืนหยัดและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

แนวคิดดังกล่าวมีการรับรู้และความเข้าใจต่อกฎเกณฑ์การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ กฎเกณฑ์การสร้างสรรค์ของสังคมนิยม และกฎเกณฑ์การพัฒนาของสังคมมนุษย์ในทัศนวิสัยใหม่ โดยเสนอว่า บนพื้นฐานการบรรลุสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้านในปี 2020 นั้นจีนจะพัฒนาเป็นประเทศสังคมนิยมแบบประชาธิปไตยที่ทันสมัยเข้มแข็งมั่งคั่งกลมกลืนและสวยงามในกลางศตวรรษนี้

แนวคิดดังกล่าวยังเรียกร้องให้พรรครัฐบาลต้องยึดมั่นการพัฒนาที่ถือประชาชนเป็นที่ตั้ง ส่งเสริมการพัฒนาในทุกด้าน ให้ประชาชนทั้งปวงมีชีวิตมั่งคั่งด้วยกัน นอกจากนี้ ยังกำหนดรายละเอียดของโครงสร้างภาครวมของกิจการสังคมนิยม ยุทธศาสตร์ และทิศทางการพัฒนา หลักประกันทางการเมืองที่มีเอกลักษณ์ของจีน

นายสีจิ้นผิง กล่าวว่า จีนต้องบรรลุการเป็นประเทศเข้มแข็งทางสังคมนิยมที่ทันสมัยในช่วงกลางศตวรรษที่ 21 บนพื้นฐานการสร้างสังคมพอกินพอใช้ในปี 2020 และจนถึงปี 2035 จีนจะบรรลุซึ่งการเป็นประเทศสังคมนิยมที่มีความทันสมัย ซึ่งเศรษฐกิจของชาติ พลังทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และวัฒนธรรมต่างจะมีการพัฒนาอย่างมาก การปกครองประเทศ การบริหารรัฐบาลและสังคมด้วยกฎหมายจะสำเร็จเสร็จสิ้น ระบบการบริหารและความสามารถด้านการบริหารจะเป็นแบบทันสมัย นอกจากนี้ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมีความมั่งคั่งมากขึ้น อัตรากลุ่มคนที่มีรายได้ปานกลางเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ช่องว่างระหว่างตัวเมืองกับชนบทและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนลดลงอย่างมาก บรรลุซึ่งการบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน ภาวะนิเวศปรับเปลี่ยนดีขึ้น และเป้าหมายที่ดีงามของจีนบรรลุเป็นจริง ถึงช่วงกลางศตวรรษที่ 21 จีนจะกลายเป็นประเทศสังคมนิยมที่มีความเข้มแข็งทันสมัยมีอารยธรรมสมบูรณ์และกลมเกลียวกันกลายเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลในโลกประชาชนต่างมีชีวิตที่มีความสุขและมั่งคั่งร่วมกันประชาชาติจีนจะมีภาพลักษณ์ที่แข็งแรงและเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นในเวทีโลก

การประชุมครั้งนี้ นายสีจิ้นผิง นำเสนอยุทธศาสตร์สร้างสรรค์เขตชนบทให้เจริญรุ่งเรืองเป็นครั้งแรก ซึ่งครอบคลุมถึงการสร้างกลไกและนโยบายที่ผสมผสานการพัฒนาเมืองและชนบทให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เร่งผลักดันความทันสมัยด้านการเกษตร ตอกย้ำระบอบการบริหารจัดการขั้นพื้นฐานในเขตชนบทให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ขยายเวลาการรับเหมาเช่าที่ดินนานต่ออีก 30 ปีเมื่อครบกำหนดเวลาเดิมลงลึกในการปฏิรูประบอบกรรมสิทธิ์รวมหมู่ในชนบทประกันสิทธิประโยชน์ทางทรัพย์สินของเกษตรกรขยายตัวเศรษฐกิจรวมหมู่สร้างสรรค์ระบบอุตสาหกรรมการเกษตรระบบการผลิตและระบบการบริหารจัดการที่ทันสมัยปรับระบบการสนับสนุนและคุ้มครองเกษตรกรรมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรหารายได้เสริมหรือประกอบธุรกิจส่วนตัวเพิ่มช่องทางการมีรายได้ของเกษตรกรและพัฒนาระบบบริหารจัดการเขตชนบทให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

นายสีจิ้นผิงระบุว่าจีนจะประกาศใช้ระบบบัญชีรายชื่อต้องห้ามเข้าสู่ตลาดอย่างรอบด้านปรับแก้และยกเลิกข้อกำหนดและปฏิบัติการต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการรวมตลาดให้เป็นเอกภาพและอำนวยให้เกิดการแข่งขันอย่างเสมอภาคสนับสนุนให้วิสาหกิจเอกชนพัฒนาตนเองกระตุ้นความคึกคักขององค์กรตลาดต่างๆแก้ไขการผูกขาดทางการตลาดและผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเข้าตลาดของธุรกิจการบริการ

นายสีจิ้นผิง เสนอว่า จะต้องถือการสร้างสรรค์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเป็นงานสำคัญ ปฏิบัติตามหลักการร่วมหารือสร้างสรรค์และแบ่งปันกัน ส่งเสริมการเปิดประเทศและความร่วมมือ เสริมขีดความสามารถทางนวัตกรรม สร้างโครงสร้างการเปิดสู่ภายนอกที่เชื่อมต่อทั้งทางบกและทางทะเลระหว่างจีนกับต่างประเทศ อำนวยผลประโยชน์แบบทวิภาคีระหว่างประเทศตะวันออกกับประเทศตะวันตก ส่งเสริมการสร้างประเทศที่เข้มแข็งทางการค้า ใช้นโยบายการค้าระดับสูงและอำนวยความสะดวกให้กับการลงทุนแบบเสรี ใช้ระบบให้นักลงทุนต่างชาติมีสิทธิเท่าเทียมกับพลเมืองจีนในช่วงจัดตั้งและขยายตัวของวิสาหกิจทุนต่างชาติ และระบบบริหารบัญชีรายชื่อต้องห้าม ผ่อนคลายเงื่อนไขการอนุมัติเข้าตลาดให้มากขึ้น ขยายการเปิดสู่ภายนอกของอุตสาหกรรมการบริการ คุ้มครองสิทธิประโยชน์ของนักลงทุนต่างชาติ วิสาหกิจที่ลงทะเบียนในดินแดนจีนทั้งหมดจะต้องใช้นโยบายเดียวกัน และให้ความเสมอภาคเท่าเทียมกัน ให้เขตนำร่องการค้าเสรีมีเสรีภาพมากขึ้นในการปฏิรูป สร้างท่าเรือการค้าเสรี ส่งเสริมความร่วมมือด้านศักยภาพการผลิตระหว่างประเทศ สร้างเครือข่ายการค้า การสมทบทุน การผลิต และการบริการที่มุ่งต่อทั่วโลก

นายสีจิ้นผิงกล่าวว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะจัดตั้งทีมนำที่ปกครองประเทศตามกฎหมายทุกด้านส่งเสริมการปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเพื่อผลักดันงานพิจารณาตรวจสอบการปฏิบัติตามและรักษาอำนาจของรัฐธรรมนูญนอกจากนี้รายงานของนายสีจิ้นผิงยังเรียกร้องให้องค์การพรรคคอมมิวนิสต์ระดับต่างๆและสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ทุกคนเป็นแบบอย่างในการให้ความเคารพศึกษารักษาและใช้กฎหมายไม่ว่าบุคคลหรือองค์กรใดๆมิอาจมีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญได้

นายสี จิ้นผิง กล่าวเน้นว่า การสร้างสรรค์ประเทศให้มีระบบการศึกษาที่เจริญเข้มแข็งนั้น เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีน จึงจำเป็นต้องยกภารกิจด้านการศึกษาให้มีความสำคัญเป็นอันดับแรก ผลักดันการพัฒนาการศึกษาภาคบังคับทั้งในเมืองและชนบทเป็นแบบแผนเดียวกัน ให้ความสำคัญระดับสูงต่อการพัฒนาการศึกษาภาคบังคับในเขตชนบท จัดทำการศึกษาก่อนวัยเรียน การศึกษาสำหรับผู้พิการ และการศึกษาทางอินเตอร์เน็ตให้ดี ส่งเสริมการศึกษามัธยมปลายให้ทั่วถึง เร่งพัฒนาสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยและหลักสูตรชั้นนำ ปรับปรุงระบบการให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียนนักศึกษาให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ทำให้แรงงานที่เพิ่มขึ้นใหม่ทั้งในเมืองและชนบทส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาระดับมัธยมปลาย พร้อมเพิ่มจำนวนคนที่ได้รับการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้มากขึ้น

นายสีจิ้นผิงเน้นว่าต้องทำให้ประชากรในชนบทพ้นจากสภาพความยากจนให้หมดอำเภอยากจนในขณะนี้ก็ต้องหลุดพ้นจากความยากจนได้หมดแก้ปัญหาในภาพรวมจนพ้นจากความยากจนอย่างแท้จริง

เพื่อการนี้พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะรณรงค์ให้สมาชิกพรรคฯทุกคนยืนหยัดการช่วยเหลือผู้ยากจนให้ตรงเป้ายืนหยัดกลไกการทำงานที่คณะกรรมการกลางพรรคฯกำหนดไว้โดยให้ระดับมณฑลรับผิดชอบโดยรวมระดับเมืองและอำเภอลงมือปฏิบัติให้ผู้อำนวยการเป็นผู้รับผิดชอบหลักกระตุ้นให้เกิดความตั้งใจและการใช้สติปัญญา

นายสีจิ้นผิง กล่าวว่า จะต้องสร้างระบบสาธารณสุขและการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานที่มีเอกลักษณ์ของจีน มีระบบประกันสุขภาพและระบบให้บริการการรักษาพยาบาลและสาธารณสุขที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง ส่งเสริมการสร้างระบบบริการการรักษาพยาบาลและสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน และสร้างทีมแพทย์สามัญประจำบ้าน ยกเลิกการขายยาในราคาสูงเพื่อเพิ่มรายได้ของโรงพยาบาล ปรับปรุงระบบประกันยารักษาโรคให้สมบูรณ์แบบ ป้องกันและควบคุมโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรง ใช้ยุทธศาสตร์การรักษาความปลอดภัยของอาหาร ส่งเสริมการเชื่อมต่อนโยบายการให้กำเนิดบุตรกับนโยบายเศรษฐกิจและสังคมที่เกี่ยวข้อง รับมือกับสังคมผู้สูงอายุอย่างแข็งขัน สร้างบรรยากาศสังคมและระบบการดูแลผู้ชราภาพ เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมผู้สูงอายุ

นายสีจิ้นผิง กล่าวอีกว่า จีนจะเร่งรัดจัดตั้งระบบกฎหมายและแนวนโยบายด้านการผลิตและบริโภคสีเขียว จัดตั้งระบบเศรษฐกิจที่มีการพัฒนาการใช้พลังงานหมุนเวียนแบบคาร์บอนต่ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการเงินสีเขียว การบำบัดรักษามลพิษ เช่น อากาศ น้ำ และที่ดิน ยกมาตรฐานควบคุมการปล่อยมลพิษ การเข้าร่วมแก้ไขภาวะแวดล้อมโลก ลงมือแก้ปัญหาภาวะแวดล้อมอย่างจริงจัง ดำเนินโครงการรักษาและฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยา จัดตั้งกลไกส่งเสริมระบบนิเวศวิทยาที่ดีอย่างด้าน จัดตั้งองค์การบริหารและกำกับดูแลทรัพยากรธรรมชาติและนิเวศวิทยาของรัฐ จัดตั้งระบบบุกเบิกและรักษาดินแดนแห่งชาติ จัดตั้งระบบรักษาธรรมชาติ โดยมุ่งเน้นที่ไปสวนสาธารณะต่างๆ ของรัฐเป็นหลัก

รายงานยังคาดว่า ระบบนิเวศวิทยาของจีนจะเปลี่ยนแปลงดีขึ้นอย่างมากในปี 2035 และจะบรรลุซึ่งเป้าหมายการเป็นประเทศที่สวยงามแบบจีน

นายสีจิ้นผิง ระบุว่า งานการป้องกันประเทศและการพัฒนากองทัพของจีนต้องตอบสนองแนวโน้มการพัฒนาของการปฏิวัติด้านการทหารใหม่ของโลก และความต้องการด้านความมั่นคงของประเทศ ก่อนสิ้นปี 2020 ต้องมีผลคืบหน้าที่สำคัญยิ่งในการบรรลุการใช้เครื่องยนต์(Mechanization) และความเป็นสารสนเทศในขั้นพื้นฐาน เพิ่มศักยภาพด้านยุทธศาสตร์ขนานใหญ่ ผลักดันทฤษฎีด้านการทหาร รูปแบบการจัดตั้งกองทัพและการพัฒนาบุคลากรด้านการทหาร และการพัฒนาความทันสมัยของอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกด้าน พยายามบรรลุความทันสมัยทั้งในด้านการป้องกันประเทศและการพัฒนากองทัพก่อนปี 2035 และสร้างสรรค์กองทัพระดับชั้นนำของโลกให้สำเร็จในช่วงกลางศตวรรษที่ 21

นายสีจิ้นผิงเน้นว่าระบอบหนึ่งประเทศสองระบบเป็นระบอบที่ดีที่สุดที่รักษาความมั่นคงและความรุ่งเรืองระยะยาวของฮ่องกงและมาเก๊าสนับสนุนให้ทางการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊าและผู้ว่าฯบริหารงานตามหลักรัฐธรรมนูญสร้างผลการทำงานอย่างแข็งขันปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนผลักดันประชาธิปไตยอย่างเป็นระบบรักษาความมั่นคงของสังคมมีความรับผิดชอบด้านรัฐธรรมนูญในการพิทักษ์อธิปไตยเหนือดินแดนความมั่นคงและการพัฒนาของประเทศกำหนดนโยบายและมาตรฐานให้ชาวฮ่องกงและมาเก๊ามีโอกาสพัฒนาที่จีนแผ่นดินใหญ่

นายสีจิ้นผิงกล่าวว่าต้องยืนหยัดหลักการให้ชาวฮ่องกงที่รักชาติบริหารฮ่องกงและชาวมาเก๊าที่รักชาติบริหารมาเก๊าเพิ่มกำลังการรักชาติส่งเสริมให้พี่น้องชาวฮ่องกงและมาเก๊ามีจิตสำนึกรักในความเป็นชาติบ้านเมือง

นายสีจิ้นผิง ชี้แจงว่าหลักการจีนเดียวเป็นพื้นฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ส่วนฉันทามติปี 1992″ สะท้อนให้เห็นถึงหลักการจีนเดียวเป็นจุดสำคัญในการประกันการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบอย่างสันติ เพียงยอมรับฉันทามติปี 1992″ ว่าเป็นเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์เท่านั้น สองฝ่ายจึงจะสามารถจัดการพูดคุยเจรจากันได้ และการไปมาหาสู่กันระหว่างพรรคการเมืองหรือองค์การต่างๆ ของไต้หวันกับแผ่นดินใหญ่ก็จะไม่มีอุปสรรคด้วย รายงานเน้นว่า แผ่นดินใหญ่มีเจตนารมณ์ที่หนักแน่น มีความมั่นใจอย่างเต็มที่ และมีขีดความสามารถอันเพียงพอในการทำลายแผนแบ่งแยก และให้ไต้หวันเป็นเอกราชไม่ว่าในรูปแบบใด

นายสีจิ้นผิงกล่าวว่าจีนยืนหยัดนโยบายที่เป็นอิสระเสรีและวิธีทางการทูตอย่างสันติมาโดยตลอดในยุคใหม่เคารพประชาชนประเทศต่างๆในการเลือกหนทางการพัฒนารักษาความเที่ยงธรรมและความยุติธรรมระหว่างประเทศคัดค้านการยัดเยียดความคิดตนให้ผู้อื่นคัดค้านการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นๆและใช้อำนาจแข็งแกร่งของตนข่มขู่ผู้ที่อ่อนแอ

จีนจะไม่ทำลายผลประโยชน์ของประเทศอื่นๆเพื่อมาพัฒนาตัวเองอย่างเด็ดขาดและจะไม่สละสิทธิและผลประโยชน์ที่เที่ยงธรรมของตนเองด้วยไม่ว่าใครก็อย่าคิดฝันว่าจะให้จีนยอมรับผลร้ายที่ทำลายผลประโยชน์ตนเองจีนจะยืนหยัดนโยบายการป้องกันประเทศที่เน้นป้องกันตนเองการพัฒนาของจีนจะไม่คุกคามประเทศใดๆไม่ว่าจีนพัฒนาไปถึงระดับไหนก็จะไม่คิดจะครองโลกและจะไม่แทรกแซงประเทศอื่นใดอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

นายสีจิ้นผิงกล่าวเน้นว่าประชาชนเกลียดชังโกรธแค้นการทุจริตคอรัปชั่นมากที่สุดและการทุจริตคอรัปชั่นเป็นภัยคุกคามร้ายแรงสุดที่พรรคคอมมิวนิสต์กำลังเผชิญหน้าอยู่เกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นนี้พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะยึดมั่นหลักการที่ไม่มีพื้นที่ยกเว้นต้องครอบคลุมทั่วถึงหมดและไม่ยอมรับพฤติกรรมทุจริตใดๆแม้เพียงน้อยนิดยืนหยัดการตรวจสอบสืบสวนทั้งผู้ให้และผู้รับสินบนป้องกันไม่ให้เกิดกลุ่มคณะที่มีผลประโยชน์ร่วมกันภายในพรรคคอมมิวนิสต์อย่างเด็ดขาดจัดตั้งระบอบการตระเวนตรวจสอบในคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนระดับเมืองและอำเภอเพิ่มขีดความสามารถในการปราบปรามและปรับบทลงโทษปัญหาทุจริตคอรัปชั่นที่อยู่ใกล้ตัวประชาชนไม่ว่าผู้ทุจริตคอรัปชั่นจะหลบหนีไปอยู่ที่ไหนก็ต้องไล่จับกลับมาดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายผลักดันให้บัญญัติกฎหมายต่อต้านทุจริตคอรัปชั่นแห่งชาติและสร้างสรรค์เวทีแจ้งความที่ครอบคลุมระบบการตรวจสอบระเบียบวินัยและการตรวจการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างทั่วถึง

นายสีจิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะสร้างและปรับปรุงระบบตรวจสอบควบคุมพรรคและประเทศให้สมบูรณ์ กำหนดกฎหมายว่าด้วยการตรวจสอบควบคุม จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบควบคุมระดับประเทศ มณฑล เมืองและอำเภอ ให้ทำงานร่วมมือกับหน่วยงานตรวจวินัยระดับนั้นๆ เพื่อให้การตรวจสอบควบคุมครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจทั้งหมด มอบหมายอำนาจและวิธีการตรวจสอบให้กับคณะกรรมการควบคุม ส่งเสริมการควบคุมโดยองค์การพรรคฯ ส่งเสริมการตรวจสอบควบคุมตามหลักประชาธิปไตย ส่งเสริมให้หน่วยงานระดับเดียวกันควบคุมซึ่งกันและกัน ส่งเสริมการตรวจสอบควบคุมเป็นประจำ และส่งเสริมการตรวจสอบทางการเมืองในระดับลุ่มลึก

นายสีจิ้นผิง ระบุว่า จีนจะเพิ่มการจัดตั้งองค์กรกำกับดูแลด้านกฎหมาย ภาวะนิเวศ การตรวจสอบ และการทหาร รวมถึงจะจัดตั้งหน่วยงานนำการปกครองประเทศตามกฎหมายของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพิ่มกำลังในการชี้นำการสร้างสรรค์ประเทศจีนตามกฎหมาย จัดตั้งองค์กรบริหารทรัพยากรธรรมชาติและการกำกับดูแลภาวะนิเวศของรัฐ ปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลประชาชนที่เป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติทั้งหมด กำกับดูแลการใช้ผืนดินทั้งหมด และการอนุรักษ์ฟื้นฟูภาวะนิเวศ กำกับดูแลการปล่อยมลภาวะประเภทต่างๆ ในเมืองและชนบท และการบริหารจัดการตามกฎหมาย จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ 4 ระดับคือ รัฐ มณฑล เมือง และอำเภอ ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด ใช้ระบบตระเวนตรวจสอบของคณะกรรมการพรรคระดับเมืองและอำเภอ เพิ่มกำลังในการจัดการปัญหาคอรัปชั่น จัดตั้งองค์กรบริหารและสร้างหลักประกันให้ทหารที่ปลดประจำการ เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของทหารและสมาชิกครอบครัว

นายสีจิ้นผิง กล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนนำประเทศจีนภายใต้ระบอบสังคมนิยมที่มีประชากรกว่า 1,300 ล้านคนดังนั้นพรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องเพิ่มความสามารถด้านการบริหารต่างๆรวมทั้งความสามารถด้านการนำทางการศึกษาการเมืองการปฏิรูปนวัตกรรมใหม่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการปกครองประเทศตามกฎหมายการนำประชาชนการปฏิบัติด้านต่างๆและการแก้ไขความเสี่ยงโดยเน้นย้ำว่าพรรคการเมืองต้องมีความคิดทางกลยุทธ์นวัตกรรมวิภาษวิธีการปกครองประเทศตามกฎหมายและแนวคิดนอกกรอบ