เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2560 ณ โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนนำทีมสื่อมวลชนไทยพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะจากสถานีวิทยุระหว่างประเทศแห่งชาติจีน (ซีอาร์ไอ) นำคณะโดยนายหู ปางเซิ่ง รองผู้อำนวยการใหญ่สถานีวิทยุซีอาร์ไอ
นายหู ปางเซิ่ง รองผู้อำนวยการใหญ่สถานีวิทยุซีอาร์ไอกล่าวในการเปิดการประชุมถึงวัตถุประสงค์หลักในการจัดงานวันนี้ซึ่งมี 3 ประการ ได้แก่
- ต้องการขอบคุณทุกสื่อที่ให้การสนับสนุนจนเกิดการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี
- ต้องการฟังคำแนะนำจากทุกสื่อ ไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจหรือสังคม แนวทางในการร่วมมือกับสื่อกระแสหลักในไทย
- สมาคมผู้สื่อข่าวไทยจีนก่อตั้งมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว ต้องการรับฟังความคิดและคำแนะนำเกี่ยวกับสมาคมฯ ทางจีนต้องการได้รับข่าวสารเกี่ยวกับเมืองไทยมากขึ้น แนวทางในการจัดการงบประมาณ และการพัฒนาความร่วมมือสื่อไทย-จีน
งานแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครั้งนี้มีตัวแทนสื่อชั้นนำจากจีน อาทิ หนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี่ หนังสือพิมพ์กวางหมิง เดลี่ และตัวแทนสื่อชั้นนำจากไทยอย่างไทยรัฐ บางกอกทูเดย์ อสมท กลุ่มบริษัทโมโน เข้าร่วมงาน
นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนกล่าวว่า ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่ทศวรรษที่ห้าแห่งความสัมพันธ์ไทยจีนยุคใหม่โดยใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารทันสมัยเป็นตัวขับเคลื่อน อย่างไรก็ดีคุณภาพของสื่อมวลชนก็ยังคงเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญอยู่เสมอ คือต้องมีการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและแท้จริง มิใช่แค่คัดลอกหรือแปลมาโดยตรงจากสื่ออื่น เพราะอาจมีปัจจัยบางอย่าง เช่น การเมืองหรือทัศนคติทางสังคมที่แตกต่างกันเข้ามาแทรกแซง หากสื่อมวลชนสามารถเข้าใจวัฒนธรรมของชาตินั้นๆ ได้ก็จะมีประโยชน์ต่อการรายงานข่าวให้มีคุณภาพมากขึ้น ที่ผ่านมาสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนมีความร่วมมืออันดีกับทางสื่อจีนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ รวมถึงสร้างความเข้าใจ การเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องให้กับสื่อไทย ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการสัมมนา การนำนักข่าวไปเยือนและทำข่าวที่ประเทศจีน เป็นต้น
นายเขมทัตต์ พลเดช ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท เปิดเผยว่าแท้จริงแล้วสื่อไทยมีความสนใจเรื่องของจีนเป็นอย่างมาก สำหรับตัวอย่างความร่วมมือกับต่างชาติของ อสมท อย่างเช่นสำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่น สร้าง NHK world เป็นวิทยุออนไลน์ ส่วนความร่วมมือกับจีนที่สนใจเป็นพิเศษ อาทิ การบริหารจัดการเทคโนโลยีด้านสื่อ และมีข้อเสนอแนะเรื่องเพิ่มความรวดเร็ว คือต้องมีกิจกรรมที่จับต้องได้ เช่น สัมมนาปีละสองครั้งเพื่ออัพเดทความรู้ หัวข้อที่น่าสนใจ เช่น การท่องเที่ยว เทคโนโลยีเกษตรกรรม อีกเรื่องคือการตั้งศูนย์การแปลข่าวไทย-จีน ทำให้ข่าวที่ส่งมาสามารถใช้ได้ทันทีและประหยัดเวลา เพราะหากส่งมาแต่บุคลากรไม่พร้อม (ไม่มีคนแปล) ก็ไม่สามารถใช้ได้ในทันที อาจจะมีการพัฒนาแอพลิเคชั่นช่วยแปล ทำให้ทำงานรวดเร็วได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
นายหูกล่าวสรุปโดยขอบคุณทุกสื่อที่สละเวลาวันหยุดมาร่วมงาน ขอบคุณในการสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ยินดีแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างกัน และพร้อมเชิญผู้สื่อข่าวไปทำข่าวที่จีนช่วงตรุษจีนปีหน้า
ด้านนายชัยวัฒน์ ตัวแทนสื่อไทยกล่าวสรุปปิดท้ายว่าข้อเสนอที่ทางซีอาร์ไอเสนอมา สื่อไทยเห็นดีด้วยและหวังว่าความร่วมมือในอนาคตจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยมีสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนเป็นตัวกลางในการเชื่อมความสัมพันธ์
เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿
ภาพ: ณจักร วงษ์ยิ้ม