ความคิดเห็นและจุดยืนที่มีต่อสถานการณ์ฮ่องกง

0
201
(Xinhua) -- Cancelled flights are shown on a screen at Hong Kong International Airport in Hong Kong, south China, Aug. 12, 2019. All flights in and out of China's Hong Kong Special Administrative Region were cancelled on Monday due to a protest held in the Hong Kong International Airport, according to local airport authority.

 

โฆษกสำนักงานกิจการฮ่องกง มาเก๊า สำนักนายกรัฐมนตรี

แสดงความคิดเห็นและจุดยืนที่มีต่อสถานการณ์ฮ่องกง

 

เมื่อวันที่ 29 กรกฏาคมและวันที่ 7 สิงหาคม โฆษกสำนักงานกิจการฮ่องกง มาเก๊า สำนักนายกรัฐมนตรีแสดงความคิดเห็นและจุดยืนที่มีต่อสถานการณ์ฮ่องกงกับสื่อมวลชน ซึ่งมีประเด็นสำคัญต่างๆ เพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษา

 

  1. ความเป็นมาของปัญหาฮ่องกงและสถานการณ์ปัจจุบัน

 

ในช่วงเวลาไม่นานมานี้ที่เขตบริหารพิเศษมีการปรับแก้กฏหมายสองฉบับ ซึ่งได้แก่  “กฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของฮ่องกง” และ “กฎหมายว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาต่อกัน” และเกิดการประท้วงและกรณีการใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เป็นที่สนใจของคนทั่วไปทั้งในประเทศและในต่างประเทศ

 

การปรับแก้กฎหมายสองฉบับดังกล่าวมีสาเหตุจากคดีอาญาธรรมดา 1 คดี  เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว นาย เฉิน ถงเจีย พลเมืองชาวฮ่องกงคนหนึ่งฆ่าแฟนสาวที่ตั้งท้องในไต้หวันและหลบหนีไปยังฮ่องกง  เนื่องจากว่าเขตฮ่องกงไม่มีอำนาจดูแลคดีนี้ ดังนั้น จึงส่งนายเฉินไปไต้หวันเพื่อส่งฟ้องศาล  ดังนั้น รัฐบาลของฮ่องกงเสนอปรับแก้กฎหมายสองฉบับดังกล่าวโดยอนุญาตให้ฮ่องกงดำเนินการความร่วมมือการส่งผู้ต้องสงสัยหรือการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับจีนแผ่นดินใหญ่ มาเก๊าและไต้หวันซึ่งยังไม่ได้มีการลงนามในความร่วมมือการส่งผู้ร้ายข้ามแดนและความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาต่อกัน  การกระทำเช่นนี้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีดังกล่าว และเป็นประโยชน์ต่อการอุดช่องโหว่ของกฎหมาย เพื่อปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย ส่งเสริมนิติรัฐและยุติธรรม

 

แต่เนื่องจากมีชาวฮ่องกงจำนวนไม่น้อยมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ ระบบกฎหมาย ระบบยุติธรรมของจีนแผ่นดินใหญ่ค่อนข้างน้อย มีความสงสัยและกังวลต่อการปรับแก้กฎหมายดังกล่าว และมีกลุ่มคนและสื่อกลุ่มหนึ่งที่มีเจตนาอื่นแฝงอยู่ฉวยโอกาสกระจายคำพูดที่ฟังแล้วน่าวิตกกลัว สร้างความหวาดระแวงในสังคม ขัดขวางกฎหมายดังกล่าวไม่ให้ผ่านสภานิติบัญญัติ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ที่ฮ่องกงได้จัดการเดินขบวนประท้วงที่มีผู้ร่วมจำนวนมากหลายครั้งเพื่อคัดค้านการปรับแก้กฏหมาย  เพื่อฟังเสียงของทุกภาคส่วนของสังคม ทำให้สังคมคืนสู่ปกติสุขโดยเร็ว รัฐบาลฮ่องกงได้ตัดสินชะลอการปรับแก้กฎหมายตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน งานที่เกี่ยวข้องกับการเสนอแก้กฎหมายทั้งสองฉบับก็หยุดชะงักลง

 

การเดินขบวนประท้วงอย่างสันติที่จัดขึ้นมาสำหรับกรณีการปรับแก้กฎหมาย ฝ่ายตำรวจของรัฐบาลเขตฮ่องกงได้อนุมัติตามกฎหมายและให้การคุ้มครองโดยตลอด แต่ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนเป็นต้น มีกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงบางกลุ่มจงใจก่อเหตุรุนแรง การกระทำของพวกเขาเกินขอบเขตของการเดินขบวนประท้องอย่างสันติ พวกเขาปิดสภานิติบัญญัติของฮ่องกง ขัดขวางการจารจร ทำให้การจราจรเป็นอัมพาต ใช้ก้อนหิน ท่อนเหล็ก ระเบิดเพลิง เป็นต้น โจมตีตำรวจ บุกเข้าไปในแนวปัองกันของฝ่ายตำรวจ และปิดสำนักงานใหญ่ของตำรวจ ก่อกวนกรมสรรพากร กิจการตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยราชการอื่น ทำให้สถานการณ์ยกระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

วันที่ 1 กรกฎาคม ควรจะเป็นวันมงคลเฉลิมฉลองครบรอบ 22 ปีที่ฮ่องกงคืนสู่จีน แต่กลุ่มหัวรุนแรงบุกเข้าไปสภานิติบัญญัติ ทำลายอุปกรณ์ของสภาตามอำเภอใจ  กระทำตราสัญลักษณ์ประจำเขตฮ่องกงให้เกิดความแปดเปื้อน ฉีกกฎหมายพื้นฐานว่าด้วยการบริหารเขตฮ่องกง  ในกรณีเหตุการณ์รุนแรงเหล่านี้ พวกเขายังสร้างกระแสเกิดความเกลียดชังตำรวจ ใช้ของเหลว แป้งที่มีพิษมีอันตรายจู่โจม ปิดล้อม ทุบตีตำรวจ แม้กัดนิ้วมือตำรวจขาด เป็นการกระทำน่าสะเทือนขวัญ

 

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม กลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงล้อมรอบอาคารสำนักงานประสานงานของฮ่องกง ได้ทำลายตราสัญลักษณ์ประจำชาติและพ่นสีหรือเขียนคำพูดที่ดูถูกประเทศชาติและชนชาติ  การกระทำร้ายแรงและสร้างผลกระทบเลวร้ายมาก นอกจากนี้ตำรวจฮ่องกงยังได้ทุบโกดังทำวัตถุระเบิดและยึดวัตถุระเบิด TATP และรายการที่เกี่ยวข้องกับการเดินขบวนประท้วงจำนวนมาก

 

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมผู้ประท้วงหัวรุนแรงบางคนจัดการชุมนุม ประท้วงผิดกฎหมายในพื้นที่Yuen Long ของฮ่องกงและทำการกระทำเหตุการณ์รุนแรงหลายครั้งทำให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 20 คน เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมผู้ชุมนุมหัวรุนแรงชุมนุมอย่างผิดกฎหมายบนเกาะฮ่องกงอย่างรุนแรงโจมตีแนวป้องกันของตำรวจ สิ่งที่น่าวิตกและต้องระมัดระวังมากกว่านี้คือ ผู้ชุมนุมหัวรุนแรงบางคนฉีกกฎพื้นฐานของฮ่องกง ทำให้สัญลักษณ์ประจำชาติชาติเสียหาย ในตอนเย็นของวันที่ 3 สิงหาคม คนหลายทิ้งธงชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนแขวนไว้หน้าอาคารในจิมซาจุ่ยแล้วโยนลงทะเล การกระทำนี้เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างรุนแรง ทำลายศักดิ์ศรีของประเทศอย่างโจ่งแจ้งและท้าทายบรรทัดขั้นพื้นฐานที่สุดของหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ”

 

ในวันที่ 5 สิงหาคมฝ่ายต่อต้านจัดการประท้วงหยุดงาน ทำให้เที่ยวบินกว่า 250 เที่ยวบินถูกยกเลิก และรถไฟใต้ดิน 8 สาย เช่น Kwun Tong หยุดให้บริการนานกว่า 5 ชั่วโมง อุโมงค์ฮุงฮอมและอุโมงค์การจราจรหลายแห่งถูกปิดกั้น กลุ่มรุนแรงสุดโต่งขว้างระเบิดใส่สถานีตำรวจ และวางเพลิงในหลายจุด ในเวลา ทุ่มหนึ่งของคืนนั้น กลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งดึงธงชาติลงที่จิมซาจุ่ยอีกครั้งและโยนลงในทะเล

จวบจนถึงปัจจุบัน กิจกรรมปะทะที่ใช้กำลังรุนแรงยังคงไม่ยุติ ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการปกครองด้วยกฎหมาย ความเป็นระเบียบของสังคม เศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของประชาชน และภาพลักษณ์ระดับสากลของฮ่องกง มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะที่ใช้กำลังรุนแรงแล้ว 461 ราย ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 139 นาย สถานการณ์ของฮ่องกงในขณะนี้ได้พัฒนาจากการชุมนุมเดินขบวนโดยสันติเป็นพฤติการณ์ละเมิดกฎหมายที่กระทำผิดอย่างกำเริบเสิบสานของคนกลุ่มน้อย จากการแสดงความคิดเห็นโดยสันติพัฒนาเป็นความท้าทายต่อบรรทัดขั้นพื้นฐานที่สุดของหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ”

BEIJING, Aug. 13, 2019 (Xinhua) — Stranded passengers are seen at Hong Kong International Airport in Hong Kong, south China, Aug. 12, 2019. All flights in and out of China’s Hong Kong Special Administrative Region were cancelled on Monday due to a protest held in the Hong Kong International Airport, according to local airport authority. 
(HONG KONG, Aug. 14, 2019 (Xinhua) — Passengers line up for check-in at Hong Kong International Airport in Hong Kong, south China, Aug. 14, 2019. Airport Authority Hong Kong said earlier Wednesday that it has obtained an interim injunction to restrain persons from unlawfully and willfully obstructing or interfering with the proper use of the airport.
  1. ความมุ่งหวังสามประการต่อสถานการณ์ฮ่องกง

 

การเดินขบวนประท้วงและการปะทะที่ใช้กำลังรุนแรงในฮ่องกงเกิดขึ้นมาเป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการปกครองด้วยกฎหมาย ระเบียบของสังคม เศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของประชาชน และภาพลักษณ์ระดับสากลของฮ่องกง จากสถิติของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษ พบว่า ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจครึ่งปีแรกของฮ่องกงร่วงต่ำลงทุกด้าน ยกเว้นบางอุตสาหกรรม จีดีพีของฮ่องกงในไตรมาสที่สองเติบโตเพียง 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า เศรษฐกิจกำลังเผชิญแรงกดดันที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจตกต่ำอย่างชัดเจน มี 18 ประเทศและภูมิภาคได้ออกประกาศเตือนความปลอดภัยในการเดินทางไปยังฮ่องกงอันเนื่องมาจากสถานการณ์ปัจจุบัน การค้าปลีกและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรก ยอดขายของผู้ค้าและอัตราการเข้าพักโรงแรมลดลงอย่างมาก ที่ร้ายแรงกว่าก็คือ สถานการณ์ปัจจุบันของฮ่องกงได้โจมตีความเชื่อมั่นของนักลงทุนนานาชาติอย่างรุนแรง พวกเขาได้เปิดเผยถึงความกังวลอย่างลึกซึ้งต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของฮ่องกง องค์กรจัดอันดับระหว่างประเทศบางแห่งได้ออกคำเตือนล่วงหน้าถึงการเดินขบวนประท้วงและการปะทะที่ใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของฮ่องกงไม่สามารถดำเนินตามปกติได้ การจัดอันดับของฮ่องกงอาจได้รับผลกระทบด้วย ทุกคนที่ห่วงใยฮ่องกง หวงแหนฮ่องกงล้วนรู้สึกปวดร้าวใจอย่างยิ่งกับสถานการณ์ปัจจุบัน

 

ประการที่หนึ่ง มุ่งหวังให้บุคคลในทุกวงการของสังคมฮ่องกงต่อต้านและสกัดกั้นความรุนแรงอย่างชัดเจน วิวัฒนาการของสถานการณ์ฮ่องกงในช่วงเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่ใช้กำลังรุนแรงที่ดำเนินการโดยผู้ก่อการหัวรุนแรงไม่กี่คนได้ทำลายสถานการณ์ส่วนรวมที่เจริญรุ่งเรืองและมั่นคงของฮ่องกงอย่างร้ายแรงไปแล้ว ท้าทายการปกครองด้วยกฎหมายและระเบียบในสังคมของฮ่องกงอย่างรุนแรง คุกคามความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองฮ่องกงอย่างร้ายแรง ทั้งยังละเมิดบรรทัดฐานพื้นฐานของหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” อีกด้วย จึงไม่สามารถยอมได้อย่างเด็ดขาด สังคมใดก็ตามที่มีอารยธรรมและปกครองด้วยกฎหมายล้วนไม่อดกลั้นต่อการกระทำที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่และความรุนแรง หวังว่าประชาชนทุกคนจะตระหนักอย่างชัดเจนถึงความรุนแรงของสถานการณ์ในปัจจุบัน ร่วมกันประณามความชั่วร้าย ความผิดที่กระทำโดยกลุ่มหัวรุนแรง ยับยั้งขัดขวางพฤติการณ์ที่ทำลายฮ่องกงของพวกเขา

 

ประการที่สอง มุ่งหวังให้บุคคลในทุกวงการของสังคมฮ่องกงยืนหยัดปกป้องการปกครองด้วยกฎหมาย การปกครองด้วยกฎหมายเป็นค่านิยมหลักที่ภาคภูมิใจของคนฮ่องกง เป็นพื้นฐานของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดีของฮ่องกง เป็นรากฐานที่สำคัญของการรักษาความเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงของฮ่องกงให้คงอยู่ ไม่สามารถนั่งมองดูคนกลุ่มเล็กๆ เหยียบย่ำอย่างไร้ความเกรงกลัวโดยไม่ทำอะไรได้อย่างเด็ดขาด หากเสาหลักของการปกครองด้วยกฎหมายสั่นคลอนแล้ว ก็ไม่อาจรับประกันความเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงของฮ่องกงได้ รัฐบาลกลางยืนหยัดสนับสนุนผู้ว่าการฯ แคร์รี่ แลมเป็นผู้นำรัฐบาลเขตบริหารพิเศษในการบริหารแผ่นดินตามกฎหมาย สนับสนุนฝ่ายตำรวจฮ่องกงให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดและยุติธรรม สนับสนุนให้รัฐบาลเขตบริหารพิเศษ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรยุติธรรมของฮ่องกงลงโทษกลุ่มผู้ฝ่าฝืนกฎหมายและใช้ความรุนแรงตามกฎหมาย สนับสนุนการกระทำของบุคคลที่รักประเทศชาติรักฮ่องกงในการพิทักษ์หลักนิติธรรมของฮ่องกง

 

ประการที่สาม มุ่งหวังให้สังคมฮ่องกงหลุดพ้นจากข้อพิพาททางการเมืองโดยเร็วที่สุด รวมศูนย์กำลังเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น การพัฒนาเป็นรากฐานของฮ่องกง และเป็นหนทางที่ถูกต้องของการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ของฮ่องกง ถึงแม้ว่าฮ่องกงจะมีพื้นฐานดั้งเดิมที่ดี มีเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์และข้อได้เปรียบที่เป็นเอกลักษณ์อยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถทนต่อการพับกลับไปกลับมาได้ หากฮ่องกงยังเกิดความวุ่นวายต่อไป ทั้งสังคมจะต้อง “คิดบัญชี” รัฐบาลเขตบริหารพิเศษและทั้งสังคมควรคิดหาวิธีการ ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผลักดันการพัฒนาของเศรษฐกิจ ปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยเหลือคนหนุ่มสาวแก้ไขความยากลำบากที่เกิดขึ้นจริง ทั้งในด้านที่พักอาศัย การศึกษา การจ้างงาน และการสร้างกิจการ เป็นต้น เพื่อบรรเทาความแค้นเคืองใจของพวกเขา รัฐบาลกลางมีความยินดีที่จะทุ่มเทพยายามร่วมกับรัฐบาลเขตบริหารพิเศษและบุคคลจากทุกสาขาอาชีพในสังคมฮ่องกง เพื่อสร้างเงื่อนไขที่ดีสำหรับการพัฒนาของพวกเขา

 

  1. จุดยืนพื้นฐานต่อปัญหาของฮ่องกง

 

(1) รัฐบาลกลางยืดหยัดดำเนินนโยบาย “หนี่งประเทศสองระบบ” จนถึงที่สุด นับตั้งแต่ฮ่องกงกลับคืนสู่จีนเป็นต้นมา การดำเนินนโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบ” ก็ได้รับความสำเร็จเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก “หนึ่งประเทศสองระบบ” “คนฮ่องกงปกครองฮ่องกง” นโยบายปกครองตนเองระดับสูงได้ถูกนำไปปฏิบัติอย่างถึงที่สุดและได้ผลอย่างแท้จริง ฮ่องกงรักษาความเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงให้คงอยู่ต่อไป ได้รับการยอมรับว่าเป็นเศรษฐกิจที่เสรีที่สุดในโลก สภาพแวดล้อมทางธุรกิจและความสามารถในการแข่งขันระดับสากลได้รับยอมรับอย่างกว้างขวางในสังคมของนานาประเทศ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงได้รับสิทธิประชาธิปไตยที่ไม่เคยมีมาก่อนและเสรีภาพอย่างกว้างขวางที่พบได้น้อยในโลก ดัชนีการปกครองด้วยกฎหมายของฮ่องกงอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก การปฏิบัติจริงพิสูจน์ให้เห็นว่า “หนึ่งประเทศสองระบบ” เป็นการจัดการระบอบที่ดีที่สุดของการรักษาความเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงอย่างถาวรของฮ่องกงให้คงอยู่ต่อไป รัฐบาลกลางจะยึดมั่นดำเนินนโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบ” จนถึงที่สุดต่อไป ยืนหยัดนโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบ” อย่างไม่เปลี่ยนแปลง ไม่สั่นไหว รับประกันว่าการปฏิบัติจริงของ “หนึ่งประเทศสองระบบ” นั้นไม่ผิดรูปไปจากเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบ ภายใต้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งของรัฐบาลกลางและจีนแผ่นดินใหญ่ ภายใต้การนำของผู้ว่าการฯ แคร์รี่ แลม และรัฐบาลเขตบริหารพิเศษ พี่น้องฮ่องกงจะสามารถกำกับดูแลฮ่องกงได้ดี สร้างสรรค์ได้ดี พัฒนาได้ดีอย่างแน่นอน ฮ่องกงสามารถเอาชนะความยากลำบากและความท้าทายทุกรูปแบบบนหนทางที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างแน่นอน เรือ “หนึ่งประเทศสองระบบ” ลำนี้สามารถฟันฝ่าคลื่นลม เดินทางสู่จุดมุ่งหมายอันไกลโพ้นอย่างราบรื่นปลอดภัย

 

(2) “บรรทัดฐานขั้นพื้นฐาน 3 ประการ” ของ “หนึ่งประเทศสองระบบ” ที่ไม่สามารถละเมิดได้ บางทัศนะเข้าใจว่า ไม่กี่ปีมานี้นโยบายของรัฐบาลกลางที่มีต่อฮ่องกงเข้มงวดมากขึ้น อำนาจการปกครองตนเองระดับสูงของฮ่องกงถูกรุกล้ำ ความคิดเห็นลักษณะนี้เป็นความคิดเห็นที่ไม่ถูกต้อง “หนึ่งประเทศสองระบบ” เป็นแนวคิดที่สมบูรณ์แบบ เป็นนโยบายและเข็มมุ่งที่สมบูรณ์แบบ จำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างถูกต้องแม่นยำรอบด้าน “หนึ่งประเทศสองระบบ” ในที่นี้ “หนึ่งประเทศ” คือราก รากฝังลึกจึงจะออกใบเป็นพุ่ม “หนึ่งประเทศ” เป็นฐาน ฐานแน่นกิ่งก้านจึงเจริญงอกงาม การนำนโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบ” ไปปฏิบัติและได้ผลอย่างแท้จริงที่ฮ่องกง มาเก๊านั้นต้องเน้นย้ำ “บรรทัดฐานขั้นพื้นฐาน 3 ประการ” ที่ไม่อาจละเมิดได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย “บรรทัดฐานขั้นพื้นฐาน 3 ประการ” นี้ก็คือ ไม่อนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของอำนาจอธิปไตยของประเทศอย่างเด็ดขาด ไม่อนุญาตให้ท้าทายอำนาจส่วนกลางและอำนาจของกฎหมายพื้นฐานของเขตบริหารพิเศษอย่างเด็ดขาด ไม่อนุญาตให้ใช้ประโยชน์จากฮ่องกงเพื่อดำเนินกิจกรรมที่แทรกแซงทำลายแผ่นดินใหญ่อย่างเด็ดขาด “บรรทัดฐานขั้นพื้นฐาน 3 ประการ” นี้ไม่สามารถละเมิดได้ มีเพียงแต่บนพื้นฐานของ “หนึ่งประเทศ” เท่านั้นที่สามารถพูดถึง “สองระบบ” ได้ การลงมือปฏิบัติตามนโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบ” จะต้องถูกต้องแม่นยำรอบด้าน ไม่ผิดรูปไปจากเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบ

 

(3) กิจการของฮ่องกงไม่ยอมให้กองกำลังภายนอกแทรกแซงก้าวก่ายได้ ในสถานการณ์วุ่นวายของฮ่องกงขณะนี้ ผู้ที่ยืนอยู่แนวหน้าก็คือพวกหัวรุนแรงส่วนหนึ่ง ที่อยู่ตรงกลางก็คือชาวเมืองที่มีจิตใจดีที่ถูกชักจูงในทางที่ผิด ถูกบีบบังคับให้มีส่วนร่วมส่วนหนึ่ง แต่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคอยยุยงสนับสนุนพวกหัวรุนแรงก็คือ กองกำลังที่ “ต่อต้านจีนก่อกวนฮ่องกง” ที่อยู่ทั้งภายในและภายนอกฮ่องกง พวกเขาหนุนหลังเสริมสร้างความกล้าให้กับพวกหัวรุนแรงอย่างโจ่งแจ้ง ดำเนินการประสานงาน ชี้แนะ และช่วยเหลือทั้งอย่างเปิดเผยและเป็นความลับ พวกเขาเอาเรื่องที่ถูกและเรื่องที่ผิดมาปนเปกัน บิดเบือนข้อเท็จจริง พยายามปลุกปั่นถึงที่สุดด้วยข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่บ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยและไม่ถูกทำนองคลองธรรมที่กล่าวว่า “อารยะขัดขืน” กระทั่ง “ใช้ความรุนแรงถึงสามารถแก้ไขปัญหาได้” ยั่วยุให้เกิดกิจกรรมที่ใช้ความรุนแรง พวกเขาปลุกปั่นพวกหัวรุนแรงให้ทำสิ่งที่เรียกว่า “การเคลื่อนไหวที่ปฏิเสธความร่วมมือ” ดำเนินการ “สร้างความกดดันขั้นสูงสุด” พยายามบีบบังคับให้พลเมืองฮ่องกงทุกคนโถมตัวเข้าสู่ข้อพิพาททางการเมือง กระตุ้นความขัดแย้งทางสังคม

ชาวตะวันตกจำนวนหนึ่งให้สัมภาษณ์อย่างไร้ความรับผิดชอบ มีตรรกะที่เหลวไหล ก็คือการใช้กำลังรุนแรงฝ่าฝืนกฎหมายควรจะได้รับความเห็นอกเห็นใจ ได้รับความเข้าใจ หรือกระทั่งได้รับการให้อภัย แต่ฝ่ายตำรวจที่เข้าเผชิญหน้าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง รักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม พิทักษ์พฤติกรรมของการปกครองประเทศด้วยกฎหมายของฮ่องกง พวกเขากลับรู้สึกว่าสมควรได้รับคำวิจารณ์ คำประณาม จนถึงกระทั่งถามหาสำนึกความรับผิดชอบ เจตนาของพวกเขาที่เปิดเผยออกมามีเพียงต้องการสร้างความวุ่นวายในฮ่องกง ทำให้ฮ่องกงกลายเป็นความยุ่งยากอย่างหนึ่งของจีน ครั้นแล้วจึงขัดขวางหรือยั้บยั้งการพัฒนาของจีนต่อไป

ฮ่องกงคือฮ่องกงของประเทศจีน เหตุการณ์ของฮ่องกงเป็นกิจการภายในประเทศของจีน ไม่อนุญาตให้อิทธิพลภายนอกใดๆ ใช้อำนาจก้าวก่ายแทรกแซง แผนการมุ่งร้ายของพวกเขาไม่สามารถบรรลุผลได้ ทำได้เพียงแค่คิดมุ่งร้ายต่อผู้อื่นแต่ผลร้ายกลับย้อนมาที่ตนเอง

 

(4) รัฐบาลกลางจะยังคงสนับสนุนผู้ว่าการฯ แคร์รี แลม และการปกครองรัฐบาลเขตบริหารพิเศษตามกฎหมายต่อไป

นับตั้งแต่แคร์รี่ แลม ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดในปี 2017 เป็นต้นมา ได้นำทีมกำกับดูแลรัฐบาลเขตบริหารพิเศษปกครองแผ่นดินด้วยความมุ่งมั่นกระตือรือร้น ทำงานอย่างหนักในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ผลักดันฮ่องกงให้หลอมรวมกับสถานการณ์โดยรรวมของการพัฒนาของประเทศชาติ รัฐบาลกลางให้การยืนยันอย่างเต็มที่ต่อการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของผู้ว่าการฯ แคร์รี่ แลม และรัฐบาลเขตบริหารพิเศษ ความมุ่งมาดปรารถนาเดิมของการทำงานแก้ไขครั้งนี้คือ เพื่อเติมเต็มช่องโหว่ของระบอบกฎหมายที่มีขณะนี้ ร่วมกันต่อสู้กับอาชญากรรม เปิดเผยความเป็นธรรมให้ประจักษ์ชัดแจ้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลกลางให้การสนับสนุน รัฐบาลกลางจะยังคงสนับสนุนผู้ว่าการฯ แคร์รี แลม และการปกครองรัฐบาลเขตบริหารพิเศษตามกฎหมายต่อไปอย่างหนักแน่น สมานสามัคคีและนำพาประชาชนฮ่องกงจากทุกสาขาอาชีพร่วมกันปกป้องสถานการณ์ทางการเมืองที่เจริญรุ่งเรืองและมั่นคงของฮ่องกง แผนการมุ่งร้ายของฝ่ายต่อต้านที่ต้องการให้ผู้ว่าการฯ แคร์รี่ แลมลาออกจากตำแหน่งนั้นไม่สามารถบรรลุผลได้

 

(5) รัฐบาลกลางสนับสนุนฝ่ายตำรวจฮ่องกงลงโทษกิจกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมายและใช้กำลังรุนแรงตามกฎหมาย ภารกิจที่สำคัญที่สุดของฮ่องกงในขณะนี้คือยืนหยัดลงโทษพฤติกรรมผิดกฎหมายที่ใช้กำลังรุนแรงตามกฎหมาย ฟื้นฟูสังคมที่สงบสุขอย่างเร่งด่วน รักษาปกป้องนิติธรรมที่ดีของฮ่องกง เมื่อมีกฎหมายก็จักต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อละเมิดกฎหมายก็จักต้องสืบสวนและลงโทษ นี้คือข้อกำหนดพื้นฐานของทุกสังคมที่ปกครองด้วยกฎหมาย การปกครองด้วยกฎหมายเป็นค่านิยมหลักที่น่าภาคภูมิใจของคนฮ่องกงมาเป็นเวลายาวนาน ข้อคิดเห็นใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าตนจะเชื่อว่าเป้าหมายของมันสูงส่งเพียงใด ล้วนไม่อาจแสดงออกด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมายได้ ยิ่งไม่สามารถใช้ความรุนแรงได้ ความรุนแรงก็คือความรุนแรง ฝ่าฝืนกฎหมายก็คือฝ่าฝืนกฎหมาย ลักษณะของมันจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเพียงเพราะว่ามันยกข้อวินิจฉัยปลอมมาบังหน้า เมื่อเร็วๆ นี้ วงการต่างๆ ในสังคมฮ่องกงได้ก่อการชุมนุมขนาดใหญ่เพื่อปกป้องฮ่องกง เรียกร้องให้รักษาการปกครองด้วยกฎหมาย ต่อต้านความรุนแรง แสดงถึงเจตนารมณ์ร่วมของประชาชนที่เป็นกระแสหลักอย่างแท้จริงของสังคมฮ่องกง รัฐบาลกลางสนับสนุนตำรวจฮ่องกง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรยุติธรรมอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ในการลงโทษพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมายและใช้ความรุนแรงตามกฎหมาย สืบหาความรับผิดชอบทางอาญาของผู้กระทำผิดกฎหมายที่ใช้ความรุนแรง เร่งฟื้นฟูความปกติและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคมโดยเร็วที่สุด รับประกันความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของพลเมือง ทำให้สังคมฮ่องกงกลับสู่วิถีปกติใหม่อีกครั้ง