‘หลี่ หงถ่า’ ผู้ได้รับ ‘เหรียญเกียรติยศ 1 กรกฎา’

0
7

‘หลี่ หงถ่า’ ผู้ได้รับ ‘เหรียญเกียรติยศ 1 กรกฎา’: ลูกหลานนักปฏิวัติผู้ยืนหยัดวิถีการประหยัด ทำงานอย่างจริงจัง เข้มงวด และซื่อสัตย์
.
“เหรียญเกียรติยศ 1 กรกฎา” เป็นเกียรติภูมิสูงสุดภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน วันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 2021 พิธีมอบ “เหรียญเกียรติยศ 1 กรกฎา” จัดขึ้นเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างยิ่งใหญ่ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และประธานาธิบดีจีน มอบเหรียญเกียรติยศแก่ผู้ได้รับรางวัลด้วยตนเอง เฉพาะสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ผู้สร้างคุณูปการอันยอดเยี่ยมแก่พรรคและประชาชนเท่านั้นจึงมีสิทธิ์ได้รับเกียรติเช่นนี้ พิธีมอบ “เหรียญเกียรติยศ 1 กรกฎา” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้โดยมีผู้ได้รับเกียรติอันสูงส่งรวม 29 คน รวมถึงหลี่ หงถ่า ลูกหลานของนักปฏิวัติ
.
หลี่ หงถ่า ปีนี้อายุ 72 ปี ปู่ของเขา คือ หลี่ ต้าเจา ผู้บุกเบิกขบวนการคอมมิวนิสต์จีน นักมาร์กซิสต์ผู้ยิ่งใหญ่ นักปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพที่โดดเด่นและเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งหลักของพรรคคอมมิวนิสต์จีน พ่อของเขา คือ หลี่ เป่าหัว อดีตเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการพรรคฯ มณฑลอานฮุย และผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน ขณะที่หลี่ หงถ่าซึ่งเกิดขึ้นในครอบครัวที่มี “พื้นเพสูง” กลับยืนหยัดวิถีชีวิตที่ประหยัด เรียบง่าย ตรงไปตรงมา และสะอาด ทำงานอย่างจริงจัง เข้มงวด และซื่อสัตย์ เขารักษาคุณสมบัติอันล้ำค่าของ “ประเพณีปฏิวัติจากรุ่นสู่รุ่น” จนกลายเป็นตัวอย่างของความจงรักภักดีและความรับผิดชอบอันบริสุทธิ์สำหรับสมาชิกพรรคฯ และข้าราชการ
.
“โส่ว ฉาง” เป็นชื่อรองของหลี่ ต้าเจา คำว่า “โส่ว ฉาง” แปลว่า ยืนหยัดวิถีชีวิตประหยัด เรียบง่าย ตรงไปตรงมา และสะอาด ทำงานอย่างจริงจัง เข้มงวด และซื่อสัตย์ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ไม่ลดละของหลี่ หงถ่ามาตลอดชีวิต
.
หลี่ หงถ่า เกิด 22 ปี หลังจากการเสียสละของปู่ของเขา เขาเติบโตพร้อมกับการฟังเรื่องราวของคุณปู่ หนังสือเก่า ตะเกียงน้ำมันขนาดเล็ก ชาหยาบ และข้าวเบา เสื้อคลุมผ้าฝ้ายตัวเดียวสำหรับฤดูหนาว และเสื้อคลุมธรรมดาที่มีราคาถูกตัวเดียวสำหรับฤดูร้อน” เป็นภาพแท้จริงของชีวิตยากจนของหลี่ ต้าเจา รายได้ส่วนใหญ่ของเขาใช้ไปกับกิจกรรมการงานของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รวมทั้งการบริจาคเงินทุนสำหรับนักเรียนและเยาวชน
.
พ่อหลี่ เป่าหัวสั่งสอนลูกชายซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า “ถ้าคุณไม่สามารถอดทนต่อความยากลำบากได้ คุณก็จะบรรลุความสำเร็จไม่ได้” ความเรียบง่ายของบ้านเขานั้นไม่น่าเชื่อเช่นกัน เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้อัดเก่า เก้าอี้หุ้มด้วยหนังเทียม และโซฟาที่นั่งแล้วเป็นหลุม ในปี 2000 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลกลางช่วยปรับปรุงบ้านให้แต่เขากลับบอกว่าเคยชินกับชีวิตในบ้านหลังนี้ อีกอย่างมีอายุมากขึ้นจึงไม่ต้องการช่วยให้ปรับปรุงบ้าน
.
ประเพณีของครอบครัวที่ดีที่สุด คือ ศีลธรรมและแบบอย่างของพ่อแม่ นายหลี่ หงถ่า บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขากับคุณพ่ออาศัยอยู่คนละที่เป็นเวลานาน จะไปเยี่ยมเมื่อมีโอกาสไปประชุมที่กรุงปักกิ่ง คุณพ่อของเขามักบ่นว่าเสียเวลามาเยี่ยมเขา ควรให้ความสำคัญกับการทำงานมากขึ้น เขากล่าวว่า คุณพ่อฝึกฝนตนเองและปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด เมื่อเวลาผ่านไปเขายังได้เรียนรู้วิธีปฏิบัติตนและแนวทางการปฏิบัติงาน”
.
เมื่อกว่า 20 ปีก่อน บนถนนฉางเจียง ในเมืองเหอเฝย มณฑลอานฮุย มักมีชายวัยกลางคนที่มีตัวสูงขี่จักรยานผ่านถนนสายนี้บ่อย ๆ ตำรวจจราจรและพ่อค้าแม่ค้าริมถนนต่างรู้จักเขา เขาคือนายหลี่ หงถ่า อธิบดีกรมโยธาธิการมณฑลอานฮุยในขณะนั้น
การเคยเป็นทหาร กรรมกร และทำงานในสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์ กรมโยธา รวมทั้งหน่วยงานสภาปรึกษาการเมือง และอื่น ๆ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้นำมาอย่างต่อเนื่องทำให้ความเคยชินที่มาพร้อมกับอาชีพของหลี่ หงถ่ามีข้อยกเว้นน้อยมาก ธุระสำคัญรีบร้อนสำหรับงานของรัฐบาล หลี่ หงถ่ายืนกรานขี่จักรยานไป-กลับจากที่ทำงานทุกวัน
.
หลี่ หงถ่าเป็นคนประหยัดมาทั้งชีวิต ไม่สนใจอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย ครอบครัวของเขาเคยอาศัยอยู่ในบ้านสองห้องนอนอันหนาวเหน็บในฤดูหนาวและร้อนในฤดูร้อน อาศัยอยู่ที่นั่นได้ 16 ปี ถึงเป็นอย่างนั้นที่บ้านก็มีเงินออมไม่มาก เพราะทุก ๆ ปีทางหน่วยงานจะจัดกิจกรรม “ส่งความอบอุ่น” และ “มอบความรัก” ยอดเงินบริจาคจากหลี่ หงถ่าต่างอยู่ในอันดับแรก เขาถือประชาชนเสมือนญาติพี่น้องของเขา อย่างเช่น การขาดแคลนแผ่นเกี๊ยวของครัวเรือนรายได้น้อยช่วงตรุษจีน และคนว่างงานที่มาขอความช่วยเหลือลืมเอาร่มมาด้วย เป็นต้น ซึ่งสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้หลี่ หงถ่าก็มองเห็นและจะช่วยอย่างแน่นอน
.
ระหว่างทำงานที่กรมโยธา หลี่ หงถ่าใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีเยี่ยมเยียนประชาชนระดับรากหญ้าในแต่ละปี หลังออกจากบ้านของมวลชนแล้วเขาก็ไปหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ เขากล่าวว่า ต้องออกจากถนนและตรงไปหาประชาชน การเยี่ยมชาวบ้านด้วยตนเองดีกว่าการมองไปตามถนนและมองผ่านกระจก
.
ฤดูร้อนปี 2003 เกิดเหตุอุทกภัยลุ่มน้ำหวายเหอและฉู๋เหอ เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติ หลี่ หงถ่าลงพื้นที่ภัยพิบัตินานกว่า 20 วัน เขานำข้าวสารออกจากถุงบรรเทาทุกข์ที่มอบให้ผู้ประสบภัยที่อาศัยในจุดตั้งถิ่นฐานใหม่ใส่ในกระเป๋าเอกสารแล้วนำกลับไปที่แผนกที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบคุณภาพ เขาเดินเข้าไปในเต็นท์ผู้ประสบภัยโดยพบว่าร้อนจนทนไม่ไหว เขารีบวัดอุณหภูมิและนำเทอร์โมมิเตอร์ไปที่สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำเทศมณฑล ไม่กี่วันต่อมาหน่วยงานพรรคฯ ท้องถิ่นและหน่วยงานราชการก็จัดให้ผู้ประสบอุทกภัยที่อยู่ในเต็นท์กว่า 30,000 คนย้ายไปอาศัยในสถานที่ทำงานของทางการ
.
สหายที่เคยร่วมงานกับหลี่ หงถ่า เล่าว่า เขากลับจากการลงพื้นที่ระดับรากหญ้ามักสวมรองเท้าผ้าใบทหารสีเขียว กางเกงพับขึ้น และรองเท้าเปื้อนโคลน เมื่อกลับมาถึงสำนักงานเขาก็จะโทรหาสหายในสำนักงานที่เกี่ยวข้องทันทีเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาที่พบในระหว่างการลงพื้นที่
.
หลังจากดำรงตำแหน่งรองประธานสภาปรึกษาการเมืองประจำมณฑลอานฮุยแล้ว งานของหลี่ หงถ่ายังคงเกี่ยวข้องกับผู้ยากไร้ ซึ่งรับผิดชอบงานบรรเทาความยากจนของหน่วยงาน งานวิจัยที่เขาเป็นผู้นำนั้นเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นงานที่หนักและอาศัยจังหวะการทำงานที่รวดเร็ว นอกจากนี้เขายังชอบไปยังพื้นที่ยากจนเพื่อหาข้อบกพร่อง
.
โรงเรียนประจำในพื้นที่ชนบท บ้านพักคนชราในเมืองต่าง ๆ และชุมชนเก่าแก่เป็นจุดสนใจของเขามาตลอด จากการสอบสวนเชิงลึกระยะยาว หลี่ หงถ่ายื่นข้อเสนอมากมายต่อคณะกรรมการสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน
.
สหายคนหนึ่งบอกกับสื่อผู้ข่าวว่า ยากที่จะให้ของขวัญกับหลี่ หงถ่า มีอยู่ครั้งหนึ่งช่วงตรุษจีน เขาส่งขนมไปให้กับหลี่ หงถ่าและภรรยาของเขา แต่หลี่ หงถ่ากลับส่งสิ่งของมูลค่ามากกว่าหลายเท่าเพื่อให้เขานำกลับบ้าน
.
ในปี 2008 ลูกชายของหลี่ หงถ่าแต่งงาน งานแต่งจัดอย่างเรียบง่าย เพื่อนร่วมงานมาแสดงความยินดี อวยพร และมอบอั่งเปา เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศงานแต่งงานหลี่ หงถ่ารับอั่งเปาแต่คืนเงินอั่งเปาทั้งหมดในวันถัดไป เขาบอกว่า ไม่จำเป็นและก็ไม่มีความเคยชินที่รับอั่งเปาเพราะเป็นประเพณีของครอบครัว
.
ดูเหมือนไม่ใกล้เคียงกับความรู้สึกของมนุษย์แต่การเผชิญหน้ามวลชนเป็นความรู้สึกของมนุษย์มากที่สุด เมื่อใดก็ตามที่เขาไปชนบทเห็นบ้านของชาวบ้านมีปัญหาหรือเมื่อเขาไปยังสถานดูแลคนชราเห็นว่าผ้าห่มของผู้สูงอายุบางเกินไป หลี่ หงถ่าก็จะกังวลมากกว่าใครและพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยแก้ปัญหา
ในฐานะอดีตข้าราชการกรมโยธาธิการ หลี่ หงถ่าสรุปงานประจำวันของเขาเป็นสามประโยค ได้แก่ ถือคนชรากำพร้าเป็นพ่อแม่ ถือเด็กกำพร้าและเด็กพิการเป็นลูก และถือประชาชนเป็นญาติ นี่คือคุณธรรมแห่งยุคใหม่
.
เมื่อครั้งขึ้นไปบนพลับพลาเทียนอันเหมิน หลี่ หงถ่ากล่าวด้วยอารมณ์ว่า ความฝันของคุณปู่เมื่อร้อยปีก่อนเป็นจริงแล้วในวันนี้
ในมุมมองของหลี่ หงถ่า ช่วงเวลาที่มีเกียรติสูงสุดดังกล่าวนี้เป็นของบรรพบุรุษนักปฏิวัติ เขากล่าวว่า เมื่อมองย้อนกลับไปในกระบวนการพัฒนาอันสง่างาม 100 ปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน มีบรรพบุรุษนักปฏิวัติจำนวนมากที่ทุ่มเทเหงื่อออกทำงานหนักทั้งยังเสียสละชีวิต เมื่อเทียบกับพวกเขาเขาแค่ทำในสิ่งที่สมาชิกพรรคฯ และข้าราชการควรทำ
.
หลี่ หงถ่า กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาจะส่ง ‘เหรียญเกียรติยศ 1 กรกฎา’ ไปยังพิพิธภัณฑ์รำลึกหลี่ ต้าเจาเพื่อปลอบโยนหลี่ ต้าเจา เขากล่าวว่า อนาคตจะเป็นการเดินทางที่จะก้าวไปข้างหน้าและไม่เคยหยุดนิ่ง แม้ว่าเขาเกษียณแล้วแต่เขาจะยังคงสืบทอดและสืบสานประเพณีและรูปแบบของการทำงานที่ดีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อไป ตลอดจนใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้การทำงานที่เขาควรทำดีที่สุด


.
แปลเรียบเรียงโดยภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน-CMG