บทวิเคราะห์: จีนระดมกำลังทั่วประเทศสนับสนุนการพัฒนาของทิเบต

0
1

บทวิเคราะห์: จีนระดมกำลังทั่วประเทศสนับสนุนการพัฒนาของทิเบต

ตลอดช่วง 71 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การปลดแอกทิเบตด้วยสันติวิธีใน ค.ศ.1951 เป็นต้นมา จีนดำเนินนโยบายให้ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศร่วมแรงร่วมใจกันสนับสนุนการพัฒนาทิเบตอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ทำให้ทิเบตเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงจากทิเบตเก่าที่ยากจนและล้าหลังพัฒนาเป็นทิเบตใหม่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี   ความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นในจีนภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบทางระบบการเมืองของจีน

ทิเบตตั้งอยู่บนที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต  มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เลวร้าย   การคมนาคมขนส่งไม่สะดวก อีกทั้งยังขาดแคลนทรัพยากรด้วย   จึงตกอยู่ในสภาวะยากจนมาเป็นเวลายาวนาน      ก่อนทศวรรษ 1950 เกษตรกรรมในทิเบตยังคงเป็นแบบโบราณ  เครื่องมือเกษตรที่ใช้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นเครื่องมือที่ทำจากไม้  และผลผลิตทางการเกษตรเฉลี่ยมีเพียง 4 – 5 เท่าของเมล็ดพันธุ์ที่หว่านเท่านั้น ซึ่งไม่ต่างจากเมื่อหลายร้อยปีก่อนมากนัก อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ผลิตด้วยมือเปล่า

เพื่อช่วยให้ทิเบตหลุดพ้นจากสภาวะยากจน จีนได้ใช้ประโยชน์จุดแข็งของระบบการเมือง โดยได้ระดมกำลังจากภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาทิเบต     ตั้งแต่ค.ศ. 1950  รัฐบาลกลางได้ดำเนินนโยบายพิเศษต่างๆ โดยได้ระดมกำลังทรัพย์ กำลังคน และทรัพยากรชนิดอื่นๆ เพื่อใช้ในการสนับสนุนการพัฒนาทิเบต    ต่อมา ในทศวรรษ 1960  มณฑลต่างๆทั่วประเทศจีนเริ่มจัดส่งสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ในภาคการผลิตและการใช้ชีวิตประจำวันไปยังทิเบต เช่น ธัญญาหารจาก        ซินเจียง ชาจากฝูเจี้ยน ปศุสัตว์พันธุ์ดีจากเสฉวน และผ้าห่มจากเซี่ยงไฮ้ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในทิเบต

ตั้งแต่ค.ศ. 1980  รัฐบาลกลางมีการจัดประชุมสัมมนาระดับชาติเกี่ยวกับภารกิจพัฒนาทิเบตรวม 7 ครั้ง  และได้กำหนดพิมพ์เขียวแบบบูรณาการว่าด้วยการพัฒนาทิเบต

เมื่อค.ศ.1994 ที่ประชุมสัมมนาระดับชาติเกี่ยวกับภารกิจพัฒนาทิเบตครั้งที่ 3 มีมติให้ระดมกำลังทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาของทิเบต ภายใต้นโยบายดังกล่าว  หน่วยงานรัฐบาล ภูมิภาคระดับมณฑล และรัฐวิสาหกิจที่กำกับดูแลโดยรัฐบาลกลางได้รับมอบหมายให้จับคู่กับพื้นที่ต่างๆ ของทิเบต  เพื่อให้การสนับสนุนแก่พื้นที่นั้น    ยกตัวอย่างเช่น ปักกิ่งและมณฑลเจียงซูได้จับคู่กับเมืองลาซ่า เมืองเอกของทิเบต เพื่อสนับสนุนการพัฒนาของเมืองลาซ่า     ขณะที่เซี่ยงไฮ้  มณฑลซานตง จี๋หลิน และเฮยหลงเจียง  ตลอดจน China Baowu Steel Group และบริษัทเคมี Sinochem Group ได้จับคู่กับเมืองยื่อคาเจ๋อ(Xigaze) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองในทิเบต

เมื่อค.ศ. 2010 หลังมีการจัดประชุมสัมมนาระดับชาติเกี่ยวกับภารกิจพัฒนาทิเบต ครั้งที่ 5    รัฐบาลกลางได้ตัดสินใจว่า  17 มณฑลที่ร่วมโครงการสนับสนุนการพัฒนาทิเบตจัดรายได้ทางการคลัง 0.1% ต่อปี ให้แก่ทิเบต เพื่อนำไปสมทบในกองทุนช่วยเหลือทิเบต  ทำให้กองทุนสงเคราะห์ดังกล่าวสามารถขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมั่นคง

โครงการจับคู่เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทิเบตดังกล่าวมีบทบาทมากในกระบวนการบรรลุเป้าหมายความมั่งคั่งร่วมกัน และความเป็นผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ให้หลักประกันทางการเมืองที่มั่นคงสำหรับกลไกนี้ ทั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมถึงแนวคิดการพัฒนาของจีนที่ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง  ระหว่างค.ศ. 1994 – 2020  ภายใต้นโยบายการจับคู่ช่วยเหลือทิเบตดังกล่าว มีการอัดฉีดเงินทุนจำนวน 52,700 ล้านหยวน เข้าสู่ทิเบตผ่านโครงการ 6,330 โครงการ ขณะเดียวกัน ผู้ปฏิบัติงานที่มีคุณภาพมากกว่า 9,600 คน ได้รับการคัดเลือกและส่งไปทำงานในภูมิภาคทิเบต

ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา การสนับสนุนทิเบตอย่างแข็งขันในระดับชาติทำให้ทิเบตเกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดด และสามารถหลุดพ้นจากสภาวะยากจนโดยสิ้นเชิงก่อนสิ้นปีค.ศ. 2019 ปัญหาความอดอยากและความยากจนในทิเบตได้กลายเป็นเรื่องในอดีต

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของทิเบตเติบโตขึ้นจาก 129 ล้านหยวนในค.ศ. 1951 มาเป็น 208,000 ล้านหยวนในค.ศ. 2021 รายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวชนบทในทิเบตเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักติดต่อกันเป็นเวลา 19 ปี  อายุขัยเฉลี่ยของชาวทิเบตเพิ่มขึ้นจากเพียง 35.5 ปีในค.ศ. 1951 มาเป็น 72.19 ปีในค.ศ. 2021  นอกจากนี้ ทิเบตยังเป็นภูมิภาคระดับมณฑลแห่งแรกในจีนที่ให้การศึกษาฟรีเป็นเวลา 15 ปี นับตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมปลาย

เขียนโดย ไช่ เจี้ยนซิน ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)