แต่ไหนแต่ไร นายสีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับงานด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชน เอาใจใส่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนโดยตลอด ไม่ว่าจะทำงานในระดับท้องถิ่นหรือส่วนกลาง สีจิ้นผิงผูกมิตรและแลกเปลี่ยนความในใจกับผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนเสมอ คอยห่วงใย ไว้วางใจและสนับสนุนงานด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชน จึงได้เกิดเรื่องราวที่น่าประทับใจมากมายระหว่างสีจิ้นผิงกับบรรดาผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน
อวยพรปีใหม่กับผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน
เดือนมกราคม ปี 2006 ขณะเทศกาลตรุษจีนใกล้มาถึง สีจิ้นผิงซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลเจ้อเจียง ได้เดินทางไปยังที่ทำการของสำนักข่าวซินหัวสาขาเจ้อเจียงและสำนักข่าวหนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้าสาขาเจ้อเจียง เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจ
“สวัสดีปีใหม่ ผมมาที่นี่เพื่ออวยพรปีใหม่ให้พวกคุณ!” สีจิ้นผิงเยี่ยมบรรดาเจ้าหน้าที่กองบรรณาธิการอย่างอบอุ่น เขาจับมือกับทุกคนด้วยรอยยิ้ม ชวนให้รู้สึกสนิทสนมและเป็นกันเองเป็นอย่างยิ่ง
“งานยุ่งหรือไม่? เคยชินกับการใช้ชีวิตที่นี่หรือเปล่า? ” สีจิ้นผิงเอาใจใส่การทำงาน การเรียนรู้และชีวิตประจำวันของเหล่านักข่าวและบรรณาธิการเป็นอย่างยิ่ง เขาถามไถ่สภาพต่างๆของพวกอย่างละเอียด
ในระหว่างการเสวนา สีจิ้นผิงได้ให้คําแนะนําเกี่ยวกับการทำงานของนักข่าวและบรรณาธิการโดยมุ่งเน้นที่ความคิดสร้างสรรค์ทางด้านงานข่าว เขากล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์แห่งการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชนจะทำเพียงแค่การตะโกนคําขวัญไม่ได้ แต่ควรสะท้อนให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมในการเขียนเรียบเรียงและปรับแก้บทความ การประชาสัมพันธ์ และการรายงานเหตุการณ์ต่างๆ ตลอดจนวิธีการในด้านต่างๆ เช่น การขยายแนวทางในการทํางาน, การอัพเดทแนวคิด เพิ่มรูปแบบอันหลากหลายและสร้างอัตลักษณ์อันโดดเด่นในการจัดทำหนังสือพิมพ์, การเสริมสร้างพลังแห่งการพัฒนา, การยกระดับความน่าดึงดูดใจ พลังแห่งการระดม และพลังแห่งการต่อสู้ของการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชน
เดือนกรกฎาคม ปี 2006 สีจิ้นผิงได้รับเชิญให้เป็นผู้บรรยายแก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนจากองค์กรสื่อสารมวลชนส่วนกลางประจำมณฑลเจ้อเจียง เขากล่าวกับบรรดาสหายสื่อมวลชนว่า ต้องรับใช้พรรคและประชาชน ต้องกำจัดสิ่งชั่วร้ายและส่งเสริมสิ่งที่ดี ต้องให้ความสำคัญกับการได้เห็นได้ยินด้วยตัวเอง
ต่อมาข้อเรียกร้องชุดนี้กลายเป็นแนวทางการทำงานของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนในท้องถิ่นเสมอมา
สีจิ้นผิงยังเอาใจใส่เป็นพิเศษเกี่ยวกับสารทุกข์สุขดิบของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน หลังจากรับทราบว่า เพื่อปกป้องผู้สูงอายุและเด็ก นักข่าวจากหนังสือพิมพ์เจ้อเจียงเดลี่ถูกรถเข็นชนที่โรงพยาบาลในเมืองโจวซานจนได้รับบาดเจ็บที่กระดูกซี่โครง สีจิ้นผิงได้มอบหมายโดยเฉพาะผ่านสำนักงานคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลเจ้อเจียงให้ผู้นำในท้องถิ่นไปเยี่ยมนักข่าวคนนี้ที่โรงพยาบาล
ระหว่างที่สีจิ้นผิงบริหารมณฑลเจ้อเจียง เขาเคยเขียนบทวิจารณ์ขนาดสั้นซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เจ้อเจียงเดลี่รวม 232 บทโดยใช้นามปากกาว่า “เจ๋อซิน” สไตล์การเขียนที่มุ่งแสวงความเป็นจริงอย่างจริงจัง มุมมองที่เฉียบคมและชัดเจน ตลอดจนภาษาที่กระชับและเรียบง่าย ถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบรรดาผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนทั้งหลาย
กำชับให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน “จับตาเป็นพิเศษกับการพัฒนาของนิวมีเดียซึ่งรวมถึงอินเทอร์เน็ต”
ระหว่างดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำนครเซี่ยงไฮ้ สีจิ้นผิงมักจะอ่านหนังสือพิมพ์เจี่ยฟ่างเดลี่ หนังสือพิมพ์เหวินฮุ่ย และอื่นๆ ทุกวัน
ครั้งหนึ่ง สีจิ้นผิงเห็นบทความขนาดสั้นในหนังสือพิมพ์เจี่ยฟ่างเดลี่ ซึ่งเขียนเกี่ยวกับ “7 วิธี” ในการสรรหาบุคคลากรผู้มีความสามารถของจูเก๋อเลี่ยงหรือขงเบ้งในยุคสามก๊กของจีน เขาจึงเขียนคำแนะนำเป็นพิเศษไปยังสำนักงานวิจัยของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำนครเซี่ยงไฮ้ โดยขอให้อ้างอิงบทความนี้ในการร่างเอกสารว่าด้วยการสร้างสรรค์ท่วงทำนองแห่งพรรคและการเมืองที่มีความซื่อสัตย์สุจริต
ในฐานะมหานครระดับสากลและเป็นแนวหน้าในการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน เซี่ยงไฮ้เป็นแหล่งที่กระแสความคิดอันหลากหลายมาบรรจบกันและวัฒนธรรมอันหลากหลายมาส่งผลกระทบซึ่งกันและกันโดยตลอด เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ปี 2007 สีจิ้นผิงได้เดินทางไปดำเนินการศึกษาค้นคว้าและจัดงานสัมมนาที่องค์กรสื่อส่วนกลางประจำเซี่ยงไฮ้และสื่อกระแสหลักในท้องถิ่นเซี่ยงไฮ้
“สถานะพิเศษและอิทธิพลของเซี่ยงไฮ้เช่นนี้ทำให้งานด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชนของเซี่ยงไฮ้เป็นที่จับตามองและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง” ในระหว่างการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับสื่อมวลชน สีจิ้นผิงได้กล่าวถึงเป็นการเฉพาะว่าผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนต้องมีมุมมองระดับสากลและมุมมองระดับชาติ ต้องพิจารณาเซี่ยงไฮ้จากกรอบทั่วประเทศและกรอบภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ต้องยึดหลักการหนังสือพิมพ์จัดทำโดยผู้มีความเป็นนักการเมือง กุมกฎแห่งการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชนอย่างถูกต้อง เข้าใจคุณลักษณะเชิงอุดมการณ์ขององค์กรสื่ออย่างชัดเจน นอกจากนี้เขายังกำชับให้สื่อมวลชนต้องจับตาเป็นพิเศษกับการพัฒนาของสื่อใหม่ เช่น อินเทอร์เน็ต
“ปัญญาชนไม่มีอะไรรับใช้ประเทศนอกจากปากกาที่เหมือนมีดอยู่ในมือ” สีจิ้นผิงเคยให้กำลังใจสื่อมวลชนในท้องถิ่นหลายครั้ง
เรียกร้องอย่างแจ่มชัดให้”เป็นผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนที่พรรคและประชาชนไว้วางใจ”
ตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนระดับชาติแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 เป็นต้นมา สีจิ้นผิงให้ความสำคัญอย่างสูงกับงานด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชน คอยเอาใจใส่และดูแลผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน เขาเคยกล่าวสุนทรพจน์สำคัญในโอกาสอันหลากหลาย เพื่อเสนอข้อเรียกร้องที่ชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชนของพรรคให้ดี
วันที่ 7 พฤศจิกายน ปี 2016 สีจิ้นผิงได้พบปะกับสมาชิกคณะกรรมการทั้งหมดของสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนทั่วประเทศจีน และตัวแทนของผู้ชนะ “รางวัลข่าวแห่งประเทศ (China News Awards) และ “รางวัลฉางเจียง-เทาเฟิ่น (Changjiang-Taofen Awards)” เขาเสนอความหวัง 4 ประการต่อบรรดาผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน เรียกร้องให้พวกเขามีความแน่วแน่ทางการเมือง มีความเป็นมืออาชีพ และมีท่วงทำนองการทำงานที่ยอดเยี่ยม สีจิ้นผิงกล่าวว่าหากสรุปเป็นคำเดียวก็คือ ต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนที่พรรคและประชาชนไว้วางใจ
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ปี 2016 ในที่ประชุมสัมมนาเกี่ยวกับงานด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน สีจิ้นผิงได้เสนอภาระหน้าที่ของงานด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้เงื่อนไขใหม่แห่งยุคสมัย
“ชูธงให้สูง ชี้นำทิศทาง มุ่งเน้นศูนย์กลาง รับใช้ภารกิจหลัก สามัคคีประชาชน สร้างขวัญกำลังใจ รังสรรค์ประเพณีดีงาม บ่มเพาะคนดี รวมใจรวมพลัง ชี้แจงข้อผิดพลาด แยกแยะถูกผิด เชื่อมโยงจีนกับต่างประเทศ และสื่อสารกับทั่วโลก” ทั้ง 48 ตัวอักษรจีนนี้เปรียบเสมือนประภาคารที่ได้ชี้นำทิศทางในการก้าวไปข้างหน้าสำหรับบรรดาผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนทั่วประเทศจีน
ยังมีฉากทัศน์อีกมากมายที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นกันเองระหว่างสีจิ้นผิงกับสื่อมวลชน รวมถึงความเอาใจใส่และการให้คำแนะนำของสีจิ้นผิงที่มีต่องานด้านการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารมวลชน เบื้องหลังฉากทัศน์เหล่านั้นมีสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือความผูกพันอย่างใกล้ชิดกับงานด้านข่าว โดยเฉพาะความผูกพันกับประชาชนอย่างลึกซึ้งของสีจิ้นผิง
แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)
ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่