ต้นชาน้ำมันและจดหมายฉบับหนึ่ง : เรื่องราวของข้าพเจ้ากับ ‘สีจิ้นผิง’ (4)

0
12
ภูมิทัศน์ของฐานปลูกชาน้ำมันขนาดใหญ่ในตำบลหลงผิง อำเภอซิงกั๋ว เมืองกั้นโจว มณฑลเจียงซี (เอื้อเฟื้อภาพโดยสำนักข่าวซินหัว)

เมื่อเร็วๆนี้ เนื่องในโอกาสที่การประชุมสองสภาของจีน คือ การประชุมสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนและการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนประจำปี 2023 ที่กรุงปักกิ่งใกล้เข้ามา หมิง จิงหวา ผู้อำนวยการศูนย์ซื้อขายทรัพยากรสาธารณะเมืองกั้นโจว มณฑลเจียงซีได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องราวของต้นชาน้ำมันและจดหมายฉบับหนึ่งดังต่อไป

“ดินสีแดงทางตอนใต้ของมณฑลเจียงซีของเรานั้นอุดมไปด้วยสารซีลีเนียม มีประวัติการปลูกต้นชาน้ำมันเป็นเวลายาวนาน เมื่อ 8 ปีก่อน ดิฉันเคยช่วยหวัง เฉิงเติง อดีตทหารกองทัพแดงซึ่งปีนี้มีอายุ ครบ 100 ปีในการนำจดหมายฉบับหนึ่งส่งให้กับท่านเลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิง ซึ่งจดหมายฉบับนี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับต้นชาน้ำมัน”

ก่อนการประชุมสองสภาจีนประจำปี 2015 ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติที่มาจากฐานที่มั่นแห่งการปฏิวัติในอดีต หมิง จิงหวาได้เดินทางไปเยี่ยมคุณลุงหวัง เฉิงเติง ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเมืองกั้นโจว หวัง เฉิงเติงได้เขียนจดหมายพิเศษฉบับหนึ่งและฝากให้หมิง จิงหวาส่งต่อไปยังสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน คุณลุงหวังแสดงความปรารถนาไว้ในจดหมายว่า หวังว่าทางรัฐบาลจะเพิ่มการสนับสนุนอุตสาหกรรมบรรเทาความยากจน เช่น ธุรกิจน้ำมันชาทางตอนใต้ของมณฑลเจียงซี เป็นต้น

ทันทีที่เดินทางถึงที่พักรับรองสมาชิกสภาฯในกรุงปักกิ่ง หมิง จิงหวาได้ฝากจดหมายฉบับดังกล่าวผ่านเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปยังสี จิ้นผิง

วันที่ 6 มีนาคมปี 2015 เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงได้เดินทางมาร่วมประชุมกับคณะผู้แทนมณฑลเจียงซีเพื่อร่วมการพิจารณาตรวจสอบรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล “นั่นเป็นครั้งแรกที่ดิฉันเห็นท่านเลขาธิการใหญ่ในระยะใกล้”  แม้เวลาผ่านไปแล้วหลายปี แต่หมิง จิงหวายังคงจำเหตุการณ์ในตอนนั้นได้อย่างชัดเจน “ท่านเลขาธิการใหญ่ทักทายเราด้วยรอยยิ้มและจับมือกับผู้แทนบางคน ท่านมีความเป็นกันเองมาก”

“ระหว่างการประชุม ขณะผู้แทนคนหนึ่งพูดถึงการพัฒนาพื้นที่ฐานที่มั่นแห่งการปฏิวัติในอดีตให้เจริญรุ่งเรืองนั้น ท่านเลขาธิการใหญ่ได้หยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาพร้อมกล่าวว่า นี่เป็นจดหมายที่อดีตทหารกองทัพแดงท่านหนึ่งฝากคนมาให้ ทั้งยังถามว่าใครเป็นคนนำจดหมายฉบับนี้มาให้ ดิฉันยกมือขึ้นทันทีและพูดว่า ‘ดิฉันเองที่นำมาให้ท่าน’ ท่านเลขาธิการใหญ่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วได้เลือกอ่านข้อความสองสามตอนจากจดหมายฉบับนี้ให้ทุกคนฟัง”

เกี่ยวกับความปรารถนาของอดีตทหารกองทัพแดงที่หวังให้พัฒนาธุรกิจชาน้ำมันนั้น ท่านเลขาธิการใหญ่กล่าวกับสหายผู้รับผิดชอบกระทรวงและคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องซึ่งอยู่ในที่ประชุมด้วยว่า “เรื่องนี้สามารถไปดำเนินการศึกษาค้นคว้าได้”

หมิง จิงหวาไม่เคยลืมคำพูดอันหนักแน่นของท่านเลขาธิการใหญ่ในที่ประชุมครั้งนั้นที่ว่า “จะไม่ยอมให้ประชาชนในพื้นที่ฐานที่มั่นแห่งการปฏิวัติเก่าถูกทิ้งไว้ข้างหลังในกระบวนการสร้างสังคมมีกินมีใช้ในทุกด้านอย่างเด็ดขาด”

สิ่งที่หมิง จิงหวาคาดไม่ถึงคือจากนั้นเพียงไม่กี่วัน แผนกที่เกี่ยวข้องได้แจ้งให้ทราบทางโทรศัพท์ว่าจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ตอนใต้ของมณฑลเจียงซี เพื่อวางแผนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมชาน้ำมัน

ภายใต้การเอาใจใส่ของท่านเลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิง อุตสาหกรรมชาน้ำมันทางตอนใต้ของมณฑลเจียงซีได้รับการพัฒนาแบบก้าวกระโดด มีการใช้นโยบายประการต่างๆเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมตามสภาพท้องถิ่น มีการส่งผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าให้เดินทางลึกเข้าไปในเนินเขาและทางลาดเพื่อแก้ไขปัญหาความยุ่งยากผ่านการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์

หมิง จิงหวา(ซ้าย)กำลังศึกษาค้นคว้าอุตสาหกรรมชาน้ำมันที่ฐานปลูกชาน้ำมันไป๋สือเซี่ยในหมู่บ้านหาหู ตำบลหูเปียน เขตจิงไค เมืองกั้นโจว มณฑลเจียงซีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 2023 (เอื้อเฟื้อภาพโดยสำนักข่าวซินหัว)

“มีคนจนมากกว่า 200,000 คนหลุดพ้นจากความยากจนภายหลังเข้าร่วมการพัฒนาอุตสาหกรรมชาน้ำมัน มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อคนต่อปีมากกว่า 800 หยวน นอกจากนั้นยังได้ต่อยอดจากชาน้ำมันสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และสุขภาพ ห่วงโซ่อุตสาหกรรมกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยมีมูลค่าผลผลิตต่อปีมากกว่า 10,000 ล้านหยวน” หมิง จิงหวากล่าวด้วยความปลื้มปิติว่า อุตสาหกรรมชาน้ำมันได้สร้างประโยชน์ให้กับชาวบ้านอย่างแท้จริง

เดือนพฤษภาคมปี 2019 เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิง เดินทางไปตรวจเยี่ยมและศึกษาค้นคว้าที่มณฑลเจียงซี จุดแรกที่ท่านไปก็คือเมืองกั้นโจว “ช่วงเวลาที่ท่านเลขาธิการใหญ่มาที่นี่ ทั่วทุกแห่งหนของเราเต็มไปด้วยไร่ชาน้ำมันแล้ว ท่านเลขาธิการใหญ่มาเยี่ยมเยียนบรรดาชาวบ้านในพื้นที่ฐานที่มั่นแห่งการปฏิวัติเก่า ท่านเน้นย้ำว่า’ต้องให้ประชาชนในฐานปฏิวัติเก่าอยู่ดีมีสุข’ ‘ต้องพยายามพัฒนาชนบทให้เจริญรุ่งเรือง’…คำกล่าวเหล่านี้ทำให้หัวใจของประชาชนในฐานที่มั่นแห่งการปฏิวัติเก่ารู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก!”

หมิง จิงหวากล่าวถึงชาน้ำมันในภาคใต้ของมณฑลเจียงซีด้วยความซาบซึ้งใจว่า “ในยุคสงครามปฏิวัติ น้ำมันเมล็ดชาเป็นของล้ำค่ามาก ชาวบ้านไม่กินมันเองเพราะรู้สึกเสียดาย แต่พวกเขาใช้มันไปแลกกับเกลือ ยา และวัสดุอื่น ๆ จากพื้นที่สีขาว(หมายถึงพื้นที่ที่ปกครองโดยพรรคก๊กมิ่นตั๋งในช่วงสงครามปฏิวัติภายในประเทศครั้งที่สองของจีน)เพื่อสนับสนุนกองทัพแดง ในสนามรบแห่งการบรรเทาความยากจน ชาน้ำมันได้กลายเป็น ‘ต้นไม้แห่งการสร้างความร่ำรวย’ สำหรับพวกเราที่จะถอนรากถอนโคนความยากจน และในการเดินทางครั้งใหม่ มันจะยิ่งกลายเป็น ‘ต้นไม้แห่งความสุข’ ของประชาชนในฐานปฏิวัติเก่าอย่างแน่นอน”

“มีเรื่องราวเกี่ยวกับต้นชาน้ำมันอีกมากมายซึ่งมิอาจเล่าได้จบ มีความผูกพันอันลึกซึ้งดั่งปลากับน้ำซึ่งไม่สามารถพรรณนาหมดได้” หมิง จิงหวากล่าวทิ้งท้ายว่า “เรื่องราวและความรักความผูกพันเช่นนี้ เราจะเขียนบทใหม่ท่ามกลางการเดินทางครั้งใหม่”

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)

ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่

http://www.tcjapress.com/2023/02/25/story-xi-3