ประมุขจีนกับรัสเซียพบกันที่มอสโก

0
0

นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคม 2566 ตามคำเชิญของนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย  การเยือนครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ

ช่วงบ่ายของวันที่ 20 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่น นายสี จิ้นผิงซึ่งเพิ่งเดินทางถึงกรุงมอสโกได้พบกับนายปูตินที่ทำเนียบเครมลินตามกำหนด ประมุขทั้งสองได้มีการแลกเปลี่ยนเชิงลึกและตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความสัมพันธ์จีน-รัสเซียและประเด็นต่างๆ ที่สนใจร่วมกัน

นายสี จิ้นผิงเน้นย้ำในระหว่างการหารือกันว่า การที่ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้นั้นมีเหตุผลทางประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้ง ในฐานะเพื่อนบ้านที่ใหญ่ที่สุดและหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียมีความสำคัญลำดับต้นๆในการทูตโดยรวมและนโยบายการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ แต่ไหนแต่ไรมาจีนดำเนินนโยบายการต่างประเทศที่เป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเองโดยตลอด การเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์จีน-รัสเซียให้ดีนั้นเป็นทางเลือกทางยุทธศาสตร์ที่จีนตัดสินใจโดยพิจารณาจากผลประโยชน์พื้นฐานของตนเองและแนวโน้มหลักแห่งการพัฒนาของโลก ทิศทางหลักของจีนในการส่งเสริมความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับรัสเซียนั้เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งจีนและรัสเซียต่างมุ่งมั่นที่จะบรรลุการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติต่างสนับสนุนความเป็นหลายขั้วของโลกและต่างส่งเสริมประชาธิปไตยในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายต้องกระชับความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในด้านต่าง ๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ส่งเสริมการประสานงานและความร่วมมือในเวทีพหุภาคี เช่น สหประชาชาติ ช่วยให้ประเทศของตนได้พัฒนาและเจริญรุ่งเรือง และขยายบทบาทการเป็นแกนนำของสันติภาพและเสถียรภาพของโลก

นายปูตินกล่าวว่า ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา การพัฒนาในทุกด้านของจีนล้วนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในขณะเดียวกันก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเหนือกว่าด้านระบอบการปกครองแห่งรัฐและระบบธรรมาภิบาลของจีนด้วย ด้วยความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ความสัมพันธ์รัสเซีย-จีนได้ประสบผลสำเร็จอย่างงดงามในหลายด้านในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัสเซียยินดีที่จะสานต่อความร่วมมือในทางปฏิบัติระดับทวิภาคีกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ส่งเสริมการสื่อสารและการประสานงานในกิจการระหว่างประเทศ ส่งเสริมกระบวนการโลกหลายขั้วและกระบวนการประชาธิปไตยในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหายูเครน นายสี จิ้นผิงเน้นย้ำว่าในประเด็นยูเครนนั้น เสียงแห่งสันติภาพและความมีเหตุมีผลกำลังหลอมรวมกันมากขึ้นอย่างต่อเนื่องประเทศส่วนใหญ่ต่างก็สนับสนุนการผ่อนคลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด มีข้อเสนอให้ส่งเสริมสันติภาพและการเจรจา ต่อต้านการเติมเชื้อไฟ หากมองจากประวัติศาสตร์ ข้อพิพาทมักที่จะได้รับการแก้ไขในที่สุดนั้นล้วนต้องผ่านการพูดคุยและเจรจา เมื่อไม่นานมานี้ จีนได้ออกเอกสารแสดงจุดยืนโดยเฉพาะเพื่อเรียกร้องให้แก้ไขวิกฤตยูเครนด้วยวิถีทางการเมือง คัดค้านแนวคิดสงครามเย็นและการคว่ำบาตรโดยลำพังฝ่ายเดียว เราเห็นว่าความลำบากยากยิ่งหนักอึ้งยิ่งต้องเหลือพื้นที่ไว้ให้กับสันติภาพ ความขัดแย้งยิ่งรุนแรงยิ่งไม่ควรละทิ้งความพยายามเพื่อการเจรจา จีนยินดีที่จะแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ต่อไปเพื่อผลักดันการแก้ไขวิกฤตยูเครนด้วยวิถีทางการเมือง

นายปูตินกล่าวว่า รัสเซียของแสดงความชื่นชมจีนที่มีจุดยืนที่ยึดมั่นในความถูกต้อง ความเป็นจริง และความสมดุลในประเด็นระหว่างประเทศที่สำคัญๆ เสมอมา และรักษาความเป็นธรรมและความเที่ยงธรรม รัสเซียได้ศึกษาอย่างรอบคอบต่ออกสารแสดงจุดยืนของจีนเกี่ยวกับการแก้ไขวิกฤตยูเครนด้วยวิถีทางการเมือง รัสเซียมีท่าทีเปิดกว้างต่อการเจรจาสันติภาพ และมีความยินดีที่จีนแสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในเรื่องนี้

ประมุขทั้งสองเห็นพ้องที่จะจัดการเจรจาอีกครั้งในวันถัดไปเพื่อวางพิมพ์เขียวใหม่สำหรับหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างจีน-รัสเซียในช่วงระยะเวลาหนึ่งในอนาคต

นายสี จิ้นผิงได้เน้นย้ำในถ้อยแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรหลังจากเดินทางถึงรัสเซียในวันเดียวกันว่า จีนและรัสเซียทั้งสองประเทศยืนหยัดที่จะกระชับและพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีบนพื้นฐานของหลักการแห่งการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่เผชิญหน้า และไม่เจาะจงต่อฝ่ายที่สาม

นี่เป็นการเยือนรัสเซียครั้งที่เก้าของนายสี จิ้นผิง นับตั้งแต่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีน ในระหว่างการเยือนรัสเซียครั้งแรกเมื่อปี 2013ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เคยอรรถาธิบายถึงความสำคัญระดับโลกของความสัมพันธ์จีน-รัสเซียว่า “ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียในระดับสูงและแข็งแกร่งไม่เพียงแต่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของทั้งจีนและรัสเซียเท่านั้น หากยังเป็นหลักประกันที่สำคัญในการรักษาสมดุลทางยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ ตลอดจนสันติภาพและเสถียรภาพของโลกอีกด้วย

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทยศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)