วันที่ 7 สิงหาคม 1996 นายสี จิ้นผิง ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลฝูเจี้ยน ได้เดินทางไปยังตำบลเซี่ยต่างเป็นครั้งที่สาม พร้อมหัวหน้าหน่วยงานต่างๆในมณฑล เช่น หน่วยงานการคมนาคม การคลัง กิจการพลเรือน กิจการ “เขตเก่า” (เขตเก่าในที่นี่หมายถึงพื้นที่ฐานการปฏิวัติที่ก่อตั้งขึ้นภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงสงครามปฏิวัติที่ดินและสงครามต่อต้านญี่ปุ่น) และการบรรเทาความยากจน
“7 ปีที่ผ่านมาผมคิดถึงเซี่ยต่างเสมอ” สี จิ้นผิง กล่าวว่า “ภายหลังพ้นจากตำแหน่งในเขตหนิงเต๋อแล้ว ผมยังคงมีการติดต่อกับเซี่ยต่าง คุณหยาง(หยาง อี้โจว) มักจะมาหาผมและเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับสภาพของเซี่ยต่าง”
มาครั้งนี้ สี จิ้นผิงได้เห็นโฉมหน้าใหม่ของหมู่บ้านเซี่ยผิงเฟิงซึ่งได้รับการฟื้นฟูจากอุทกภัย และสภาพการก่อสร้างสะพานทางหลวงที่ท้ายหมู่บ้าน สี จิ้นผิงได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสรรเงินทุนเพื่อการพัฒนาให้แก่ตำบลเซี่ยต่างกว่า 1 ล้านหยวน เพื่อช่วยเหลือท้องถิ่นในการสร้างถนนที่แข็งแรงสามารถรองรับเครื่องจักรการเกษตรและพัฒนาการผลิต
ภายใต้การประสานงานของสี จิ้นผิง ถนนเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านหยางซีโถว ตำบลเซี่ยต่าง กับอำเภอชิ่งหยวน มณฑลเจ้อเจียง ได้รับการอนุมัติก่อสร้างจากกรมคมนาคมของมณฑลฝูเจี้ยน ถนนสายนี้สร้างเสร็จและเปิดให้สัญจรได้ในปี 1998
ผู้สูงวัยในหมู่บ้านเล่าให้ฟังว่า เนื่องจากขาดแคลนเงินทุน เดิมสะพานหินโค้งในหมู่บ้านสร้างได้เพียงโครงสร้างส่วนที่โค้งเท่านั้น พื้นสะพานยังทำได้ไม่เรียบร้อย แผ่นไม้ที่ปูไว้สำหรับก่อสร้างจึงกลายเป็นทางเดินชั่วคราว สี จิ้นผิงและคณะเดินข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำจากช่องทางดังกล่าว และเดินทวนน้ำไปตามริมฝั่งเพื่อตรวจดูโครงการคันป้องกันน้ำท่วมที่ซ่อมแซมใหม่ภายหลังประสบความเสียหายจากน้ำท่วม เขาปฏิเสธที่จะไปที่ทำการหมู่บ้านเพื่อพักผ่อนและดื่มน้ำชา แต่ยืนยันที่จะไปเยี่ยมชาวบ้านตามบ้าน
ในอดีตตำบลเซี่ยต่างไม่มีถนนเชื่อมต่อกับภายนอก จึงเป็นเรื่องยากที่จะเดินทางไปไหนมาไหน ทุกวันนี้มีถนนเชื่อมตรงถึงหมู่บ้านใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงก็สามารถเดินทางจากเขตเมืองถึงที่นี่ได้ ครอบครัวที่ยากจนมากในอดีต ปัจจุบันบางครอบครัวได้หลุดพ้นจากความยากจน บางครอบครัวสามารถสร้างฐานะสู่ชีวิตมีกินมีใช้ ชีวิตของบรรดาชาวบ้านได้ถูกยกระดับการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของตำบลเซี่ยต่างทำให้สี จิ้นผิง รู้สึกปลื้มปิติ
สี จิ้นผิงได้กำชับด้วยความห่วงใยเกี่ยวกับอนาคตของตำบลเซี่ยต่าง และถ้อยคำที่มีนัยสำคัญซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า “การพัฒนาของตำบลเซี่ยต่าง ที่สำคัญต้องเน้นการ ‘ทำ‘ ไม่ใช่การ ‘พูด‘
เขาเรียกร้องให้บรรดาเจ้าหน้าที่สืบสานจิตวิญญาณที่เดินทางไปยังทุกหนทุกแห่งเพื่อปฏิบัติงานทุกวันเมื่อครั้งเพิ่งจัดตั้งตำบล เอาชนะอุปสรรคและความยากลำบาก ทำงานได้ดี ต้องอัพเดททัศนคติ ขยายแนวคิด ค้นหาเส้นทางในการก้าวเดินให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงต้องคิดหาแนวทางและแก้ไขปัญหาโดยถือ “ 1 หมู่บ้าน 1 ครัวเรือน และ 1 คน” เป็นเป้าหมายในการเดินหน้าโครงการต่างๆแบบทีละโครงการ จึงจะก้าวขึ้นสู่ระดับใหม่ได้อย่างแท้จริง
ตำบลเซี่ยต่างซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น “สถานที่ห่างไกลและคนไปถึงยาก” แห่งนี้ทำให้สี จิ้นผิงคอยห่วงใยเสมอ ส่วนหยาง อี้โจวได้กลายเป็น “ญาติรองเท้าฟาง” ที่สี จิ้นผิงติดต่อพูดคุยอย่างสม่ำเสมอ
หยาง ซื่อเฟิ่ง ลูกสาวของหยาง อี้โจวเล่าให้ฟังว่าไม่ว่าจะทำงานในมณฑลฝูเจี้ยน หรือมณฑลเจ้อเจียงและนครเซี่ยงไฮ้ สี จิ้นผิงโทรศัพท์มาที่บ้านหลายครั้งผ่านเลขานุการของเขา เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการบรรเทาความยากจนและการพัฒนาของตำบลเซี่ยต่าง และยังเอาใจใส่สภาพครอบครัวของพวกเขาด้วย เมื่อหยาง อี้โจวล้มป่วยและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในเดือนมกราคมปี 2007 สี จิ้นผิงได้กำชับให้เลขาของเขาเดินทางไปเยี่ยมหยาง อี้โจวที่โรงพยาบาลในนามของเขาโดยเฉพาะ หลังจากคุณหยางเสียชีวิตด้วยอาการป่วยในเดือนมิถุนายนในปีเดียวกัน สี จิ้นผิงได้ส่งโทรเลขแสดงความเสียใจ
ประชาชนคือหัวใจของสี จิ้นผิง พื้นที่รากหญ้าเป็นสถานที่ที่เขาไปมากที่สุด การลงพื้นที่ตำบลเซี่ยต่างสามครั้งนั้นถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างของสี จิ้นผิง ที่คอยห่วยใยการพัฒนาของพื้นที่ยากจน
แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)
ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่