ผู้นำจีนยืนหยัดไม่ทรยศ “หัวใจของแม่” นิรันดร์

0
3

“เส้นด้ายในมือแม่ด้วยความรัก เสื้อบนกายบุตรเร่ร่อน”
เดือนมกราคมปี 1969 สี จิ้นผิงในวัยเกือบ 16 ปี เดินทางไปใช้ชีวิตที่หมู่บ้านเหลียงเจียเหอ ทางภาคเหนือมณฑลส่านซี ฉี ซิน ผู้เป็นแม่รู้สึกห่วงใยลูกที่จะต้องห่างไกลกันนับพันลี้ (2 ลี้เท่ากับ 1 กิโลเมตร) ได้เย็บกระเป๋าใบเล็กๆ ให้ และมีการปักอักษรสีแดงไว้ 3 ตัว  “เหนียง เตอะ ซิน” แปลว่า “หัวใจ ของ แม่” ไว้บนกระเป๋า ที่เป็นสักขีพยานความรักระหว่างแม่ลูก

ฉี ซินระบุในบทความรำลึกถึงสี จ้งซวิน สามีผู้ล่วงลับไปแล้วว่า

“ตอนนั้นลูกๆ ของบ้านเรามีความประหยัดมากที่สุดไม่ว่าจะไปไหน”

“ตั้งแต่เด็กเสื้อของลูกๆ ที่บ้านมักจะส่งต่อจากพี่ถึงน้อง เฉียวเฉียว (ลูกสาว) ใส่มาแล้วก็ให้อันอัน แล้วก็ส่งต่อให้จิ้นผิง (ลูกชาย) มีอยู่ครั้งหนึ่งจิ้นผิงร้องไห้ไม่ยอมใส่เพราะว่าเสื้อของอันอันเป็นเสื้อลาย ในที่สุดพ่อก็ต้องนำหมึกสีดำมาย้อมเสื้อผ้าลายและรองเท้าลายให้เป็นสีดำ แล้วจึงให้เขาใส่ต่อ”

ฉี ซิน กับ สี จ้งซวิน รักลูกแต่ไม่ตามใจ
ปี 2001 สี จิ้นผิงระบุในจดหมายถึงบ้านว่า “ตั้งแต่ผมเกิดอยู่กับพ่อแม่มา 48 ปีแล้ว การรู้จักกับพ่อแม่ก็นับวันจะลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นเหมือนๆ กับความรักที่มีต่อพ่อแม่”

ในสายตาของสี จิ้นผิง ครอบครัวคือห้องเรียนห้องแรกในชีวิต พ่อแม่คือคุณครูคนแรกของลูก ได้รับการสั่งสอนอบรมจากทางบ้านแบบไหน ก็จะเป็นคนแบบนั้น
“ทำงานให้ดี เรียนให้ดี จัดการทุกเรื่องให้ดี” นี่เป็นโอวาทจากสามี ฉี ซิน ปฏิบัติตามโอวาทนี้มาโดยตลอด ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่เคยคิดจะใช้อำนาจบารมีของสามีมาปรับเปลี่ยนตำแหน่งงานของเธอเพื่อให้ใกล้บ้านมากขึ้น

ในโอกาสปีใหม่ปี 2023 สี จิ้นผิงกล่าวสวัสดีปีใหม่เป็นครั้งที่ 10 ในฐานะประธานาธิบดี ภาพจากทางโทรทัศน์พบว่าในห้องทำงานของสี จิ้นผิง มีภาพเขากับเผิง ลี่หยวนผู้เป็นภริยาประคับประคองฉี ซิน ผู้เป็นมารดา คนละข้าง มือของแม่ลูกจับกันไว้แน่น ความรักสุดซึ้งของแม่ลูก เป็นที่ประทับใจยิ่ง

สิ่งที่ยากที่จะลืมเลือนได้สำหรับสี จิ้นผิง คือ ตอนเด็กๆ คุณแม่แบกเขาไว้บนหลังไปที่ร้านหนังสือและซื้อหนังสือภาพนิทานขนาดเล็กเรื่อง “เย่ว์ เฟย จ้วน” แปลว่า “ชีวประวัติของเย่ว์ เฟย (งัก ฮวย)” เมื่อซื้อกลับมา ฉี ซินเล่านิทานให้ลูกฟังข้อความตอนหนึ่งว่าคุณแม่ของเย่ว์ เฟย สักข้อความไว้บนหลังของเย่ว์ เฟย ว่า “จิง จง เป้า กั๋ว” แปลว่า “ตอบแทนบุญคุณของแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์”
สี จิ้นผิง ย้อนทบทวนว่า “ผมพูดว่าการสักตัวหนังสือไว้บนหลัง เจ็บเหลือเกิน คุณแม่ผมบอกว่า เจ็บจริงแต่ได้จารึกไว้ในใจ” ทำให้สี จิ้นผิงได้จดจำตัวหนังสือ 4 ตัวที่ว่า “จิง จง เป้า กั๋ว” โดยตั้งเป็นเป้าหมายตลอดชีวิต

ฉี ซิน ผู้เป็นแม่ระบุในบทความบทหนึ่งว่า “มีอยู่หนนึ่ง ดิฉันนั่งดูโทรทัศน์พร้อมกับเขา เป็นสารคดีเรื่องหนึ่งเล่าเรื่องของชาวนาบนภูเขาแห่งหนึ่งไปร้องทุกข์กรณีหน่วยงานยุติธรรมของท้องถิ่นบกพร่อง เมื่อดูจบแล้ว จิ้นผิงอุทานขึ้นมาว่าเป็นชาวบ้านไม่ง่ายนัก” ทำให้ฉี ซินปลื้มใจมากว่า “ลูกชายสามารถนำเรื่องราวของพี่น้องประชาชนมาใส่ไว้ในหัวใจ”

อี๋ว์ ฮุ่ยยี่ว์ ผู้ซึ่งเคยเป็นเลขาธิการของสี จ้งซวิน รำลึกว่า “ในสายตาของฉี ซิน การปฏิบัติตัวของจิ้นผิงเหมือนคุณพ่อของเขาเป็นพิเศษ เรียกว่าแทบจะออกจากพิมพ์เดียวกัน”

จากเลขาธิการพรรคฯ ประจำหมู่บ้านเล็กๆ ในภาคเหนือของมณฑลส่านซี ขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดของประเทศที่ประชาชนร้อยล้านเคารพรักอย่างสุดซึ้ง สี จิ้นผิงมีความรับผิดชอบสูงและทำงานเช้ายันค่ำ ตามปณิธานที่ว่า “การเป็นข้าราชการสมัยหนึ่งสร้างความผาสุกแก่หนึ่งท้องถิ่น” และทำให้เขามักจะติดงานจนไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับคุณแม่

การเติบโตจากครอบครัวที่มีการอบรมสั่งสอนที่ดี สี จิ้นผิงนำประชาชนไว้ในจุดสูงสุดในหัวใจมาโดยตลอด ต่อสู้โดยไม่สนความสุขของตนเพื่อความผาสุกของครอบครัวนับพันนับหมื่นและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ของประชาชนร้อยล้านคน ทำได้จริงไม่ให้ประชาชนผิดหวัง และไม่ทรยศต่อ “หัวใจของแม่”

แปลเรียบเรียงโดยภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน (CMG)