เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย จัดกิจกรรม Open Day เชิญอาจารย์และนักศึกษา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาที่สถานทูตและศูนย์วัฒนธรรมจีน กรุงเทพฯ เพื่อชมการแสดงกังฟูจากวัดเส้าหลิน สัมผัสวัฒนธรรมจีน และชิมอาหารจีนแท้ๆ โดยมีท่านหนิง ฟู่ขุ่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ให้การต้อนรับและบรรยายเรื่องเศรษฐกิจจีน the Belt and Road และความสัมพันธ์จีนไทย
โดยท่านทูตจีน เล่าว่า ก่อนที่จีนจะมีนโยบายเปิดประเทศอย่างเช่นทุกวันนี้ จีนในสมัยที่ตนยังเป็นเยาวชนเป็นประเทศที่ยากจนมาก หากจะซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอะไรก็ตามจะต้องมีคูปองของทางการ จึงจะสามารถซื้อได้ แต่จีนในอีก 40 ปีถัดมาเปลี่ยนไปมากและคนที่สัมผัสเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนคือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีของไทยนี่เอง เพราะพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนมามากกว่า 40 ครั้งแล้ว
ความสัมพันธ์ของจีนและไทยนั้นมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ทั้งสองประเทศไม่เคยมีความขัดแย้งระหว่างกัน ปัจจุบันจีนยังคงดำเนินนโยบายสร้างความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลไทยหลักๆ 3 ประการ ประการแรก คือ ไม่แทรกแซงทางการเมือง ไม่ว่าการเมืองไทยจะเปลี่ยนแปลงไปแบบใดก็ตาม ประการที่สองคือ ด้านเศรษฐกิจ จีนมีโครงการสนับสนุนไทยสร้างโครงสร้างพื้นฐานสอดรับกับนโยบายประเทศไทย 4.0 โมเดลพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ที่เน้นการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม วิทยาศาสตร์และการเพิ่มมูลค่าสินค้า ประการสุดท้ายคือ การส่งเสริมมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ โดยปีที่แล้วเป็นปีที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเยือนไทยมากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ ท่านหนิง ฟู่ขุ่ย ได้กล่าวเน้นย้ำกับเยาวชนที่เข้าร่วมงานว่า ปัจจุบันความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจไทย-จีนกำลังเติบโต อุตสาหกรรมและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นยังต้องการบุคคลลากรที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้เป็นจำนวนมาก ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สถานเอกอัครราชทูตจีนเปิดบ้านต้อนรับนักศึกษาไทยก็เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เด็กไทยเรียนรู้วัฒนธรรมจีนและเรียนภาษาจีนให้แตกฉาน เป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนายิ่งขึ้นไปอีก ทั้งนี้ จีนยังมีการให้ทุนการศึกษาเยาวชนไทยไปเรียนต่อที่จีนเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ที่มา : www.dailynews.co.th
ภาพจากแฟนเพจ Chinese Embassy in Bangkok