คุยกับ “ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล” แห่งดีวาน่ากรุ๊ป อีกหนึ่งเสียงยืนยัน “คนโรงแรมต้องได้ภาษาจีน”

0
641

รายได้จากการท่องเที่ยวนับเป็นรายได้สำคัญสำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางจังหวัด เช่น จังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ การเตรียมพร้อมบุคลากรด้านการโรงแรมให้มีทักษะความสามารถในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจึงเป็นอีกหนึ่งความสำคัญของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว

เมื่อดูจากสถานการณ์ท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตในปี 2559 มีอัตราที่เติบโตขึ้นจากปี 2558 ถึง 7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่า การเติบโตมาจากตลาดนักท่องเที่ยวจีน ที่มาแรงกว่าตลาดนักท่องเที่ยวชาติอื่น โดยนักท่องเที่ยวจีนมีทั้งกลุ่มที่มาเที่ยวเองและมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไฮซีซั่น มีอัตราการเติบโตมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และมีอัตราการเติบโตในช่วงโลว์ซีซั่นอยู่ที่ 15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อน

ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล ประธานกรรมการบริษัท ดีวาน่ากรุ๊ป จำกัด ผู้ทำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และสปารายใหญ่ในจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติมายังประเทศไทยรวมอยู่ที่ 32.5 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศมากกว่า 2.51 ล้านล้านบาท โดยเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาบ้านเรามากสุด คิดเป็นอันดับ 1 มีจำนวนกว่า 8 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคนในปี 2560 ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมทั้งหมดในภูเก็ตเติบโตขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์

“สำหรับโรงแรม ในเครือดีวาน่า กรุ๊ป ของเรา มีนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่ชาวจีนเพียงอย่างเดียว เราให้บริการทั้งนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลีย อินเดีย เกาหลี และแถบยุโรป อย่างฝรั่งเศส สวีเดน เป็นต้น”

ทั้งนี้ เฉพาะเดือนมกราคมที่ผ่านมา อัตราเข้าพักของเราอยู่ที่ร้อยละ 97 ซึ่งมากกว่าเดือนมกราคมของปีก่อน (2559) ที่อยู่ประมาณร้อยละ 91

ทั้งนี้ราคาที่พักเฉลี่ยอยู่ที่ 4,000 บาทต่อคืน และหากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นจะลดราคาลงอยู่ที่ 2,500-3,000 บาทต่อคืน เพราะการทำราคาโปรโมชั่น ดึงนักท่องเที่ยวเข้าพัก

เมื่อถามถึงในส่วนของภาครัฐมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างไร คุณศึกษิตบอกว่า ทางภาครัฐเข้ามาช่วยจัดระเบียบชายหาด ให้มีพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวและของทางโรงแรมอย่างเป็นสัดส่วนมากขึ้น รวมถึงจัดระเบียบรถแท็กซี่ และสนามบินให้มีความเป็นระเบียบ

ไม่เพียงเท่านี้ยังส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้ามายังภูเก็ตด้วยการลดราคาในการต่อวีซ่า และขยายระยะเวลาของวีซ่าเพิ่มขึ้นถึงเดือนสิงหาคม

“ถ้ามองในมุมของผู้ประกอบการอย่างเรา ก็อยากเสนอให้ทางภาครัฐทำนโยบายวีซ่าฟรีให้ถึง 31 ธันวาคมไปเลย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น เชื่อว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้”

หากหันไปมองในด้านบุคลากรภายในสถานประกอบการอย่างโรงแรมนั้น สิ่งจำเป็นคือพนักงานต้อง “พร้อม” เรียนรู้หน้างาน และรู้จักแก้ไขปัญหากับลูกค้าในแต่ละครั้ง โดยทาง ดีว่านา กรุ๊ป มีพนักงานที่จบสายโรงแรมโดยตรงมา กลุ่มนี้จะได้เปรียบมากกว่าคนอื่น ส่วนกลุ่มที่จบสาขาอื่นมา ก่อนทำงานจริงก็จะมีการเทรนด์เบื้องต้นก่อนให้กับพนักงานที่ไม่มีทักษะ

คุณศึกษิตมองว่า สิ่งที่จำเป็นอยู่ในขณะนี้คือ ทักษะในเรื่องของภาษาในการสื่อสาร โดยเฉพาะภาษาจีน เพื่อใช้ในการรองรับกระแสนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งได้มีการติดต่อ MoU กับสถาบันอาชีวศึกษาหลายๆ แห่ง เช่น อาชีวะภูเก็ต ให้มาทำงานในสถานประกอบการกับทางดีวาน่า กรุ๊ป

“ขณะนี้มีเด็กฝึกงานประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ของพนักงานทั้งหมดในโรงแรม ซึ่งเด็กฝึกงานบางคนสามารถสื่อสารภาษาจีนกับนักท่องเที่ยวได้ดีกว่าพนักงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน เชื่อว่าในอนาคตจำเป็นอย่างมาก อยากให้ทางสถาบันการศึกษาเพิ่มหลักสูตรเน้นเรื่องภาษาจีนเพิ่มมากขึ้น”

นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า สำหรับเด็กที่จบด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม ต้องมีทักษะในเรื่องของการทำงานจริง โดยเพิ่มการฝึกงานให้มากขึ้น ไม่ใช่เพียงในระยะสั้นๆ อยากให้ทางอาชีวะมีหลักสูตรทวิภาคี เรียนหนึ่งปีทำงานหนึ่งปี ซึ่งจะเป็นข้อดีให้นักเรียนนักศึกษาได้มีทักษะการทำงานอย่างต่อเนื่องกว่านักเรียนนักศึกษาที่ฝึกงานแค่สองเดือนในระยะสั้น

ไม่เพียงเท่านี้ทางดีวาน่า ยังให้ใช้พื้นที่ภายในโรงแรมกับอาชีวะภูเก็ต เพื่อจัดสอบในสถานที่จริง เป็นการอำนวยความสะดวกให้นักเรียนนักศึกษาได้รู้สึกถึงสถานการณ์การทำงานจริง

จะเห็นได้ว่าการท่องเที่ยวในบ้านเรามีอนาคตที่สดใส ทั้งนี้ สิ่งที่คนโรงแรมต้องมีติดตัวก็คือ ความสามารถด้านภาษาโดยเฉพาะ ภาษาจีน ซึ่งหากสถานประกอบการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาได้ เชื่อว่าจะสามารถพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้ดีมากขึ้น จะเป็นผลดีต่อเด็ก และตลาดแรงงานอย่างแน่นอน