ผู้นำกัมพูชาชื่นชมหนังสือ “สีจิ้นผิง ยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ” แนะเจ้าหน้าที่รัฐอ่านและนำไปประยุกต์ใช้

0
149

เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา หนังสือ “สีจิ้นผิง ยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ” ภาคภาษากัมพูชาได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในกรุงพนมเปญเมืองหลวงของประเทศกัมพูชา

สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายเจี่ยงเจี้ยนกั๋ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสารนิเทศแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดตัวซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โดยงานเปิดตัวที่มีนักวิชาการ นักวิจัยและนักศึกษามหาวิทยาลัย รวม 500 คนเข้าร่วมในครั้งนี้ได้ถูกถ่ายทอดสดไปบนเว็บไซต์ Fresh News เว็บข่าวชั้นนำของประเทศ อีกทั้งยังมีการไลฟ์สตรีมบนหน้าเฟซบุ๊คของนายกฯฮุนเซนอีกด้วย

หนังสือเล่มนี้ได้บันทึกข้อความของผู้นำแห่งประเทศจีนจำนวน 79 ชุด อันประกอบไปด้วย บทสนทนา บทสัมภาษณ์ บันทึกย่อ และจดหมาย ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2012 ถึงเดือนมิถุนายน 2014 ความสำคัญของมันก็คือจะช่วยให้ผู้อ่านจากทั่วโลกเข้าใจ การพัฒนา นโยบายภายในประเทศและต่างประเทศของจีน ตลอดจนความกังวลต่างๆ ของจีนที่มีต่อประชาคมโลกได้ดียิ่งขึ้น

สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน กล่าวว่าหนังสือเล่มนี้มีจุดเด่นอยู่ที่หลักการการปกครองประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจ สวัสดิการและความเป็นอยู่ของประชาชน รวมไปถึง หลักกฎหมาย ความก้าวหน้าทางวัฒนธรรม การอนุรักษ์ระบบนิเวศ ตลอดจนความสำคัญของจีนที่มีต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและทั่วโลก พร้อมกล่าวว่าตนอยากแนะนำให้ เจ้าหน้าที่รัฐ อาจารย์ และนักเรียน อ่านหนังสือเล่มนี้และเลือกความคิดที่ดีๆ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง อีกทั้งยังกล่าวว่าตนรู้สึกชื่นชมความคิดเกี่ยวกับการต่อต้านคอร์รัปชันของสีจิ้นผิงรวมถึงนโยบายต่างประเทศของจีนที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตรอย่างจริงใจ

ในขณะที่นายเจี่ยงกล่าวว่า ขณะนี้หนังสือเล่มนี้ถูกแปลไปแล้วกว่า 16 ภาษาทั่วโลก และถูกตีพิมพ์ในทั่วโลกแล้วกว่า 6.2 ล้านเล่ม พร้อมกล่าวว่า ตนเชื่อว่าหนังสือเล่มจะทำให้ผู้อ่านชาวกัมพูชาจะได้เรียนรู้ประสบการณ์การบริหารประเทศของจีนมากขึ้น

ส่วนนายฟายสิฟาน โฆษกรัฐบาลกัมพูชากล่าวว่า หนังสือภาคภาษากัมพูชาเล่มนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและความร่วมมือระหว่างกัมพูชากับจีน และจะทำให้ชาวกัมพูชาได้รู้และศึกษาเกี่ยวกับความสำเร็จในการบริหารประเทศของจีนมากขึ้น