​การเชื่อมต่อเส้นทางสายไหม และ EEU จะเกิดประโยชน์อย่างไร?

0
147

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักข่าวซินหัวได้ให้สัมภาษณ์กับ Sergey Lukonin หัวหน้าภาคเศรษฐกิจและการเมืองจีนของศูนย์วิจัยเอเชียแปซิฟิก สถาบันวิจัยด้านเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศพรีมาคอฟ 

ถาม1: ในมุมมองของคุณ รัสเซียมีความเห็นต่อโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ที่นำเสนอโดยประเทศจีนอย่างไร?

ตอบ: ผมคิดว่ารัสเซียให้การสนับสนุนโครงการนี้ โดยรัสเซียและจีนได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมกัน เกี่ยวกับการเชื่อมต่อของเส้นทางสายไหมทางบก และสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชียน (EEU) ในเดือนพฤษภาคม 2015 ซึ่งผู้นำของทั้งสองประเทศต่างก็สนับสนุนความร่วมมือนี้

ถาม2: สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดโครงการเส้นทางสายไหมใหม่คืออะไร?

ตอบ: ประการแรกคือบรรดาประเทศที่อยู่ตามเส้นทางสายไหมนี้ ต่างประสบความยากลำบากจากโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ดีและเงินลงทุนที่ขาดแคลน ส่วนประการที่สองคือประเทศเหล่านี้สามารถใช้กองทุนจากจีน เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจได้

ถาม3: คุณคิดว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการเชื่อมโยงระหว่างโครงการเส้นทางสายไหมและสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชียนคืออะไร?

ตอบ: ผมมองเห็นอนาคตที่สดใส จากการที่เรากำลังร่วมมือกันอยู่ในขณะนี้ รวมไปถึงโครงการ Yamal LNG ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเส้นทางสายไหม ขณะเดียวกัน ก็ยังมีอีกหลายโครงการที่กำลังดำเนินงานไปอย่างเชื่องช้า แต่ผมคิดว่าอุปสรรคจะถูกกำจัดออกไปในระยะยาว และการเชื่อมต่อจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ ภายใน 5-10 ปี

ถาม4: เราจะได้เห็นการพัฒนาในด้านใดเป็นอย่างแรก? และอะไรที่จะกลายเป็นแหล่งพลังงานสำหรับความร่วมมือรัสเซีย – จีน?

ตอบ: เราได้เห็นการพัฒนาในบางด้านแล้วในขณะนี้ เช่น ด้านพลังงาน ซึ่งรัสเซียกำลังจัดหาน้ำมันและก๊าซให้กับจีน และในอนาคตข้างหน้า ทั้งสองประเทศต่างก็มีแนวโน้มที่จะร่วมมือกันในด้านต่างๆ รวมถึงด้านการคมนาคมขนส่ง นอกจากนี้ ผมยังหวังว่ารัสเซียและจีนจะยังสามารถร่วมมือกันสร้างห่วงโซ่การผลิต ซึ่งสามารถขยายไปสู่ระดับโลกในท้ายที่สุดและช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้มหาศาล

ถาม5: คุณจะพูดถึงโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ในประโยคเดียวว่าอย่างไร?

ตอบ: นอกเหนือจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจแล้ว เรายังจะเสริมสร้างความร่วมมือในด้านวัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน และระดับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย