ประธานสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงมองไทยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ One Belt One Road

0
267

ประธานสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงมองไทยเป็นเป้าหลักในของการค้าและการลงทุนในภูมิภาค พร้อมชมโครงการพัฒนา EEC ไทยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีน

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 60 เวลา 16.30 น. นายวินเซนต์ โล (Mr. Vincent Lo) ประธานสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Chairman of Hong Kong Trade Development Council, HKTDC) เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสนำคณะนักธุรกิจจากฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ เดินทางเยือนไทย ระหว่างวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2560 เพื่อร่วมสัมมนาการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้น” ระหว่างไทย-ฮ่องกง-เซี่ยงไฮ้ และพบปะภาครัฐและเอกชนไทยเพื่อพัฒนาโอกาสการลงทุนในไทย พลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยสาระสำคัญว่า ประธานสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงกล่าวสนับสนุนโครงการ พัฒนา EEC มีศักยภาพเชื่อมต่อโครงการ One Belt One Road ของจีน และบริษัทชั้นนำของฮ่องกงและจีน แสดงความสนใจศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้ามาร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในโครงการต่างๆ


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยพร้อมส่งเสริมความร่วมมือภายใต้ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้น” (One Belt One Road) บนผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อให้เอเชียทั้งภูมิภาคเติบโตไปด้วยกัน (Stronger together) ซึ่งปัจจุบันไทยได้ริเริ่มนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญต่างๆ Thailand 4.0, ASEAN +1 รวมทั้งกรอบการประชุมสำคัญ อาทิ IMT-GT และโครงการการพัฒนา EEC ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมโยงและเป็นกลไกทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอาเซียนและภายในอนุภูมิภาค CLMV รวมทั้งสนับสนุน การเปิดสำนักงานผู้แทนระดับภูมิภาค (Regional Headquarters) ในไทย เพื่อขยายโอกาสและความร่วมมือกับ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม smes และไมโครเอสเอ็มอี โดยใช้ประโยชน์ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจของไทยดังกล่าว ด้วย
นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำว่า ขณะนี้ประเทศไทยถือได้ว่า เป็นช่วงเวลาที่มีความมั่นคงมากที่สุดตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการสร้างเสถียรภาพทางการเมืองและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ด้านการพัฒนาการเมืองนั้น รัฐบาลจะเดินหน้าบริหารประเทศตามแผนปฏิบัติการ (Roadmap) เพื่อการเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ ซึ่งตามแผน ฯ จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า ภายหลังการเสร็จสิ้นพระราชพิธีสำคัญของไทยในปลายปี ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศในระยะยาว หรือ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศระยะ 20 ปี เพื่อเศรษฐกิจและสังคมไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วย เชื่อว่าภาคเอกชนจะเห็นโอกาสและประโยชน์ ไม่รีรอและตัดสินใจลงทุนในไทยทันที
โอกาสนี้ ประธานสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงกล่าวรายงานความสำเร็จในการนำคณะผู้บริหารระดับสูงจาก ฮ่องกงและนครเซี่ยงไฮ้ โดยมีผู้แทนภาคเอกชนครอบคลุมทั้งภาคการผลิต พลังงาน เทคโนโลยี วิศวกรรมการก่อสร้าง และตลาดเงินตลาดทุน ได้เข้าร่วมสัมมนาและพบหารือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนชั้นนำของไทย ทำให้รับทราบแผนงานการพัฒนาโครงการเศรษฐกิจต่างๆ ของไทย โดยเฉพาะโครงการพัฒนา EEC ที่มีศักยภาพสูงและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” One Belt One Road ด้วยศักยภาพทางเศรษฐกิจ ทำให้ไทยเป็นเป้าหมายหลักที่หนึ่งของการลงทุนในอาเซียนและ CLMV ขณะเดียวกันฮ่องกงมีข้อได้เปรียบในฐานะ ผู้ประสานโครงการพื้นฐาน ที่จะสามารถร่วมมือกับไทยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย ขณะนี้มีภาคเอกชนจากฮ่องกงและนครเซี่ยงไฮ้ แสดงความสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเส้นทางคมนาคม ภายใต้Thailand 4.0 และ โครงการ EEC ของไทย พร้อมจะเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนและจะมีการหารือกับผู้แทนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยต่อไป