การประชุมทางวิชาการเพื่อสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการของไทย

0
244

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(กก.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) ร่วมมือกันจัด “การประชุมทางวิชาการเพื่อสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการของไทย Thailand Forum on Tourism Research Integration (TFTRI)” ขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนากรอบแนวคิดการวิจัยด้านการท่องเที่ยวและการบริการ ตลอดจนนำองค์ความรู้และผลจากการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในมิติต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ

ภายในงาน พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร และพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานร่วมโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว จำนวนประมาณ 300 คน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานจาก 3 ภาคส่วนอย่างถูกต้องเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายการท่องเที่ยวของประเทศ และแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์การท่องเที่ยวไทย ระยะ 20 ปี ที่ว่า “ประเทศไทยเป็นแหบ่งท่องเที่ยวคุณภาพชั้นนำของโลก ที่เติบโตอย่างมีดุลยภาพ บนพื้นฐานความเป็นไทย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และการจายรายได้สู่ประชาชนทุกภาคส่วน”

รองนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานเล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาวิจัยในการนำมาใช้ประโยชน์ในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยเพื่อก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมในเจตนารมณ์ที่จะสร้างความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานในวันนี้ หลังจากนั้นจึงเป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านวิชาการและการวิจัยระหว่าง 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนากรอบแนวคิดการวิจัยด้านการท่องท่องเที่ยวและการบริการ ตลอดจนการนำองค์ความรู้และผลจากการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในมิติต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวบนฐานงานวิจัย ว่าเป้าหมายของเราคือ ต้องการการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เติบโตอย่างยั่งยืนไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือให้นักท่องเที่ยวเข้าใจและมีความสุขในการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง เราจึงต้องหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่จะกลับมาเที่ยวอีก อยู่นานมากขึ้นและท่องเที่ยวแบบลงลึกมากขึ้น ขณะเดียวกันความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติ น้ำ ป่าไม้ และจัดการขยะ รองรับสิ่งเหล่านี้ด้วยมือของเราเอง รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ให้ตรงถึงผู้บริโภคไม่เฉพาะแต่เจ้าของโรงแรมหรือร้านอาหาร แต่คนส่วนใหญ่ของประเทศจะต้องได้รับการเฉลี่ยสุขจากการท่องเที่ยว ไม่ใช่แค่ร่ำรวยแต่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

“สิ่งสำคัญคือ การสร้างคนและสร้างจิตสำนึกแก่คนรุ่นใหม่ ท่องเที่ยว 4.0 จะต้องเติบโตไปพร้อมกับนวัตกรรมโดยไม่ลืมอัตลักษณ์และวิถีความเป็นไทย จิตวิญญาณที่สั่งสมมาช้านานต้องอยู่กับการเติบโตของเทคโนโลยี คนรุ่นใหม่ต้องภาคภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย นอกจากนี้จะต้องเติบโตไปพร้อมกับประเทศอื่นในอาเซียน ต้องมองในเชิงพื้นที่ให้มีความเชื่อมโยง เมืองใหม่ต้องดูแลเมืองรอบ ๆ สินค้าต้องมีคุณภาพ ในการแข่งขันทางการท่องเที่ยวนั้นอาเซียนเป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งขันที่เป็นคู่ค้า ดังนั้นมุมมองเดิม ๆ ต่อไปนี้จะไม่เหมือนเดิม เพราะเราจะก้าวสู่เวทีโลกแบบมีความรู้ รู้ลึก เรียนรู้และปฏิบัติไปด้วยกัน สิ่งที่เราเคยทำก็จะมีคนอื่นทำเช่นกัน เราเข้าสู่โหมดของการแข่งขันที่สูงขึ้น ณ วันนี้ต้องมีความรู้นำทาง ผู้ปฏิบัติด้วยใจ และนโยบายของภาครัฐ เพื่อรวมพลังกันทำงานแบบบูรณาการอย่างมีทิศทางและเป้าหมายเดียวกัน”

ภายหลังพิธีลงนาม นักวิจัย สกว.ได้นำเสนอแนวทางการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการประจำปีงบประมาณ 2561 จำนวน 11 กรอบงานวิจัย จาก 3 กลุ่ม ได้แก่
1) กลุ่มการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน
2) กลุ่มการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวโดยชุมชน
3) กลุ่มการสร้างมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยว