ความคิดอันลึกซึ้งของปธน.สี จิ้นผิงด้านสิทธิมนุษยชนจีน

0
9

ความคิดอันลึกซึ้งของปธน.สี จิ้นผิงด้านสิทธิมนุษยชนจีน : แนวคิดสิทธิมนุษยชนของชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกิดขึ้นจากประวัติศาสตร์การต่อสู้เอาชนะความทุกข์ยาก

ควบคู่ไปกับสังคมนิยมแบบอัตลักษณ์จีนย่างเข้าสู่ยุคใหม่ ภารกิจสิทธิมนุษยชนของจีนก็เข้าสู่ยุคใหม่เช่นกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา  นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้ส่งสารแสดงความยินดีกับการจัดฟอรั่มสิทธิมนุษยชนปักกิ่ง 2015, ฟอรั่มนานาชาติรำลึกครบรอบ 30 ปีการผ่าปฏิญญาว่าด้วยสิทธิในการพัฒนา, ฟอรั่มสิทธิมนุษยชนใต้ใต้ครั้งแรก และการประชุมสัมมนารำลึกครบรอบ 70 ปีการออกปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนตามลำดับ

ไม่เพียงสะท้อนถึงการให้ความสำคัญต่อภารกิจสิทธิมนุษยชนของปธน.สี จิ้นผิงเท่านั้น หากยังเป็นการบ่งบอกอย่างรวมศูนย์ถึงความคิดอันลึกซึ้งของชาวคอมมิวนิสต์จีนทั้งมวลเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศ การรับรู้แนวคิดด้านสิทธิมนุษยชนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในยุคใหม่นั้น ย่อมมีความหมายสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจจีนร่วมสมัยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ความลึกซึ้งของแนวคิดสิทธิมนุษยชนของชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกิดขึ้นจากประวัติศาสตร์ความพยายามฟันฝ่าต่อสู้พื่อนำมาซึ่งสิทธิมนุษยชนของประชาชนจีนโดยแท้

หลักการ การเคารพและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนได้รับการบรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและธรรมนูญแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของประเทศและของพรรคที่ทรงอำนาจสูงสุด 2 ฉบับของจีน ถือเป็นปรากฏการณ์เชิงสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าด้านภารกิจสิทธิมนุษยชนของจีนด้วย

สาเหตุที่ชาวคอมมิวนิสต์จีนสามารถมีความก้าวหน้าเชิงประวัติศาสตร์และมีการตัดสินใจทางการเมืองที่สำคัญเช่นนี้ได้นั้น เป็นเพราะความตระหนักด้านสิทธิมนุษยชนของคอมมิวนิสต์จีนเกิดขึ้นจากประวัติศาสตร์การต่อสู้เอาชนะความทุกข์ยากอันยาวนานของประชาชนจีน 

เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีแห่งชัยชนะสงครามประชาชนจีนต่อต้านการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่นและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์แห่งโลก เมื่อวันที่ 16 กันยายน ปี 2015ฟอรั่มสิทธิมนุษยชนปักกิ่งในหัวข้อสันติภาพและการพัฒนา : ชัยชนะสงครามต่อต้านฟาสซิสต์แห่งโลกและความก้าวหน้าด้านสิทธิมนุษยชนเปิดฉากขึ้น

ในสารแสดงความยินดีที่ส่งถึงฟอรั่มครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวชี้ว่า 70 ปีที่แล้ว เพื่อพิทักษ์สันติภาพความเป็นธรรม และศักดิ์ศรีแห่งมนุษยชาติ ประเทศและประชาชนที่รักสันติภาพเสรีภาพในทั่วโลกได้รับชัยชนะในสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ หลังผ่านการสู้รบนองเลือดแสนสาหัส และแลกมาด้วยการอุทิศชีวิตจำนวนมหาศาลประชาชนจีนต่อสู้กับการรุกรานอันป่าเถื่อนของลัทธิรัฐทหารญี่ปุ่นเป็นเวลานานถึง 14 ปี เกิดความสูญเสียมากมายมหาศาล ได้สร้างคุณูปการสำคัญต่อการเอาชนะสงครามต่อต้านฟาสซิสต์แห่งโลก ตั้งแต่ยุคใกล้เป็นต้นมา ประชาชนจีนประสบกับความยากลำบากและความทุกข์ทรมานมามาก จึงมีความตระหนักอันลึกซึ้งต่อความหมายอันสำคัญยิ่งของคุณค่ามนุษย์ สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่มีต่อการพัฒนาและความก้าวหน้าของสังคมตลอดจนหวงแหนเป็นทวีคูต่อสภาพแวดล้อมแห่งการพัฒนาอย่างสันติซึ่งได้มาด้วยความยากลำบาก จีนจะเดินตามหนทางการพัฒนาอย่างสันติและขับเคลื่อนภารกิจสิทธิมนุษยชนทั้งของจีนและทั่วโลกอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความคิดด้านสิทธิมนุษยชนของชาวคอมมิวนิสต์จีนไม่ได้หล่นลงมาจากฟากฟ้า ไม่ได้มีอยู่ในสมองโดยธรรมชาติ และก็ไม่ได้มาจากหนังสือเท่านั้น แต่เกิดขึ้นมาจากประวัติศาสตร์ความทุกข์ยากของประชาชนจีนซึ่งกินเวลานานกว่า 170 ปีนับตั้งแต่สงครามฝิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นมาจากการต่อสู้อันยาวนานในสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นและต่อต้านฟาสซิสต์ของประชาชนจีน

ดังนั้น ปธน.สี จิ้นผิงจึงใช้คำศัพท์เช่นตระหนักอย่างลึกซึ้งและหวงแหนเป็นทวีคูณเพื่อแสดงความเข้าใจในสิทธิมนุษยชน ความลึกซึ้งของแนวคิดเรื่องสิทธิมนุษยชนของชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้น จึงได้มาจาประวัติศาสตร์แห่งการทุ่มเทฟันฝ่าต่อสู้ด้วยความยากลำบากเพื่อสิทธิมนุษยชนของประชาชนอย่างแท้จริง

แปลเรียบเรียงโดยภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีนCMG