บทวิเคราะห์:จุดยืนของจีนในปัญหายูเครนสอดคล้องผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานโลก

0
1

บทวิเคราะห์ : จุดยืนของจีนในปัญหายูเครนสอดคล้องผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานโลก

วิกฤตการณ์ในยูเครนได้ยืดเยื้อมานานกว่าสองเดือนแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีแผนการแก้ปัญหาใด แม้สถานการณ์ปัจจุบันน่าเป็นห่วง แต่ความพยายามที่จะยุติความขัดแย้งและฟื้นฟูสันติภาพไม่เคยหยุดนิ่ง

นับตั้งแต่ช่วงต้นเกิดวิกฤต จีนก็ได้ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ และทำงานอย่างแข็งขัน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และช่วยทำให้สถานการณ์อันตึงเครียดผ่อนคลาย

จุดยืนดังกล่าวของจีนสอดคล้องกับผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานและระยะยาวของโลก และการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมของจีนได้เพิ่มความมั่นใจและเป็นพลังผลักดันใหม่ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของโลก  จึงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากประชาคมโลก ซึ่งรวมทั้งรัสเซียและยูเครนด้วย

ในประเด็นยูเครน จีนใช้ท่าทีเคารพความเป็นจริงและความยุติธรรม   และยึดหลักการสันติภาพและความเป็นธรรมมาโดยตลอด  วิกฤตครั้งนี้มีภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ที่สลับซับซ้อนมาก และมีสาเหตุมูลฐานจากความคิดในยุคสงครามเย็นและการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มประเทศ

จีนเน้นตลอดว่า ต้องเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศ  วัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติต้องได้รับการปฏิบัติตามอย่างเต็มที่ และต้องคำนึงถึงความกังวลด้านความปลอดภัยที่สมเหตุสมผลของทุกประเทศอย่างจริงจัง

ในช่วงต้นเกิดวิกฤต จีนก็ได้ทุ่มกำลังในการส่งเสริมการเจรจาสันติภาพพยายามช่วยผ่อนคลายสถานการณ์อันตึงเครียด รวมทั้งเสนอแนะให้ดำเนินการเจรจาสันติภาพ  ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากฝ่ายรัสเซีย

ในช่วงเวลาต่อมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้เจรจาทางโทรศัพท์กับผู้นำหลายประเทศ โดยเรียกร้องให้สร้างโอกาสแห่งสันติภาพ และมีช่องทางเหลือไว้สำหรับการแก้ไขปัญหาด้วยวิถีทางการเมือง  ตลอดจนสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายเอาชนะความยากลำบาก ดำเนินการเจรจาต่อไป เพื่อเกิดผลสันติภาพ

ข้อเสนอแนะดังกล่าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของจีนในประเด็นปัญหายูเครนอย่างชัดเจน   ช่วงที่ผ่านมา นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ได้จัดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกกับรัฐมนตรีต่างประเทศของหลายประเทศ  นอกจากนี้ จีนยังได้เสนอจุดยืนและข้อริเริ่มในการบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรม  ทั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของจีนในการแก้ไขวิกฤตและผ่อนคลายสถานการณ์อันตึงเครียด

ขณะนี้  จีนยังคงเน้นว่า สนับสนุนรัสเซียและยูเครนเอาชนะความยากลำบาก  และดำเนินการเจรจาสันติภาพต่อไป  พร้อมทั้งสนับสนุนผลลัพธ์ที่เป็นบวกที่ทำได้แล้ว และความพยายามของฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมในวงกว้าง

แม้จีนได้ใช้ความพยายามมามากดังกล่าวแล้ว แต่วิกฤตการณ์ในยูเครนกลับกลายเป็นสนามรบด้านข้อมูลข่าวสารที่นักการเมืองและสื่อสหรัฐฯ บางส่วนใช้ประโยชน์ในการสร้างความเสียหายให้กับจีน พวกเขาพูดโกหก บิดเบือนความสัมพันธ์จีน-รัสเซียด้วยเจตนาร้าย  และขู่ว่าจะคว่ำบาตรจีน พร้อมทั้งกดดันให้จีนต้องยกเลิกการใช้นโยบายการต่างประเทศที่สันติ เป็นอิสระ นอกจากนี้ ยังบังคับให้จีนต้องเลือกข้าง

คำพูดที่เหลวไหลไร้สาระดังกล่าวของนักการเมืองและสื่อสหรัฐฯบางส่วนได้ก่อให้เกิดผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

อันที่จริง สหรัฐฯเองเป็นผู้สร้างกระแสความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน จากการขยายองค์การนาโต้ไปสู่ทิศตะวันออกรวมห้ารอบ ไปจนถึงการวางแผนทำ “การปฏิวัติสี” ในประเทศรอบข้างของรัสเซีย สหรัฐฯได้เหยียบย่ำเส้นสีแดงของรัสเซียซ้ำแล้วซ้ำเล่า และพยายามก่อให้เกิดความปั่นป่วน เพื่อครอบงำกิจการของยุโรป

วิกฤตครั้งนี้ทำให้แผนอุบายของสหรัฐฯถูกเปิดโปงอย่างโจ่งแจ้ง หลังเกิดการปะทะทางทหารระหว่างรัสเซียและยูเครน สหรัฐฯไม่สนใจเรื่องการแก้ไขปัญหาทางการเมืองแม้แต่นิด แต่กลับเดินหน้ายุยงปลุกปั่น และทำให้ความขัดแย้งลุกลามออกไปในภูมิภาค เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงดังกล่าว

วิกฤตในยูเครนเป็นเรื่องที่น่าเสียใจจริงๆ  รัสเซียและยูเครนต่างเป็นหุ้นส่วนที่เป็นมิตรของจีน  ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียมีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศเน้นตลอดว่า ไม่ผูกเป็นพันธมิตร ไม่เผชิญหน้ากับใคร และไม่มุ่งเป้าไปที่ประเทศที่สาม ส่วนความสัมพันธ์จีนและยูเครนได้พัฒนาด้วยดีและมั่นคงมาโดยตลอดนับตั้งแต่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อ 30 ปีที่แล้วเป็นต้นมา

วิกฤตยูเครนได้ปะทุขึ้นในยุโรป แต่ได้ส่งผลกระทบต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก  หากมองในระยะยาว ทุกฝ่ายต้องรับบทเรียนจากวิกฤตดังกล่าว โดยต้องให้ความสำคัญกับความกังวลด้านความมั่นคงที่สมเหตุสมผลของทุกประเทศอย่างจริงจัง ยึดหลักการเรื่องการรักษาความมั่นคงแบ่งแยกไม่ได้  และสร้างกรอบความมั่นคงที่สมดุล มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนผ่านการพูดคุยเจรจา

จีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัสเซียและยูเครนจะยุติความเป็นปรปักษ์ทันทีและดำเนินการเจรจาสันติภาพโดยเร็ว  จีนสนับสนุนการเจรจาสันติภาพ  การใช้ความพยายามให้สถานการณ์อันตึงเครียดผ่อนคลายลง ไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรการคว่ำบาตรโดยลำพังฝ่ายเดียว และทวีความตึงเครียดของสถานการณ์  จีนยังคงจะใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละในการส่งเสริมการเจรจาสันติภาพต่อไป

ในขณะเดียวกัน จีนพร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศและประชาชนประเทศต่างๆทั่วโลกที่รักสันติภาพและการพัฒนา  ปฏิบัติตามแผนข้อริเริ่มความมั่นคงทั่วโลก (Global Security Initiative) เพื่อเดินไปสู่หนทางที่มีสันติภาพที่ยั่งยืนและความมั่นคงที่ครอบคลุมของโลก และสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งเพื่อพัฒนาประชาคมมนุษย์ที่มีอนาคตร่วมกัน

เขียนโดย ไช่ เจี้ยนซิน ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)