โอกาสของผู้ประกอบการ SME ไทยในการเจาะตลาดจีนหลังยุคโควิด-19

0
11

โอกาสของผู้ประกอบการ SME ไทยในการเจาะตลาดจีนหลังยุคโควิด-19

สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยประเทศจีน  จัดการบรรยายออนไลน์ เรื่อง “โอกาสทองของ SME ไทยไปตลาดจีนหลังโควิด” โดยดร.มรกต กำแพงเพชร อาจารย์คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผู้ประกอบการยุคใหม่  กล่าวถึงโอกาสที่สินค้าไทยจะไปเจาะตลาดจีนว่า มีสินค้าหลายรายการที่สามารถส่งไปขายยังประเทศจีน โดยผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME)  สามารถใช้แพลทฟอร์มดิจิทัลในการเจาะตลาด

เมื่อวิเคราะห์โอกาสทางธุรกิจในตลาดจีน หลังยุคโควิด-19 มีปัจจัยต่างๆ ที่ผู้ประกอบการ SME ควรพิจารณา ได้แก่  การเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลกที่มีผลต่อการค้าการลงทุน  การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางประชากรของจีน และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

โดยการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างทางประชากรของจีนในปัจจุบัน มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมหัวคว่ำ มีประชากรผู้สูงวัยจำนวนมาก เด็กเกิดใหม่มีจำนวนน้อย  เว็บไซต์ PopulationPyramid.net คาดการณ์ว่า ภายใน ปีค.ศ. 2050 (พ.ศ.2593) ประชากรจีนเกือบ 4 ใน 10 จะมีอายุมากกว่า 60 ปี ข้อมูลจากเว็บไซต์ Thaibizchina.com ระบุว่า ครอบครัวจีนมีขนาดครอบครัวเล็กลง  มีสัดส่วนชายมากกว่าหญิง  สังคมเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว  ประชากรมากกว่า 1 ใน 3 ของประเทศจีนอยู่ทางภาคตะวันออก  โครงสร้างของประชากรจีนที่เปลี่ยนแปลงไปมีผลต่อความต้องการสินค้าของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย  โดยสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการ เช่น สินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการแพทย์  อาหารและยา สินค้าสุขภาพต่างๆ   ผู้ประกอบการไทยสามารถผลิตอาหาร  ขนมขบเคี้ยว ผลไม้ ผลไม้อบแห้ง สมุนไพรไทย ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มผู้สูงอายุและผู้รักสุขภาพ

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป  โดยขณะนี้  จีนมีการพัฒนาเทคโนโลยีในยุค 5.0 ไปสู่สังคม “Super Smart” โดยให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนางานวิจัย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่นอุตสาหกรรมการผลิตชิป การพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ เทคโนโลยีดิจิทัล  เทคโนโลยี AI  มีการใช้ Big data ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของคนสูงวัย และทำงานแทนคน ทำให้ธุรกิจด้านนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น นวัตกรรมเครื่องมือแพทย์  การผลิตโดรนเพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ การผลิตรถอัจฉริยะ เป็นต้น

นอกจากนี้  ประเทศจีนยังมีแผนขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล  โดยตั้งเป้าว่า ในปีพ.ศ. 2568 เศรษฐกิจดิจิทัลจะเติบโตคิดเป็นร้อยละ 10 ของจีดีพีจีน  จากธุรกิจด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ได้แก่  Cloud Computing  Big data  Internet of Thing (IoT) อินเทอร์เน็ตเพื่ออุตสาหกรรม  Blockchain ควอนตัมเทคโนโลยี  ปัญญาประดิษฐ์  Virtual Reality  (VR) และ Augmented Reality (AR)

การเดินหน้ายุทธศาสตร์ Digital China ขานรับเศรษฐกิจดิจิทัล  ทำให้หลายธุรกิจเติบโตสวนกระแสโควิด  เช่น การคมนาคมอัจฉริยะ พลังงานอัจฉริยะ ระบบการผลิตอัจฉริยะ  การเกษตรและการจัดการน้ำอัจฉริยะ  การศึกษาอัจฉริยะ  การแพทย์อัจฉริยะ  วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอัจฉริยะ  ชุมชนอัจฉริยะ  บ้านอัจฉริยะ

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ SME ไทย ที่จะผลิตสินค้าในธุรกิจที่กำลังเติบโต  โดยสามารถใช้ช่องทางออนไลน์นำเสนอสินค้าไปสู่ผู้บริโภค  โดยแพลทฟอร์มที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Tmall Pinduoduo JD.com  Kaola  Little Red book (xiaohongshu) VIP.com Taobao Suning

ดร.มรกต  กำแพงเพชร ย้ำด้วยว่า ตลาดจีนยังมีโอกาสอีกมากสำหรับผู้ประกอบการ SME ไทย สิ่งสำคัญเมื่อจะส่งสินค้าไปตลาดต่างประเทศ  ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงเรื่อง  อัตราแลกเปลี่ยนที่อาจผันผวน  ภาษาและวัฒนธรรม  กฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ  โซนเวลาที่แตกต่าง  และการทำสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค

เรียบเรียงโดย : ประวีณมัย  บ่ายคล้อย