เจาะตลาดยูนนาน ในยุค Never Normal

0
3

หลังเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 โลกเปลี่ยนไปเป็น ยุค Never Normal ที่ต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สำหรับคนทำธุรกิจ นี่เป็นทั้งความท้าทายและโอกาส

ในช่วงที่ประเทศจีนมีการปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 และหลายคนคาดการณ์ว่า นี่เป็นสัญญาณที่จีนจะค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการและอาจจะมีการเปิดประเทศในปีหน้า จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการหรือผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจในจีน จะได้เตรียมความพร้อมสู่การเจาะตลาดจีน

คุณณัฐ วิมลจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครคุนหมิง ได้เล่าถึงตลาดมณฑลยูนนาน ที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพของตลาดจีน และพฤติกรรมของผู้บริโภคจีนในยุค Never Normal ในงาน “ยูนนาน : เพื่อนบ้านด่านแดนมังกร เปิดประตูมังกรในยุค Never Normal” ว่า

มณฑลยูนนาน มีทำเลที่ตั้ง วัฒนธรรม และพฤติกรรมของผู้บริโภคใกล้เคียงกับไทย มีเส้นทางเชื่อมโยงกับไทยผ่านทางถนน R3A และเส้นทางรถไฟจีน-ลาว

การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนทำให้ชาวยูนนานมีกำลังซื้อสูงขึ้น เป็นโอกาสของสินค้าไทยในการขยายสู่ตลาดจีนผ่านทางมณฑลยูนนาน

สินค้าและบริการของไทยเป็นที่ชื่นชอบของชาวยูนนาน เนื่องจากชาวยูนนานนิยมชอบมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย มีโอกาสซื้อและทดลองใช้สินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าที่จำหน่ายในซูปเปอร์มารเก็ต

ทั้งการค้าชายแดนและการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (CBEC) ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคยูนนานได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว

โดยจีนเป็นตลาดออนไลน์อันดับ 1 ของโลก การค้าอีคอมเมิร์ซของจีนมีมูลค่า 42,300,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.6  มูลค่าการค้าอีคอมเมิร์ซของมณฑลยูนนานอยู่ที่ 349,581 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.79

สินค้าที่ได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์ม E- Commerce ได้แก่ สินค้าแม่และเด็ก สินค้าเพื่อสุขภาพ ของตกแต่งบ้าน อาหาร สินค้าทำความสะอาดร่างกาย สินค้าแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าสัตว์เลี้ยง เครื่องสำอาง

แนวโน้มการบริโภคของชาวจีน ยังคงนิยม อาหารและเครื่องดื่ม อาทิ ขนมขบเคี้ยว เครื่องปรุงรส อาหารทะเล เนื้อไก่ เนื้อไก่แช่แข็ง ผลไม้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสินค้าที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคชาวจีน เช่น

สถานการณ์ Covid-19  ทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมออนไลน์มากขึ้น เช่น ออกกำลังกายออนไลน์ ชอปปิ้งออนไลน์  ท่องเที่ยวออนไลน์ สินค้าที่เป็นที่ต้องการ เช่น สินค้าสุขภาพและความสวยงาม อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง เฟอร์นิเจอร์ไม้ ของตกแต่งบ้าน หมอนยางพารา ของแต่งบ้านต่างๆ เป็นต้น

สินค้าผู้สูงอายุ ปัจจุบันมีผู้สูงอายุ 267 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18.9 ของประชากรทั้งหมด ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุที่เป็นที่ต้องการ เช่น อุปกรณ์ออกกำลังกาย อุปกรณ์เพื่อสุขภาพอาหารเพื่อสุขภาพ เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย

สินค้าสัตว์เลี้ยง ประชากรที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีประมาณ 63 ล้านคน สัตว์เลี้ยงเกินกว่าร้อยละ 50 คือ สุนัขและแมว จึงมีความต้องการ อาหารสัตว์ ของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง เครื่องประดับสัตว์เลี้ยง

สินค้าแม่และเด็ก ปีพ.ศ. 2559 จีนยกเลิกนโยบายมีลูกคนเดียว ปีพ.ศ. 2564 การบริโภคสินค้าแม่และเด็กของจีนมีมูลค่าสูงถึง 3,459,100 ล้านหยวน สินค้าในกลุ่มนี้ เช่น เสื้อผ้าเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว

สินค้าอื่นๆ จากเทรนด์การทานข้าวนอกบ้าน สุขนิยม เข้าสังคม ต้องการผ่อนคลาย ธุรกิจร้านอาหาร ร้านนวดสปา  ธุรกิจแคมป์ปิ้ง สินค้าแฟชั่น จึงเป็นธุรกิจที่ยังเติบโตได้

เศรษฐกิจเกี่ยวกับการนอน (Sleep Economy) จากจังหวะการใช้ชีวิตที่เคร่งเครียดและกดดันในสังคมจีนยุคใหม่ ทำให้เกิดปัญหาการนอนไม่หลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปีพ.ศ. 2564 ขนาดของตลาด Sleep Economy คิดเป็นมูลค่า 417,320 ล้านหยวน สินค้าในกลุ่มนี้ เช่น หมอนยางพารา ผ้าปิดตา เจลลี่ช่วยนอนหลับ เป็นต้น

เศรษฐกิจเกี่ยวกับคนอ้วน (Fat Economy) ในปีพ.ศ.ศ 2564 ขนาดของอุตสาหกรรมลดน้ำหนักในจีนมีมูลค่า 443,470 ล้านหยวน และคาดว่าในปี 2565 จะมีมูลค่าสูงถึง 498,640 ล้านหยวน นอกจากนี้ ยังคาดว่าในปีพ.ศ. 2565 จำนวนคนอ้วนและผู้ที่มีน้ำหนักเกิน มีจำนวน 226 ล้านคน สินค้าและบริการในกลุ่มนี้ เช่น ยาลดน้ำหนัก ชาลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก การผ่าตัดลดน้ำหนัก จีงยังเป็นที่ต้องการของตลาดจีน

จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้เห็นถึงพฤติกรรมการบริโภคและความต้องการสินค้าของชาวจีนในยุค Never Normal ที่ยังมีโอกาสอีกมากสำหรับผู้ประกอบการไทยในการวางแผนเจาะตลาดจีนในหลายช่องทาง โดยเฉพาะตลาดยูนนาน ซึ่งเป็นประตูด่านหน้าที่จะเชื่อมไปถึงภูมิภาคอื่นๆ ของจีน

บทความ : ประวีณมัย  บ่ายคล้อย

ภาพ : CGTN