ในทศวรรษที่ 1980 มณฑลฝูเจี้ยนซึ่งตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจีน กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งการพัฒนาท่ามกลางการเปิดของเศรษฐกิจไร้พรมแดน กระแสแห่งการปฏิรูปและการเปิดประเทศในจีนทวีความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความพร้อมภายในยังไม่แข็งแกร่ง ประชาชนรอคอยการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ ฝูเจี้ยนจึงกลายเป็นพื้นที่ที่มีทั้งศักยภาพและอุปสรรคในที่เดียวกัน
สี จิ้นผิง ทำงานที่มณฑลฝูเจี้ยนเป็นเวลา 17 ปีครึ่ง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 1985 ถึงเดือนตุลาคม ปี 2002 เขาดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในเมืองเซี่ยเหมิน เขตหนิงเต๋อ เมืองฝูโจว คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลฝูเจี้ยนและรัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยน เขาเป็นผู้นำและผู้ผลักดันภารกิจการปฏิรูปและการเปิดสู่ภายนอก ตลอดจนภารกิจการสร้างสรรค์ความทันสมัยของฝูเจี้ยน การทำงานแบบติดดิน รัดกุมและเป็นรูปธรรม ตลอดจนความจริงใจและความเอาใจใส่ที่มีต่อประชาชนเป็นแนวทางที่สี จิ้นผิงยึดถือมาตลอดการทำงานที่ฝูเจี้ยน
ภาพของชายรูปร่างสูงใหญ่ พูดคุยเป็นกันเอง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สะพายกระเป๋าใบเล็ก แลดูเหมือนนักวิชาการคือความประทับใจแรกที่เจ้าหน้าที่ของฝ่ายการจัดองค์การของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลฝูเจี้ยนมีต่อสี จิ้นผิง เมื่อไปรับเขาที่สนามบิน
เซี่ยง หนาน อดีตเลขาธิการอันดับ 1 ของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลฝูเจี้ยนพูดถึงความประทับใจที่มีต่อนายสี จิ้นผิง ว่าแม้จะอายุยังน้อยแต่ผ่านงานมาเยอะ มีประสบการณ์การทำงานมาก สร้างผลงานที่โดดเด่นเป็นพิเศษในเจิ้งติ้ง จึงได้รับการยอมรับอย่างสูงจากฝ่ายจัดการองค์การของพรรคฯ สี จิ้นผิงปฏิบัติตัวเหมือนสี จ้งซวิน ผู้เป็นบิดาของเขา ซื่อตรง ใจดี และเปี่ยมด้วยอุดมการณ์ มีความมุ่งมั่นตั้งใจอันแน่วแน่ ต้องมีอนาคตที่ยาวไกลแน่นอน
เมื่อครั้งที่สี จิ้นผิง เข้ารับตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเมืองเซี่ยเหมิน เขาขอติดรถคันหนึ่งที่วิ่งจากเมืองโฝโจวไปยังเมืองเซี่ยเหมินโดยไม่ได้ใช้รถราชการที่จัดไว้ให้ เดินทางตามถนนลูกรังระหว่างฝูโจวกับเซี่ยเหมินนานกว่า 8 ชั่วโมงเพื่อไปรายงานตัวตามลำพัง
สี จิ้นผิงกล่าวเมื่อตอนเข้ารับตำแหน่งว่า วันนี้มีความหมายสองประการสำหรับเขา หนึ่งคือเป็นวันเกิดครบรอบ 32 ปีของเขา สองคือเป็นครั้งแรกที่เขาทำงานในเมืองชายฝั่งทะเลและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เขตเศรษฐกิจพิเศษ
ในการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองเซี่ยเหมินซึ่งจัดขึ้นไม่นานหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่ง สี จิ้นผิง พูดว่า ผมมาทำงานที่นี่ ขอให้กำลังใจตัวเองด้วยคำพูดของดร.ซุนยัดเซ็นที่ว่า “ต้องตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำเรื่องใหญ่ แต่อย่าตั้งใจมาเป็นเจ้านายตำแหน่งใหญ่” แม้สถานะเปลี่ยนแต่สไตล์การทำงานไม่เปลี่ยน
สี จิ้นผิง ถูกหล่อหลอมมาจากครอบครัวนักปฏิวัติ สี จ้งซวิน บิดาและ ฉี ซิน มารดาของสี จิ้นผิงเข้าร่วมการปฏิวัติตั้งแต่อายุยังน้อย และเป็นนักปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เมื่อเติบโตในครอบครัวสีแดงตั้งแต่เด็ก มีพ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดี เข้มงวดกวดขัน จึงทำให้สี จิ้นผิงมีความผูกพันกับการทำงานการเมืองในสายเลือดและจริงใจต่อภารกิจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประชาชน
ระหว่างทำงานในฝูเจี้ยน สี จิ้นผิงเคยพูดหลายครั้งว่า ค่านิยมและมุมมองของผมมาจากครอบครัว มาจากการไปฝึกงานในชนบทที่ยากลำบากทางตอนเหนือของมณฑลส่านซี มาจากประชาชนจำนวนมากที่ยากจนข้นแค้น ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะทำงานการเมืองเพื่อรับใช้ประชาชน จะไม่เปลี่ยนไปเดินหนทางอื่น
เมื่อยึดมั่นในแนวคิดนี้ สี จิ้นผิงได้หยั่งรากในดินแดนฝูเจี้ยน ทุ่มเททำงานอย่างหนัก ได้สร้างมิตรภาพอันลึกซึ้งกับเจ้าหน้าที่และประชาชน ความคิดของเขาเกิดขึ้น ก่อตัว งอกงามและพัฒนาที่นี่
แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)
ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่
