เปิดประตูดูประเทศจีนหลังโควิด

0
0

ประเทศจีนก้าวพ้นโควิดหวนคืนสู่ภาวะปกติ เตรียมจัดการประชุมสองสภา ตั้งรัฐบาลใหม่ และเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวไทยเดินทางไปรายงานข่าวการประชุมสองสภาที่ประเทศจีน คือ สภาประชาชนแห่งชาติจีน และสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน ที่จะเปิดฉากในวันที่ 4 มีนาคมนี้ โดยเป็นชาวต่างชาติกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศจีน หลังรัฐบาลจีนผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งถือเป็นการเปิดประเทศอีกครั้ง

ถึงแม้ตอนนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนมายังประเทศไทยมากมาย แต่ประเทศจีนยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศจีนได้ คนที่เดินทางไปจีนได้ในตอนนี้ คือ ผู้ที่ได้วีซ่าทำงาน นักศึกษาต่างชาติ ครอบครัวของผู้ที่พำนักในประเทศจีน รวมทั้งผู้ที่ได้รับเชิญจากรัฐบาลจีน

ขณะนี้มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพถึงปักกิ่งแล้ว หลังจากถูกระงับไปนานกว่า 3 ปีในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ว่าจำนวนเที่ยวบินยังน้อยมากอยู่ เพราะว่านักท่องเที่ยวยังเข้ามาประเทศจีนไม่ได้ แต่คาดว่าหลังช่วงเดือนมีนาคม เที่ยวบินจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ที่จะเดินทางมายังประเทศจีนสะดวกมากขึ้น เพราะบินตรงจากกรุงเทพถึงปักกิ่งใช้เวลาเพียงแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้น

สถานทูตจีนประจำประเทศไทยได้ประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ผู้ที่จะเดินทางมาประเทศจีน ไม่ต้องใช้ผลตรวจ PCR โดยสามารถตรวจ ATK ด้วยตัวเอง และสายการบินต่าง ๆ จะไม่ขอใบรับรองผลตรวจโควิดก่อนเดินทางอีก

จีนได้ยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางเกือบทั้งหมดแล้ว ไม่มีการตรวจโควิดก่อนขึ้นเครื่องบิน ไม่ต้องกักตัว ไม่ต้องยื่นขอรหัสสุขภาพก่อนเดินทาง ส่วนตรวจหาเชื้อโควิดที่สนามบินในประเทศจีนยังมีอยู่บ แต่เป็นการสุ่มตรวจเพียงไม่กี่คน ไม่ได้ตรวจทุกคน

ตลอด 3 ปีที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลจีนใช้นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” อย่างเข้มงวด มีการใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาติดตามตัวผู้ติดเชื้อและผู้ที่ใกล้ชิด, ใช้ระบบคิวอาร์โค้ดสุขภาพ ที่ต้องสแกนเวลาเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ หรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจ PCR ทุก 2-3 วัน แต่ระบบทั้งหมดนี้ถูกยกเลิกหมดแล้วครับ ไม่ต้องมีสแกนรหัสสุขภาพใด ๆ ทั้งนั้น ตู้ตรวจ PCR ที่เคยมีอยู่ทุกหัวมุมถนนถูกยกออกไปเกือบหมดแล้ว สถานการณ์ในประเทศจีนตอนนี้แทบไม่มีมาตรการจำกัดต่าง ๆ ส่วนคนที่ติดเชื้อโควิดก็ยังมีอยู่ทุกวัน แต่ทางการก็ไม่รู้แน่ชัดว่ามีผู้ติดเชื้อวันละกี่คน เพราะคนที่ติดเชื้อแต่ไม่ได้ป่วยหนัก พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ไม่ได้แจ้งให้หน่วยงานราชการรู้


ทว่า ผู้คนในเมืองจีนก็ยังตระหนักเรื่องโรคโควิดอยู่ เกือบทุกคนยังสวมหน้ากากอนามัย และเมื่อใช้บริการรถไฟใต้ดินหรือระบบขนส่งสาธารณะ ก็ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยอยู่

การควบคุมโรคโควิดในประเทศจีนตอนนี้อยู่ในลักษณะของ “โรคประจำถิ่น” ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ เมื่อเดินทางมาประเทศจีนปีที่แล้ว ผู้สื่อข่าวได้รับอุปกรณ์ป้องกันโรคชุดใหญ่ ทั้งหน้ากากอนามัย หน้ากากแบบ N-95 ถุงมือ ยาฆ่าเชื้อ ปรอทวัดไข้ แต่ในปีนี้ สิ่งที่ได้รับเป็นยารักษาอาการต่าง ๆ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ทั้งยาสมุนไพรจีนและยาแผนปัจจุบัน นอกจากนี้ก็ยังมีชุดตรวจ ATK ซึ่งแต่ก่อนนั้นการตรวจ ATK ด้วยตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับการยอมรับจากทางการจีน ทุกคนต้องตรวจ PCR จากสถานที่ที่จัดไว้เท่านั้น นี่ก็แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลจีนได้ปรับนโยบายการควบคุมโรค จากเดิมที่ต้องทำตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนด มาเป็นการให้ประชาชนดูแลตัวเอง รักษาตัวเอง

จีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายใน 3 เดือน

หลังจากรัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการ “โควิดเป็นศูนย์” ในช่วงเดือนธันวาคม ในประเทศจีนก็มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้คนจีนที่เคยติดเชื้อโควิดแล้วกลายเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม มีการประเมินกันว่าในเมืองใหญ่ ๆ อย่างเช่นกรุงปักกิ่ง ผู้คนน่าจะติดเชื้อไปแล้วร้อยละ 70-80

นี่แสดงถึงความน่ากลัวของโรคระบาดที่ทวีคูณเมื่อเทียบกับประชากร 1,400 ล้านคนของประเทศจีน ในช่วงที่เชื้อไวรัสยังรุนแรง เช่น สายพันธุ์เดลต้า หากทางการจีนไม่ใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดน่าจะต้องมีผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตจำนวนมากมาย

นักวิชาการในจีนคาดว่า ตอนนี้ประเทศจีนน่าจะมี ภูมิคุ้มกันหมู่ หรือ Herd immunity แล้ว โดยประเทศอื่น ๆ ใช้เวลาในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เกือบ 3 ปี แต่จีนใช้เวลาไม่ถึง 3 เดือน

ปักกิ่งคึกคักอีกครั้ง หวนคืนสู่ปกติ

ผู้สื่อข่าวได้ออกไปสำรวจกรุงปักกิ่ง พบว่าตามถนนหนทางช่วงเช้ากับเย็นมีรถติดขัด รถไฟใต้ดินผู้โดยสารหนาแน่น ผู้คนกลับเข้ามาทำงานและออกมานอกบ้านกันแล้ว  ร้านอาหารบางร้านต้องเข้าคิวกันนานเป็นชั่วโมง ๆ พนักงานร้านค้าในย่านท่องเที่ยวบอกว่า ช่วงสุดสัปดาห์ ผู้คนมาเดินเที่ยวแน่นจนแทบจะเบียดเสียดเข้าร้านไม่ได้ ร้านค้าหลายร้านยังติดประกาศรับสมัครพนักงานด่วนอีกด้วย เพราะมีลูกค้าจำนวนมากจนพนักงานไม่เพียงพอ

ชาวจีนหลายคนบอกว่า ตรุษจีนที่ผ่านมาได้กลับบ้านในต่างเมืองเป็นครั้งแรกในรอบ 2-3 ปี และหลายคนพาครอบครัวไปท่องเที่ยว การเดินทางในตอนนี้ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ เรียกได้ว่า ภายในประเทศจีนหวนคืนสู่สภาวะปกติ จะเหลือก็แค่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น

ชาวต่างชาติกลุ่มแรกที่เดินทางมาประเทศจีนต่างบอกว่าการเดินทางราบรื่น ชีวิตประจำกันไม่เผชิญข้อจำกัดมากมายเหมือนช่วง “ซีโร่โควิด”  และบอกว่า จีนรับมือการระบาดได้ดี รู้สึกได้ถึงความตระหนักของผู้คนตั้งแต่มาถึงสนามบินในประเทศจีน ตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังสวมหน้ากากอนามัยอยู่ จึงไม่ค่อยกังวลว่าจะติดเชื้อโควิดในประเทศจีน เพราะผู้คนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันแล้ว

ศุภชัย วุฒิชูวงศ์

ผู้สื่อข่าว mgronline.com