เซี่ยงไฮ้ปั้นเขตการค้าเสรี “หลินกั่ง” ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

0
0

รัฐบาลนครเซี่ยงไฮ้ ร่วมกับ สมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน จัดงานสัมมนาโอกาสทางการค้าและการลงทุน ณ นครเซี่ยงไฮ้ โดยนายกง เจิ้ง (Gong Zheng) นายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ กล่าวถึงยุทธศาสตร์การพัฒนานครเซี่ยงไฮ้ว่า

นครเซี่ยงไฮ้มีพื้นที่ 6,340 ตารางกิโลเมตร เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจและการเงิน ลอจิสติกส์ แฟชั่น และนวัตกรรม รวมทั้งเป็นพื้นที่ “นำร่อง” ที่ใช้ทดสอบทดลองนโยบายสำคัญของจีน เช่น เขตการค้าเสรี (Free Trade Zone) และงานแสดงสินค้านำเข้าระหว่างประเทศ (China International Import Expo)

ทางการเซี่ยงไฮ้ยังให้ความสำคัญกับการใช้นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยหนึ่งในพื้นที่รองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ได้แก่ “หลินกั่ง” ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเซี่ยงไฮ้ มีเนื้อที่ 873 ตารางกิโลเมตร ติดกับชายฝั่งทะเลตะวันออก

หลินกั่งถูกกำหนดให้เป็นเขตการค้าเสรี ด้วยการให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนในหลายอุตสาหกรรมเป้าหมาย ดึงดูดบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมผ่านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสมัยใหม่ในด้านยา ไบโอเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ การบินพลเรือน EV อุปกรณ์ที่ทันสมัย วัสดุใหม่ และเซมิคอนดักเตอร์

ปัจจุบัน มีบริษัทที่เกี่ยวข้องมากกว่า 200 แห่ง ดึงดูดการลงทุนคิดเป็นมูลค่ากว่า  220,000 ล้านหยวน มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นมูลค่า 263,400 ล้านหยวน โดยในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ TESLA ที่ผลิตและส่งมอบแล้ว 760,000 คัน นอกจากนี้ยังมีการผลิตเครื่องบินพลเรือน C919 และการบริหารจัดการเดินเรือระหว่างประเทศ บริษัทเดินเรือ 4 บริษัท บริษัทโลจิสติกส์ยักษ์ใหม่ 12 แห่ง มาตั้งบริษัทสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้และใช้ท่าเรือหยางซานพัฒนาเป็นเขตปลอดภาษีเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบริษัทต่างชาติเข้าจะเข้ามาลงทุนในการค้าออนไลน์ นอกจากนี้หลินกั่งอยู่ระหว่างการพัฒนาศูนย์ Big Data ระดับสากลเพื่ออำนวยความสะดวกในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล

ในปีค.ศ. 2022 มีมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมสมัยใหม่มากกว่า 40% และสามารถดึงดูดการลงทุนของต่างชาติในพื้นที่ได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เติบโต 9% จาก 5.5% ของปีก่อน โดยเฉพาะ TESLA ตั้งแต่เริ่มตั้งสายพานการผลิต และการผลิตในขั้นตอนต่าง ๆ เป็นข้อพิสูจน์ว่านครเซี่ยงไฮ้มีการดำเนินการจนเป็นที่น่าพึงพอใจ

ขณะที่นายธนากร เสรีบุรี นายกสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่าจีนเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปี โดยในปี 2565 ปริมาณการค้าระหว่างไทยและจีนมีมูลค่าสูงถึง 135,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ จีนยังเป็นประเทศที่มาลงทุนในไทยคิดเป็นมูลค่าสูงสุด  โดยลงทุนในอุตสาหรรมต่างๆ อาทิ ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเลคทรอนิคส์ อาหาร เวชภัณฑ์ เครื่องจักรและอุปกรณ์เกี่ยวกับการขนส่ง

สำหรับการลงทุนในประเทศจีน ประเทศจีนมีตลาดใหญ่ที่มีกำลังการซื้อสูง มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการลงทุน  และเมื่อคิดถึงการลงทุนในประเทศจีน ต้องนึกถึงนครเซี่ยงไฮ้ก่อนเป็นลำดับแรก ตอนนี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกเกือบ 900 บริษัท ตั้งสำนักงานใหญ่ในนครเซี่ยงไฮ้ และยังมีอีกกว่า 530 บริษัท ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา บริษัทของไทยที่เข้าไปลงทุนในนครเซี่ยงไฮ้และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เช่น เครือซีพี และบริษัทร่วมทุนระหว่าง เอสเอไอซี มอเตอร์ จากนครเซี่ยงไฮ้ กับ เครือ ซีพีของไทย ร่วมกันผลิตรถยนต์เอ็มจี เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย

ในปี 2565 จีดีพีของนครเซี่ยงไฮ้สูงถึงกว่า 650,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นเมืองที่มีกำลังซื้อสูงสุดในประเทศในเวลานี้นครเซี่ยงไฮ้จึงมีเมืองที่น่าลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งล่าสุดองค์กรภาคธุรกิจของไทยกับเซี่ยงไฮ้ร่วมลงนามพัฒนาความร่วมมือในธุรกิจด้านต่างๆ อาทิ ด้านรถยนต์พลังงานใหม่ การเงิน ธุรกิจอัญมณี ธุรกิจนำเข้าส่งออกผลไม้สด การแพทย์ การค้าและการลงทุน เป็นต้น

บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย