‘สี จิ้นผิง’ในสายตาของปชช.จีน – “ท่านคอยห่วงใยชาวบ้านผู้ประสบความยากลำบากเสมอ” (14)
ขณะลงพื้นที่ตรวจงานในมณฑลเหลียวหนิงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเมื่อวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2018 นั้น นายสีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีนได้เดินทางไปยังชุมชนตงหัวหยวนในเมืองฝู่ซุ่น เมื่อรับรู้เกี่ยวกับสภาพการหลบภัย การย้ายถิ่นฐานและการตั้งรกรากใหม่ของพื้นที่ทรุดตัวจากการทำเหมืองถ่านหินในท้องถิ่น และได้เดินเข้าไปในบ้านของเฉินอี้ว์ฟาง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักข่าวได้เดินทางไปขอสัมภาษณ์เฉินอี้ว์ฟางอีกครั้ง
การทบทวนเหตุการณ์เลขาธิการใหญ่สีจิ้นผิงเยี่ยมชุมชนตงหัวหยวน
ใกล้เวลาเที่ยงวันในวันนั้น เลขาธิการใหญ่สีจิ้นผิงโดยสารรถยนต์มาถึงชุมชนตงหัวหยวน ภายในบ้านของเฉินอี้ว์ฟาง สีจิ้นผิงกับบรรดาชาวบ้านนั่งล้อมวงพูดคุยแลกเปลี่ยนสารทุกข์สุกดิบกันอย่างเป็นกันเอง สี จิ้นผิงสอบถามชาวบ้านด้วยความห่วงใยในเรื่องต่างๆ เช่น สภาพการปรับปรุงบ้านอยู่อาศัยเป็นอย่างไร สามารถรับเงินบำนาญและสิทธิประกันสังคมตรงเวลาหรือไม่ มีความสะดวกหรือไม่ขณะไปพบแพทย์ ฯลฯ
ทุกคนบอกกับเลขาธิการใหญ่ว่า ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในชุมชนใหม่ สุขอนามัยสิ่งแวดล้อมได้รับการปรับปรุงดีขึ้นอย่างเด่นชัด มีหลักประกันด้านการบริการน้ำประปา ไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ การบริการสาธารณะได้เข้าสู่ชุมชน คุณภาพชีวิตดีขึ้นมาก เลขาธิการใหญ่สีจิ้นผิงมีความปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเช่นนี้
ขณะคณะสีจิ้นผิงกำลังออกไปจากชุมชน บรรดาชาวบ้านพากันรวมตัวเข้ามาทักทายสวัสดีกับเลขาธิการใหญ่ สีจิ้นผิงจับมือกับทุกคนอย่างอบอุ่นพร้อมกล่าวด้วยความรักใคร่อย่างลึกซึ้งกับชาวบ้านทั้งหลายว่า ผมคอยห่วงใยเมืองที่ขาดแคลนทรัพยากรเสมอ คอยห่วงใยว่าเมืองเหล่านี้มีสภาพเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ชีวิตประชาชนเป็นอย่างไร ครั้งนี้ก็เพื่อมาตรวจดูโดยเฉพาะ มีความจำเป็นและคุ้มค่ามากที่คณะกรรมการกลางพรรคได้จัดสรรเงินทุนจำนวนมากเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการบริหารจัดการแบบบูรณาการในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยกระท่อมและพื้นที่ทรุดตัวจากการทำเหมืองถ่านหิน ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนานั้นเมืองที่ขาดแคลนทรัพยากรต้องถือการแก้ปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชนเป็นภารกิจลำดับแรก โดยเฉพาะต้องสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตให้กับประชาชนที่ประสบความยากลำบากให้ได้
คำบอกเล่าจากใจจริงของเฉินอี้ว์ฟาง
วันนั้น ท่านเลขาธิการใหญ่ได้ทักทายฉันด้วยความอบอุ่นทันทีที่เขาเข้ามาในบ้าน จากนั้น ท่านกับพวกเราก็นั่งคุยกันอย่างเป็นกันเองในบ้านของฉัน “การย้ายถิ่นฐานมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่” “ได้รับเงินบำนาญและสิทธิประกันสังคมตรงเวลาไหม” “ไปหาหมอสะดวกไหม” “บริการชุมชนดีไหม” ท่านเลขาธิการใหญ่ถามไถ่พวกเราอย่างละเอียดถี่ยิบ สร้างความอบอุ่นใจให้กับฉันเป็นอย่างมาก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการขุดเจาะถ่านหินปริมาณมากในเมืองฝู่ซุ่น ต่อมา ได้ปรากฏพื้นที่ทรุดตัวจากการทำเหมืองถ่านหินเป็นบริเวณกว้าง พอดีบ้านเก่าของฉันก็อยู่บนพื้นที่ทรุดตัว ผนังแตกร้าว ตัวอาคารผิดรูปผิดร่าง ฉันกับสามีกังวลใจทั้งวัน ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะ “ย้ายออกไป”
ปี 2017 โชคดีที่พรรคและรัฐบาลได้ออกนโยบายที่ดี เราได้รับเงินชดเชยกว่า 40,000 หยวน ได้ย้ายจากบ้านเก่าที่ทรุดโทรมเนื้อที่กว่า 60 ตารางเมตรมาสู่บ้านหลังใหม่ในปัจจุบันนี้ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 90 ตารางเมตร
ในวันนั้นท่านเลขาธิการใหญ่ยังกำชับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเมืองที่ขาดแคลนทรัพยากรนั้น ต้องถือการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตของประชาชนเป็นภารกิจลำดับแรก โดยเฉาะอย่างยิ่งต้องดูแลประชาชนที่ประสบความยากลำบากให้ดี ต้องทำให้ชีวิตของประชาชนดีขึ้นเรื่อยๆ
ปีนี้ฉันและสามีต่างมีอายุ 70 ปีแล้ว เราสองคนแก่อาศัยอยู่ในบ้านที่ทั้งสว่างและใหญ่แห่งนี้อย่างสงบสุข
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชุมชนของเราซึ่งเกิดจากการหลบภัยย้ายถิ่นฐานได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีสายรถโดยสารประจำทางเพิ่มมากขึ้น ได้จัดตั้งศูนย์บริการดูแลผู้สูงอายุตามบ้านในชุมชน ในบริเวณรอบชุมชนมีโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนเพียบพร้อมด้วย
ฉันกับสามีต่างรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาไหลเมื่อได้ยินท่านเลขาธิการใหญ่พูดขณะกล่าวคำอวยพรปีใหม่ว่า “ผมคอยห่วงใยชาวบ้านที่ประสบความลําบากเสมอ” ท่านเลขาธิการใหญ่ไม่ได้ลืมพวกเรา ท่านเป็นคนรู้ใจเรา
คําบรรยายภาพ: สีจิ้นผิงลงพื้นที่เพื่อรับรู้สภาพการหลบภัยและการย้ายถิ่นฐานของพื้นที่ทรุดตัวจากการทำเหมืองถ่านหินในชุมชนตงหัวหยวนเมืองฝู่ซุ่น มณฑลเหลียวหนิง เมื่อวันที่ 28 กันยายน ปี 2018 (ที่มารูปภาพ: สํานักข่าวซินหัว)
แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)
ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่
‘สี จิ้นผิง’ในสายตาของปชช.จีน – “ความห่วงใยที่จริงใจของท่านเลขาธิการใหญ่อบอุ่นหัวใจชาวบ้าน” (13)
