ให้ความสนใจกับแคมเปญการออกกำลังกายของประชาชนทุกหมู่เหล่า- เส้นทางสี จิ้นผิง(78)

0
1
นายสี จิ้นผิง ส่งเสริมสมาคมปีนเขามณฑลฝูเจี้ยนจัดการแข่งขันปีนเขานับหมื่นคน

เนื่องจากจำนวนคนที่นิยมปีนเขาเพื่อออกกำลังกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ที่ประชาชนได้รับอันตรายหรือหลงทางก็เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

วันหนึ่งในปี ค.ศ. 2000 นายจู เสาหมิง นายกสมาคมปีนเขามณฑลฝูเจี้ยนได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ ซึ่งบอกว่าได้พบประชาชนกำลังตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากหลงทางระหว่างการปีนเขาที่บริเวณเขตทิวทัศน์ “สือปาฉงซี” ในอำเภอหมิ่นโหว เมืองฝูโจว ต้องการให้ส่งนักปีนเขาไปให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน

นายสี จิ้นผิง ซึ่งกำลังปีนเขาด้วยกันได้ยินเรื่องนี้ รีบสั่งการทันทีว่าความปลอดภัยของชีวิตประชาชนอยู่เหนือสิ่งอื่นใด จำเป็นต้องเร่งจัดตั้งทีมกู้ภัยภาคเอกชนที่เป็นมืออาชีพในการกู้ภัยบนภูเขาโดยด่วน

หลังเตรียมการอย่างเข้มข้นนานสองเดือน ทีมกู้ภัยบนภูเขาของสมาคมปีนเขามณฑลฝูเจี้ยนได้ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2001 ซึ่งกลายเป็นส่วนเสริมที่สำคัญของกองกำลังกู้ภัยฉุกเฉินของรัฐบาล ถึงปี 2019 ทีมนี้เติบโตขึ้นเป็น 120 คน ด้วยผลงานในการช่วยเหลือผู้ประสบอันตรายในทุกสภาพอากาศอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยและความยากลำบาก พวกเขาจึงได้รับรางวัล “บุคคลสิบอันดับแรกที่สร้างความซาบซึ้งใจแก่ชาวฝูเจี้ยน” “ใบหน้าสิบอันดับแรกที่สวยที่สุดในมณฑลฝูเจี้ยน” และได้รับรางวัล “หน่วยงานบริการอาสาสมัครดีเด่น” จากฝ่ายประชาสัมพันธ์และสำนักงานอารยธรรมแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ตลอดจนรางวัลเกียรติยศอื่นๆ

นายสี จิ้นผิง มีความเคยชินอย่างหนึ่งขณะปีนเขา คือ เมื่อเขาเห็นเปลือกผลไม้ ขวดพลาสติก หรือ กระดาษห่ออาหารบนถนนในภูเขา ก็จะเก็บไว้และมาทิ้งลงถังขยะ ไม่นานเพื่อนที่ร่วมปีนเขากับนายสี จิ้นผิงต่างก็ทำตาม

เพื่อให้สอดคล้องกับข้อแนะนำของนายสี จิ้นผิงที่ว่า “ควรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมขณะออกกำลังกาย และควรประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับผู้คนทั้งหลายด้วย” สมาคมปีนเขามณฑลฝูเจี้ยนจึงได้จัดกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์หลายครั้ง

เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2002 สมาคมได้จัดทริปแคมป์ปิ้งนับพันคนและกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เน้นการเก็บขยะในบริเวณภูเขาต้าฮว่าซานเมืองฝูชิง นายสี จิ้นผิง ได้ส่งจดหมายแสดงความยินดีโดยระบุว่า “หวังว่าพวกคุณจะรณรงค์ให้ผู้ที่ชื่นชอบการปีนเขามาร่วมกิจกรรมที่บูรณาการการปีนเขากับกิจการสาธารณประโยชน์เข้าด้วยกันบ่อยๆ สร้างคุณูปการใหม่แก่การส่งเสริมการออกกำลังกายของประชาชนทุกหมู่เหล่าและกิจกรรมที่เป็นสาธารณประโยชน์ในมณฑลของเรา”

เมื่อปี ค.ศ. 2007 นายจู เสาหมิงเดินทางไปพบนายสี จิ้นผิงที่มณฑลเจ้อเจียง นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า “น้องจู ผมคิดถึงวันที่เราปีนภูเขาด้วยกันมาก หลายปีที่ผ่านมา พวกคุณทำงานได้ดีเยี่ยมในการปีนเขาของมวลชนและการช่วยเหลือเพื่อสาธารณประโยชน์ ขอบคุณที่ทำงานหนัก!”

ปี ค.ศ. 1995 หลังจากรัฐบาลจีนประกาศใช้ “โครงร่างแผนการออกกำลังกายแห่งชาติ” การออกกำลังกายของประชาชนทุกเพศทุกวัยก็เป็นงานที่เป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2001 ปักกิ่งได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี ค.ศ. 2008 ซึ่งทำให้ประชาชนทั้งประเทศตื่นเต้น พากันให้ความสนใจและรวมแรงร่วมใจช่วยกันสนับสนุนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก กิจกรรมการออกกำลังกายของประชาชนทั่วประเทศก็คึกคักอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แนวคิดที่ว่า “การเลี้ยงอาหารคนอื่นไม่ดีเท่าการชวนออกกำลังกายให้ได้เหงื่อ” นับวันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2001 หลังเพิ่งผ่านวันชาติ นายสี จิ้นผิงได้กลับจากการเยี่ยมญาติที่กรุงปักกิ่ง ได้เรียกนายพาน ซินเฉิง รองผู้ว่าการมณฑลในขณะนั้นเข้าพบที่ห้องทำงาน เพื่อกำชับให้สนับสนุนการติดตั้งอุปกรณ์ออกกำลังกายสำหรับประชาชนทุกหมู่เหล่าในสถานที่สาธารณะ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการออกกำลังกาย

นายสี จิ้นผิง ยังได้พูดคุยแบบเปิดใจกับนายใช่ เทียนชู ซึ่งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมกีฬาประจำมณฑลฝูเจี้ยนในขณะนั้นเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาแคมเปญการออกกำลังกายของประชาชนทุกหมู่เหล่า

“กีฬาไม่เพียงแต่กีฬาที่มีการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแคมเปญการออกกำลังกายของประชาชนทุกหมู่เหล่า ตลอดจนอุตสาหกรรมกีฬาด้วย อีกทั้งยังต้องดำเนินการให้ดีในการให้ความรู้ความคิดเกี่ยวกับการเมือง และวัฒนธรรม ต้องเข้มงวดกวดขันในเนื้อหาสี่ส่วนนี้ซึ่งแต่ละส่วนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้” คำพูดของนายสี จิ้นผิง ได้ชี้นำทิศทางให้กับนายใช่ เทียนชู

ในมุมมองของนายสี จิ้นผิง ต้องดำเนินการให้ดีทั้ง “แผนโอลิมปิกสร้างชื่อเสียง” และ “แผนการออกกำลังของประชาชนทั่วประเทศ”  เขากล่าวว่า “ในด้านกีฬา เราไม่ควรให้ความสำคัญแค่เหรียญทองเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายของประชาชนทุกหมู่เหล่าด้วย การออกกำลังกายของประชาชนทุกหมู่เหล่าควรรวมอยู่ในรายชื่อโครงการรับใช้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมประจำปีของมณฑลฝูเจี้ยนด้วย ต้องจัดให้มีสถานที่ออกกำลังกายสาธารณะสำหรับมวลชน ต้องเพิ่มพื้นที่ออกกำลังเฉลี่ยต่อหัว และเพิ่มจำนวนประชากรที่เข้าร่วมกิจกรรมกีฬา”

ปี ค.ศ. 2002  โครงการ “พื้นที่ออกกำลังกายของประชาชนทุกหมู่เหล่า” ได้รวมอยู่ในรายชื่อโครงการรับใช้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมประจำปีของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและมณฑลฝูเจี้ยน

นายใช่ เทียนชู ได้รายงานสภาพที่เกี่ยวข้องของโครงการ “พื้นที่ออกกำลังกายของประชาชนทุกหมู่เหล่า” แก่นายสี จิ้นผิง และหวังว่านายสี จิ้นผิงจะเจียดเวลามาตรวจเยี่ยม

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 ในวันแรกที่เปิดทำงานหลังวันหยุดเทศกาลตรุษจีน เวลาประมาณ 06.00 น. นายสี จินผิงได้เดินทางไปยังจัตุรัสอู่อีในเขตกู่โหลวและสวนจินซานในพื้นที่อุทยานเป่ยเจียงปินเมืองฝูโจว เพื่อตรวจเยี่ยมเครื่องยืดเส้นสาย เครื่องบริหารกล้ามเนื้อขาข้อเข่า บาร์เดี่ยวและบาร์คู่ และอุปกรณ์ออกกำลังกายอื่นๆ “ถ้าอยากเห็นก็ต้องเข้ามาดูแต่เช้าเพื่อชมการออกกำลังกายยามเช้าของมวลชน” นายสี จิ้นผิงกล่าว

ณ “พื้นที่ออกกำลังกายของประชาชนทุกหมู่เหล่า”แห่งหนึ่งริมแม่น้ำหมิ่นเจียง นายสี จิ้นผิงแกว่งขาบนเเครื่องเดินแล้วเดินไปที่สนามบาสเก็ตบอลเพื่อชู๊ตลูกบาสซึ่งพุ่งเข้าไปตุงอยู่ในห่วง “เมื่อเล็งแม่นแล้วก็ต้องชู๊ตทันที” นายสี จิ้นผิงกล่าว

นายสี จิ้นผิงยังได้พูดคุยกับผู้ประกอบการที่ผลิตอุปกรณ์กีฬาและฟิตเนส โดยได้กำชับเป็นพิเศษว่า “บริษัทของพวกคุณต้องรับรองคุณภาพของอุปกรณ์กีฬาเพื่อประกันความปลอดภัยของมวลชนที่ร่วมออกกำลังกาย”

นายสี จิ้นผิง พอใจการสร้างจุดออกกำลังกายสำหรับประชาชนทุกหมู่เหล่าเป็นอย่างมาก โดยกล่าวว่าการรับใช้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมก็คือต้องตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของประชาชนทั้งด้านวัตถุและวิถีวัฒนธรรม และยกระดับคุณภาพของประชาชนทั่วประเทศ

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 เป็นต้นมา มณฑลฝูเจี้ยนถือการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานที่ออกกำลังกายสำหรับประชาชนทุกหมู่เหล่าและการจัดกิจกรรมออกกำลังกายสำหรับประชาชนทุกหมู่เหล่าเป็นหนึ่งในโครงการรับใช้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมทุกปี และได้ดำเนินโครงการต่างๆเสร็จสิ้น เช่น “พื้นที่ออกกำลังกายของประชาชนทุกหมู่เหล่า” “โครงการกีฬาและออกกำลังกายสำหรับเกษตรกร” “ศูนย์วัฒนธรรมและกีฬาประจำตำบล” “เส้นทางปีนเขา”  และ “สนามกีฬาอเนกประสงค์ตามชุมชนในเมือง” เป็นต้น ได้สร้างแพลตฟอร์มการออกกำลังกายให้กับส่วนบุคคลและให้บริการที่หลากหลาย ทำให้การออกกำลังกายของประชาชนทุกหมู่เหล่าเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง จีนกำหนดให้วันที่ 8 สิงหาคมเป็น “วันออกกำลังกายแห่งชาติ” ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2014 การออกกำลังกายของประชาชนทั่วประเทศได้ยกระดับเป็นยุทธศาสตร์ชาติ

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)

ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่

http://www.tcjapress.com/2024/03/02/xi-way-77/