“หอการค้าไทยจีน”จัดประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16 

0
2

“หอการค้าไทยจีน”จัดประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก ครั้งที่ 16   ฟื้นเศรษฐกิจโลกด้วยภูมิปัญญานักธุรกิจชาวจีน “จุรินทร์”หนุนการค้า-ลงทุน ดัน อีอีซี เชื่อม1 แถบ 1 เส้นทางของจีน ด้าน”เจ้าสัว”ธนินท์”ขึ้นเวทีโชว์วิสัยทัศน์ ดึงเทคโนโลยีพัฒนาเศรษฐกิจ ด้วยศักยภาพคนรุ่นใหม่  ไม่เพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก

 

หอการค้าไทย-จีน ได้จัดการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก (World Chinese Entrepreneurs Convention : WCEC) ครั้งที่ 16 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายน 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจทั่วโลกกว่า 4,000 คน จาก 50 ประเทศ

 

โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี และ นายเกา หยุนหลง รองประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี  และนายธนินท์ เจียรวนนท์ นายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานกิตติมศักดิ์ถาวรหอการค้าไทย-จีน,นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ,นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายหลี เสี่ยวปอ นายกสมาคมการค้าวิสาหกิจจีน-ไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ICBC นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดงานว่า นับเป็นโอกาสดีของไทยที่มีโอกาสเป็นเจ้าบ้านต้อนรับนักธุรกิจชาวจีนจากทุกมุมโลก 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้ร่วมมือสนับสนุนอย่างเต็มที่ การประชุมวันนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญประสานความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน โดยเมืองไทยมีนักธุรกิจเชื้อสายจีนจำนวนมาก และมีส่วนสำคัญพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ และสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยมายาวนาน ถือเป็นโอกาสและเวลาที่ เหมาะสม ประเทศต่างๆได้เปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักธุรกิจและ นักท่องเที่ยวจากต่างชาติ จึงมีความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง ระหว่างประเทศ และประเทศไทย มีความพร้อมทุกๆด้าน เพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือน

 

“ผมเชื่อมั่นว่า การประชุมนักธุรกิจชาวจีนครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมรับทราบพัฒนาการทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย และเห็นลู่ทางโอกาสทางธุรกิจการค้าการลงทุนกับประเทศไทย ซึ่งสะท้อนจากนโยบาย และศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบัน ทั้งจากการขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศของไทยภายใต้ความตกลง ทางการค้าที่ทันสมัย ซึ่งรวมถึง เอฟทีเอ อาเซียน-จีน และ ความตกลง หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ตลอดจนการขยาย ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าในรูปแบบที่มีความยืดหยุ่น ทั้งนี้ จากการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะการ ส่งเสริมการลงทุนในเขตพื้นที่ EEC ตลอดจนโอกาสการร่วมลงทุนกับไทย ในอุตสาหกรรมเป้าหมายในระเบียงเศรษฐกิจต่างๆ ในต่างประเทศ อัน เกิดจากการกระจายการเจริญเติบโตภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศอย่าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”

 

นายณรงค์ศักดิ์ พุทธมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน และประธานกรรมการจัดงาน WCEC ครั้งที่ 16 กล่าวสุนทรพจน์ต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมว่า ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมจัดการประชุมในครั้งนี้ รวมถึงทุกคนที่ให้เกรียติกับหอการค้าไทยจีน เวทีนี้ถือเป็นการรวมพลังนักธุรกิจชาวจีน ในขณะนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก เป็นเวทีที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ของนักธุรกิจชาวจีนและนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลจากทั่วโลก ใช้เป็นโอกาสมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลและโอกาสทางธุรกิจ การค้า การลงทุน รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ และเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

“หอการค้าไทยจีน ได้ให้ความสำคัญกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งการประชุมครั้งนี้จัดภายใต้หัวข้อร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยภูมิปัญญานักธุรกิจจีน โดยหวังให้มีโอกาสพัฒนาจาก “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ที่เป็นความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และเขตอ่าวเศรษฐกิจกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า”

 

ทั้งนี้ในการประชุมนักธุรกิจจีนที่เข้าร่วม ให้ความสนใจในการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี  และอุตสาหกรรมต่อเนื่องในไทย เพราะเชื่อว่าในอีก  5 ปีข้างหน้า จะมีรถปริมาณการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมอยู่แล้ว ส่วนการที่ไทยกำลังจะได้ รัฐบาลใหม่และเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็สามารถทำให้เกิดการพัฒนาประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ในการประชุมครั้งนี้ นักธุรกิจจีนได้ให้ความสนใจการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี  และอุตสาหกรรมต่อเนื่องในไทย เพราะเชื่อว่าในอีก  5 ปีข้างหน้า จะมีปริมาณการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมอยู่แล้ว ส่วนการที่ไทยกำลังจะได้ รัฐบาลใหม่และเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็สามารถทำให้เกิดการพัฒนาประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

 

นางเฉิน ซวี่ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการชาวจีนโพ้นทะเลแห่งคณะรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาชนจีน (เทียบเท่ารัฐมนตรี) กล่าวว่า นักธุรกิจชาวจีนทั่วโลกทุ่มเทแรงกาย แรงใจ รับการเปลี่ยนแปลงของโลก แรงขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจอ่อนแรง ดังนั้น การส่งเสริมให้มีความสัมพันธ์กับนานาประเทศถือเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาเศรษฐกิจ ตนเชื่อมั่นว่าการประชุมครั้งจะเป็นการเสริมพลังต่อความร่วมมือของนักธุรกิจชาวจีน และจะเป็นประโยชน์ต่อศักยภาพทางธุรกิจ รวมถึงเป็นการยกระดับการค้าขาย เวทีการประชุมครั้งนี้จะทำให้นักธุรกิจชาวจีนได้แสดงความรู้ ความสามารถ และนำมาซึ่งกับพัฒนาร่วมกัน

 

จากนั้น นายธนินท์ เจียรวนนท์ นายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานกิตติมศักดิ์ถาวรหอการค้าไทย-จีน กล่าวปาฐกถาพิเศษว่า ปัจจุบันโลกของเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก เราจึงจำเป็นต้องศึกษาวิทยาการด้านต่าง ๆ จากสหรัฐอเมริกา และต้องนำทรัพยากรจากทั่วโลก ทั้งด้านบุคคลากร เงินทุน เทคโนโลยี และวัตถุดิบ เข้ามาที่จีน ซึ่งในวันนี้กล่าวได้ว่าจีนมีปัจจัยพื้นฐานในด้านต่าง ๆ เหล่านี้พร้อมที่จะพลิกโฉมการพัฒนาจากเดิมที่ใช้แรงงานราคาถูก เราจึงมีความมั่นใจในนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนเป็นอย่างมาก

 

ทั้งนี้ โลกยุคใหม่ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เศรษฐกิจคือ สงครามแข่งขันในด้านการค้า จึงต้องมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ บริการ และเทคโนโลยี รวมถึงต้องพัฒนาศักยภาพคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้และความสามารถทัดเทียมระดับนานาชาติ แข่งขันได้อย่างไม่เพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก ซึ่งในโลกอนาคตจะเป็นโลกของหุ่นยนต์และไบโอเทคโนโลยี แต่ไม่ต้องกลัวคนตกงาน เพราะหุ่นยนต์จะใช้แรงงานแทนคน ส่วนคนต้องหันไปทำงานที่ใช้ทักษะสูงกว่านั้น

 

“การผลิตเทคโนโลยีเป็นเรื่องยาก แต่การนำมาใช้นั้นง่าย สมัยก่อนคนชอบมองว่า เกษตรกรจะไปใช้เทคโนโลยียากๆได้อย่างไร แต่ในความเป็นจริง ความยากมันอยู่ที่คนผลิตเทคโนโลยี แต่พอเกษตรกรนำมาใช้มันง่ายแล้ว อย่างตอนที่ตนขยายไปทำธุรกิจที่จีน ได้หาข้อมูลจนพบว่า มอเตอร์ไซค์ที่ทนที่สุด ขับขึ้นเขาได้ ซ่อมง่าย คือ Honda ซึ่งตอนไปญี่ปุ่น รุ่นนี้เค้าไม่ใช้กันแล้ว เพราะมีรุ่นที่ดีกว่า ทำให้เจรจาขอซื้อมาในราคาที่ถูกมากได้ และขายดีมากที่จีน ดังนั้น เราต้องเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเสมอไป”

 

ประธานอาวุโสเครือซีพี กล่าวต่อว่า ประเทศไทยของเรามีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 ของโลก ผ่านการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก โดยให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แก่โครงการที่ช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย เช่น สิทธิปลอดภาษีโครงการที่ส่งเสริมการสร้างสรรค์เทคโนโลยี เป็นต้น ซึ่งในยุค 4.0 ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงยังมีความสำคัญ เพราะอีคอมเมิร์ชต้องอาศัย Real Economy ในการผลิตสินค้าที่จับต้องได้ และต้องอาศัยโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการขนส่งทางบก เพื่อส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค การพัฒนาเศรษฐกิจที่แท้จริงที่ใช้นวัตกรรมในการผลิตให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสูง มูลค่าสูงขึ้น จึงจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ชและโลจิสติกส์ดำรงอยู่ต่อไป

 

“การค้าของโลกในอนาคตนั้น จะต้องให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี เพราะเมื่อมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น คุณภาพของสินค้าก็จะดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เศรษฐกิจในยุค 4.0 ไม่ได้หมายถึงให้เราละทิ้งธุรกิจเก่าที่เคยมีมาก่อน แต่ให้เราใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจที่เรามีอยู่ ทำให้ธุรกิจมีความทันสมัยมากขึ้น และสามารถขยายธุรกิจออกไปให้มากขึ้น”ประธานอาวุโสธนินท์ กล่าว

 

ทั้งนี้ ในการประชุมจะเป็นการประชุมกลุ่มย่อย 4 หัวข้อ ได้แก่ 1.ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทย 2.โอกาสพัฒนาจาก “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” “ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและเขตอ่าวเศรษฐกิจกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า” 3.แนวคิดและภูมิปัญญาการดำเนินธุรกิจของนักธุรกิจชาวจีน และ 4.การสืบสานและพันธกิจของนักธุรกิจชาวจีนรุ่นใหม่ จะมีผู้บริหารระดับสูงในไทยและนักธุรกิจจีน ขึ้นบรรยายให้ความรู้ โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจ อาทิ ภาวะเศรษฐกิจ และการลงทุนของประเทศไทย ,แนวความคิด และภูมิปัญญาการดำเนินธุรกิจของนักธุรกิจชาวจีน และการสืบสานและพันธกิจของนักธุรกิจชาวจีนรุ่นใหม่ เป็นต้น