บทวิเคราะห์ ปี 2024 ปีแห่งการเลือกตั้งระดับโลก

0
3

ปี 2024 จัดว่าเป็น “ปีแห่งการเลือกตั้งระดับโลก” อินโดนีเซีย รัสเซีย อินเดีย แอฟริกาใต้ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา บางประเทศลาตินอเมริกา ตลอดจนประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ อีกหลายสิบประเทศจะจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาหรือการเลือกผู้นํา  ประชากรของประเทศเหล่านี้รวมกันเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลกผลการเลือกตั้งดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อทั่วโลกในอีกหลายปีข้างหน้า

เมื่อวันที่ 7 มกราคม ปี 2024 การเลือกตั้งทั่วไปของบังคลาเทศถือเป็นการเริ่มต้นปีแห่งการเลือกตั้งทั่วโลก นางชีค ฮาสินา ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของบังคลาเทศซึ่งอยู่ในอํานาจมาแล้ว 15 ปีชนะการเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 5

ต่อมาคือ รัสเซียจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 17 มีนาคม และประธานาธิบดีคนใหม่จะสาบานตนในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากในช่วงต้นปี 2020 ประธานาธิบดีคนปัจจุบันนายวลาดิเมียร์ ปูติน ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตนเองเป็นผู้นํารัสเซียได้จนถึงปี 2036 หลายฝ่ายจึงคาดว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียในปี 2024 จะเป็นการเลือกตั้งที่คาดผลได้ล่วงหน้า โดยประธานาธิบดีปูติน มีแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง จะดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 5 และยังคงอยู่ในตําแหน่งประธานาธิบดีของรัสเซียอีก 6 ปี จนถึงปี 2030

การเลือกตั้งประธานาธิบดีของยูเครนจัดขึ้นทุก 5 ปี  และการเลือกตั้งทั่วไปเดิมมีกําหนดในเดือนมีนาคมปี 2024 อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญยูเครนบัญญัติไว้ว่า  ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งหรือการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้ในช่วงที่มีสงคราม สําหรับยูเครนซึ่งกำลังเผชิญเพลิงสงครามอยู่ การเลือกตั้งปี 2024 ไม่ใช่เรื่องที่จะมีผู้มาแทนที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีที่เข้ามามีอํานาจในปี2019 หากแต่จะเป็นเรื่องที่จะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ตามกําหนดได้หรือไม่

สำหรับอินเดียประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกและเศรษฐกิจมีพลวัตขึ้นนั้น ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวอินเดียเกือบ 1,000 ล้านคนจะลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งทั่วไประหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ปี 2024 นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ที่ดํารงตําแหน่งในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง  และยังคงอยู่ในอํานาจต่อไปอีก 5 ปีเป็นสมัยที่ 3

ด้านสหภาพยุโรปจะจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรปในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ถือเป็นกระบวนการเลือกตั้งข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีประชากรมากกว่า 400 ล้านคนใน 27 ประเทศของสหภาพยุโรปจะลงคะแนนเสียงให้สมาชิกรัฐสภาของตนเอง  เพื่อเป็นสมาชิกรัฐสภายุโรปชุดใหม่ สําหรับยุโรปซึ่งอยู่ท่ามกลางวิกฤตต่าง ๆ เช่น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ปัญหาผู้ลี้ภัย และการขาดแคลนพลังงาน ผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาครั้งนี้จะกําหนดลําดับความสําคัญทางการเมืองของคณะกรรมการยุโรปชุดต่อไปรวมถึงประเด็นสําคัญเช่น สหภาพยุโรปจะยังคงสนับสนุนยูเครนต่อไปหรือไม่ และจะสร้างชุมชนการป้องกันที่แข็งแกร่งหรือไม่

นอกจากนี้ หลายประเทศในยุโรป รวมถึงโปรตุเกสเบลเยียม โรมาเนีย และลิทัวเนีย เป็นต้นก็จะจัดการเลือกตั้งในปี 2024 ด้วย มีการคาดการณ์ว่า พรรคฝ่ายขวาของบรรดาประเทศยุโรปจะชนะการเลือกตั้งทั่วประเทศในปีนี้ยุโรปมีความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญความวุ่นวายครั้งใหม่

ในปี 2024 มี 7 ประเทศในทวีปลาตินอเมริกาจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี ได้แก่ เอลซัลวาดอร์ ปานามาสาธารณรัฐโดมินิกัน เม็กซิโก อุรุกวัย เวเนซุเอลา และเฮติในจำนวนนี้บางประเทศกำลังเผชิญกับการแบ่งขั้วทางสังคม ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ และวิกฤตที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กําลังทวีความรุนแรงขึ้น เป็นที่น่าสนใจคือ  ผู้นําที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่สามารถทําให้วิกฤตดังกล่าวได้ข้อยุติหรือไม่

การเลือกตั้งที่ชาวโลกให้ความสำคัญมากที่สุดคือ  การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่จะจัดในวันที่ 5 พฤศจิกายน ปี 2024 ปัจจุบัน บรรยากาศทางการเมืองภายในประเทศสหรัฐอเมริกามีความเปราะบาง การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในปีนี้คาดว่าจะรุนแรงมาก จุดเด่นคือ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์สามารถกลับไปทําเนียบขาวอีกได้หรือไม่ และประธานาธิบดีโจ ไบเดนคนปัจจุบันสามารถชนะการเลือกตั้งครั้งใหม่ได้หรือไม่

ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ผันผวนมากขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และความท้าทายที่เพิ่มขึ้นต่อการกํากับดูแลทั่วโลก ปี 2024 ปีแห่งการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ จึงสมควรติดตามอย่างใกล้ชิด

เขียนโดย โจว วี่ ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)