ช่วงไม่นานมานี้ ซูเปอร์มาร์เก็ตทุนต่างชาติหลายแห่งได้พากันขยายธุรกิจในประเทศจีน ตัวอย่างเช่น เมืองอู่ฮั่นมณฑลหูเป่ย ศูนย์การค้าอิออนมอลล์ (AEON Mall) สาขาเจียงเซี่ย เมืองอู่ฮั่น และ “แซมส์ คลับ” (Sam’s Club) สาขาฮั่นหยาง ได้เปิดบริการเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนปี 2023 ที่เขตผู่ตงนครเซี่ยงไฮ้ อัลดี้ (ALDI) ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านค้าปลีกสัญชาติเยอรมันอายุนับร้อยปีได้เปิดสาขาใหม่ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนปี 2023 ที่เมืองเซินเจิ้นมณฑลกวางตุ้ง ร้านเรือธงคอสโก้ (Costco) แห่งแรกในภาคใต้ของจีนได้เปิดบริการเมื่อวันที่ 12 มกราคมปีนี้
ธุรกิจค้าปลีกถือเป็นสะพานเชื่อมผู้ผลิตกับผู้บริโภค และเป็นหน้าต่างที่สะท้อนถึงพลังทางศรษฐกิจจีนโดยตรง การที่แบรนด์ค้าปลีกชื่อดังของต่างชาติแห่กันมาเปิดสาขาในประเทศจีนแสดงให้เห็นถึงพลังดึงดูดอันมหึมาของตลาดจีน ตลอดจนความเชื่อมั่นและความมุ่งมั่นตั้งใจของยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของต่างประเทศที่มองเศรษฐกิจจีนในแง่ดีและพร้อมที่จะหยั่งรากลึกในตลาดจีน
เมื่อนักธุรกิจต่างชาติหมายตาตลาดใดตลาดหนึ่ง พวกเขาไม่เพียงแต่จะดำเนินการทันที แต่ยังมีแผนระยะยาวด้วย ประเทศจีนเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกและเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดของแมคโดนัลด์ (McDonald’s) ปัจจุบัน แมคโดนัลด์มีสาขาในจีนเกือบ 6,000 สาขา เพิ่มขึ้นกว่าหนึ่งเท่าเมื่อเทียบกับ 6 ปีที่แล้ว เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2023 แมคโดนัลด์ได้ประกาศเพิ่มการถือหุ้นในแมคโดนัลด์สาขาประเทศจีนจาก 20% เป็น 48% ทั้งยังวางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ 10,000สาขาในช่วงสี่ปีข้างหน้า โดยมากกว่า 30% จะอยู่ในประเทศจีน วอลมาร์ต (Walmart) บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันประกาศว่ามีแผนจะเปิดสาขาใหม่ของ “แซมส์ คลับ” ทุกปีๆ ละ 6-7สาขา ลอว์สัน (Lawson) เครือข่ายร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นกล่าวว่าภายในปี 2025 จะมีสาขาในจีนทั้งหมด 10,000 สาขา อิออนซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและบริการขนาดใหญ่แบบครบวงจรในเอเชีย ปัจจุบันได้เปิดร้านค้าในรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างกันเกือบ 400 สาขาในจีน และมีแผนจะเปิดห้างสรรพสินค้าใหม่ 3 แห่ง ในเมืองฉางซาและหางโจวในอีกสองปีข้างหน้า นับตั้งแต่ปี 2003 ดีแคทลอน (Decathlon) ร้านอุปกรณ์กีฬาจากประเทศฝรั่งเศสดำเนินธุรกิจแบบห่วงโซ่อุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบในประเทศจีนทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิต โลจิสติกส์ การสร้างแบรนด์ และการค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง ทำให้จีนกลายเป็นตลาดต่างประเทศแห่งแรกที่มีการวางแผนห่วงโซ่อุตสาหกรรมแบบครบวงจร
ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่าบริษัทค้าปลีกข้ามชาติเหล่านี้ต่างได้เพิ่มการเปิดร้านค้าออฟไลน์ในจีนด้วยความเชื่อมันที่มั่นคงต่อตลาดจีน ซึ่งถือเป็นการแสดงออกที่ตรงไปตรงมาที่สุดของการมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดจีน
ข้อมูลที่เผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์จีนเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมาระบุว่า ในปี 2023 ทั่วประเทศจีนมีการก่อตั้งบริษัทใหม่ที่ลงทุนโดยต่างชาติ 53,766 บริษัท เพิ่มขึ้น 39.7% เมื่อเทียบกับปี 2022 จำนวนเงินทุนต่างประเทศที่ใช้จริงคือ 1.13391 ล้านล้านหยวน แม้จะลดลง 8% เมื่อเทียบกับปี 2022 แต่ขนาดยังอยู่ในระดับสูงในประวัติการณ์ เมื่อพิจารณาแหล่งที่มาของการลงทุนจากต่างประเทศ การลงทุนที่แท้จริงของฝรั่งเศส อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 84.1%, 81%, 31.5%, 21.4% และ 17.1% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปี 2022
ที่ประชุมเศรษฐกิจส่วนกลางของจีนซึ่งมีขึ้นก่อนหน้านี้ได้เสนอว่าจีนจะมุ่งเน้นไปที่การขยายอุปสงค์ภายในประเทศ และระบุชัดเจนว่า “จำเป็นต้องกระตุ้นการบริโภคที่มีศักยภาพ” และ “สร้างวงจรการบริโภคและการลงทุนที่หมุนเวียนด้วยดีส่งเสริมซึ่งกันและกัน”เป็นที่เชื่อว่าในขณะที่แรงขับเคลื่อนด้านการบริโภคถูกกระตุ้นมากขึ้นอีกระดับ การเปิดกว้างสู่ภายนอกในระดับสูงยังคงก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจยังคงได้รับการปรับปรุงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ย่อมจะมีซูเปอร์มาร์เก็ตทุนต่างชาติเทคะแนนความไว้วางใจให้ตลาดจีนเพิ่มมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
เขียนโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)
