กระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวเมื่อวันพุธ (4 ม.ค.) ว่าพันธมิตรที่นำโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ก่อความเสียหายอย่างร้ายแรงในประเทศซีเรีย พร้อมกล่าวปฏิเสธข้อหาของนายจอห์น เบรนนัน (John Brennan) ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ที่กล่าวว่ารัสเซียใช้นโยบาย “Scorched earth” (นโยบายทางการทหารหรือยุทธวิธีในการสงครามเพื่อทำลายทุกสิ่งที่อาจเป็นประโยชน์แก่ศัตรู) ในประเทศตะวันออกกลาง
โดย พลตรีอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจในซีเรียอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อที่จะทำให้รัฐบาลซีเรียที่มีอำนาจชอบธรรมอ่อนแอลง ซึ่งเป็นมานานก่อนที่รัสเซียจะเข้าไปมีปฏิบัติการทางอากาศในซีเรีย พร้อมกล่าวตำหนิประเทศพันธมิตรที่สร้างความยากลำบากให้กับพลเรือนซีเรียและทำให้ชาวซีเรียต้องอพยพนับล้าน
เขากล่าวอีกว่า การทิ้งระเบิดของสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตร ทำให้สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการผลิตน้ำมันที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มรัฐอิสลามสามารถผลิตน้ำมันเถื่อนและทำเงินให้กับกลุ่มหัวรุนแรงเป็นจำนวนหลายสิบล้านดอลลาร์ในทุกๆ เดือน จึงสามารถรับสมัครทหารรับจ้างจากทั่วทุกมุมโลกได้ ไม่ช้าก็เร็ว (สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตร) จะต้องตอบคำถามทั้งหมดนี้
อย่างไรก็ดี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (1 ม.ค.) คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเป็นเอกฉันท์สนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียที่ผลักดันโดยรัสเซียและตุรกี รวมไปถึงแผนการเจรจาสันติภาพครั้งใหม่ของทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในความขัดแย้งซีเรีย
