เสริมสร้างแนวคิดความร่วมมือ… เส้นทางสี จิ้นผิง(87)

0
2
เดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.1989 นายสี จิ้นผิง ร่วมการประชุมเกี่ยวกับพงศาวดารท้องถิ่นของเขตหนิงเต๋อ (ภาพจากหนังสือ “สี จิ้นผิงในหนิงเต๋อ”)

การพัฒนาโดยเชื่อมโยงพื้นที่ภูเขากับพื้นที่ชายฝั่งทะเลเข้าด้วยกันได้เริ่มขึ้นแล้ว ในหนังสือ “หลุดพ้นความยากจน” นายสี จิ้นผิง เขียนว่า “มีเพียงการแลกเปลี่ยนที่เปิดกว้างและรักษาความสัมพันธ์ในการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมกับโลกภายนอกเท่านั้น จึงจะสามารถพัฒนาได้ นี่คือกฎแห่งประวัติศาสตร์”

การเปิดสู่ภายนอกเป็นหนทางเดียวสำหรับการพัฒนาหมิ่นตง และการเปลี่ยนแปลงแนวความคิดนั้นถือเป็นเงื่อนไขสำคัญที่สุดในการขยายการเปิดกว้าง สายน้ำยังเหมือนเดิม ภูเขายังคงเป็นภูเขา หมู่บ้านก็ยังคงเป็นหมู่บ้านเดิม แต่เมื่อแนวคิดเปลี่ยนไป วิธีการและรูปแบบเปลี่ยนไป ฝีก้าวของการพัฒนาก็ย่อมจะเร่งเร็วขึ้น

นายหลี่ อี้ว์ซิง อดีตรองเลขาธิการและผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลฝูเจี้ยนเห็นว่า “หมิ่นตงมีทั้งภูเขาและทะเล ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการสัมผัสกับภูเขาและทะเลสำหรับสหายสี จิ้นผิง พื้นที่ภูเขาควรพัฒนาอย่างไร  ทะเลควรพัฒนาอย่างไร ควรขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างภูเขาและทะเลให้ดำเนินไปด้วยดีได้อย่างไร  สิ่งเหล่านี้ทำให้เขามีตัวอย่างที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงมากมาย”

ใน “ความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้วยความสมัครใจของทั้ง 5 เขตและเมือง” นั้น ฝูโจวมีบทบาทเป็น “ผู้นำ” มาโดยตลอด

วันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ.1990 การประชุมสัมมนาเกี่ยวกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้วยความสมัครใจของทั้ง 5 เขตและเมืองซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกันสิ้นสุดลงที่เขตหนิงเต๋อ นายสี จิ้นผิง ซึ่งขณะนั้นแม้ได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองฝูโจวแล้วแต่ก็ยังคงนำทีมเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้

ในช่วง 5 ปี “ความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้วยความสมัครใจของทั้ง 5 เขตและเมือง “ทำให้เกิดโครงการร่วมมือต่างๆ ถึง 2,990 โครงการ สร้างรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศจากการส่งออกมูลค่า 3.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แลกเปลี่ยนวัสดุคิดเป็นมูลค่า 790 ล้านหยวน และกระตุ้นการไหวเวียนของเงินทุน 41,600 ล้านหยวน ทั้งนี้ได้ช่วยยกระดับความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของเขตและเมืองต่าง ๆ ในระดับที่แตกต่างกัน

ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการจัดตั้ง “เขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจของ 5 เขตและเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือฝูเจี้ยน” กลไกการทำงานทางเศรษฐกิจร่วมกันของทั้ง 5 เขตและเมืองได้รับการสร้างเสริมให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น “บริษัทเพื่อการลงทุนและพัฒนาหมิ่นตงเป่ย”และสำนักงานประสานงานการลงทุนจากนักธุรกิจต่างประเทศของทั้ง 5 เขตและเมืองได้จัดตั้งขึ้นตามลำดับ

ที่ประชุมยังเสนอให้ขยายบทบาทของฝูโจวในฐานะเป็นเมืองศูนย์กลางในการแผ่ขยายอิทธิพลและให้การสนับสนุนแก่พื้นที่อื่นอีกระดับ กระตุ้นความร่วมมือภายในด้วยการดึงทุนภายนอกและส่งเสริมการเปิดกว้างผ่านการกระชับความร่วมมือภายใน และค่อยๆสร้างยุทธศาสตร์ในรูปแบบ “ดำเนินความร่วมมือระหว่างภูเขาและทะเล ครอบคลุมซึ่งกันและกัน พึ่งพาซึ่งกันและกัน พัฒนาร่วมกัน” นำมาซึ่งการบุกเบิกพัฒนาทรัพยากรภูเขาและทะเลอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ในปีนั้น งานส่งเสริมความร่วมมือภายในได้กลายเป็นหนึ่งในสิบเหตุการณ์สำคัญในการปฏิรูปและเปิดสู่ภายนอกของเมืองฝูโจว

เกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือระหว่างภูเขาและทะเลนั้น นายสี จิ้นผิง เคยกล่าวเมื่อครั้งไปตรวจเยี่ยมเขตหนิงเต๋อในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1994 ว่า “การพัฒนาของเมืองหรือภูมิภาคใดๆ ต่างก็ไม่ได้ตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอก หากอยู่อย่างโดดเดี่ยวมันก็เท่ากับการมัดมือเท้าตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย การพัฒนาของฝูโจวไม่สามารถแยกออกจากการสนับสนุนของพื้นที่โดยรอบได้ ซึ่งรวมถึงหมิ่นตงด้วย ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องเสริมสร้างแนวคิดความร่วมมือและเน้นการเปิดพื้นที่ภูเขาและทะเล”

วันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1991 การประชุมร่วม”เขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจของ 5 เขตและเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือฝูเจี้ยน” จัดขึ้นที่เมืองฝูโจว ในที่ประชุมครั้งนี้ นายสี จิ้นผิงได้เสนอแนวคิดการพัฒนา “นำภูเขาด้วยทะเล นำความยากจนด้วยความร่ำรวย ความร่วมมือระหว่างภูเขาและทะเล พัฒนาร่วมกัน”

การประชุมร่วมครั้งแรกหลังจากการยกระดับ “ความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้วยความสมัครใจของทั้ง 5 เขตและเมือง” นำมาซึ่งผลสำเร็จที่น่ายินดีของความร่วมมือระหว่างภูเขาและทะเล อันได้แก่ โรงงานเคมีร่วมหรงผิง

ระหว่างการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการเศรษฐกิจเมืองฝูโจวและทางการอำเภอผิงหนานเขตหนิงเต๋อได้ลงนามข้อตกลงเพื่อร่วมกันจัดตั้งโรงงานเคมีคลอเรต

ผ่านไปเพียงหนึ่งปีหลังโรงงานเคมีร่วมหรงผิงในอำเภอผิงหนานเปิดดำเนินการเมื่อปี 1994 ก็สามารถบรรลุมูลค่าผลผลิต 30 ล้านหยวน กำไรและภาษี 12 ล้านหยวน เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1998 เฟสสองของโรงงานเคมีร่วมหรงผิงประสบความสำเร็จในการขยายโรงงานโดยออกแบบให้เป็นฐานการผลิตคลอเรตที่มีกำลังการผลิต 20,000 ตันต่อปี

เงินทุน เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และตลาดของโรงงานเคมีหมายเลขหนึ่งฝูโจวได้หลอมรวมเข้ากับที่ดิน แรงงาน และพลังงานไฟฟ้าของอำเภอผิงหนานอย่างลงตัวจนเกิด “ประกายไฟอันงดงาม” ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ 1+1>2

ช่วงเที่ยงของวันที่ 21 กันยายนปี 1995 การประชุมร่วม “เขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจของ 5 เขตและเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือฝูเจี้ยน”เพิ่งเสร็จสิ้นลงที่เขตหนิงเต๋อ นายสี จิ้นผิงซึ่งเป็นกรรมการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลฝูเจี้ยนและเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองฝูโจวในขณะนั้นก็ได้ขึ้นรถอย่างไม่รีรอเพื่อเดินทางไปยังอำเภอโซ่วหนิงซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาที่ยากจนในเขตหนิงเต๋อ

ในอำเภอโซ่วหนิง เมื่อเขาได้ยินผู้คนยกย่องโรงงานเคมีร่วมหรงผิงว่าเป็นต้นแบบของความร่วมมือ นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า “สำหรับการผสมผสานและความร่วมมือระหว่างวิสาหกิจนั้น เราคัดค้าน’การบังคับให้จับคู่’ มาโดยตลอด แต่ ‘รัฐบาลชี้แนะ หน่วยงานสร้างเวที วิสาหกิจแสดงบนเวที ‘ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นอยู่ ภาคปฏิบัติได้พิสูจน์แล้วว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว”

ในระหว่างการตรวจเยี่ยมหนิงเต๋อ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตามนายสี จิ้นผิงมักจะกล่าวกับผู้ปฏิบัติงานและมวลชนในท้องถิ่นว่า “ผมเสนอช่องทางติดต่อและสร้างสะพานสานสัมพันธ์ให้กับพวกคุณแล้ว…….. จากนี้ไปทุกคนควรไปมาหาสู่กันบ่อยๆเสมือนเยี่ยมญาติ เยี่ยมชมซึ่งกันและกัน พยายามเจรจาโครงการความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของเศรษฐกิจภูมิภาค”

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)

ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่

http://www.tcjapress.com/2024/04/16/xi-way-86/