สี จิ้นผิง เน้นพัฒนากำลังการผลิตที่มีคุณภาพใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพท้องถิ่น

0
1

พิธีเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 14 ครั้งที่ 2 มีขึ้นในเช้าวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ มหาศาลาประชาชนกรุงปักกิ่ง โดยมีผู้แทนฯเกือบ 3,000 คนร่วมการประชุม และหนึ่งในวาระหลักของการประชุมในวันนั้นคือ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนในนามคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลต่อที่ประชุม

ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ผู้นำคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน คณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีจีน เป็นต้น ซึ่งรวมถึงนายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ ประธานาธิบดีและประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางจีนด้วย ได้แยกกันอภิปรายรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลร่วมกับคณะผู้แทนที่เกี่ยวข้องในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 14 ครั้งที่ 2 โดยนายสี จิ้นผิงได้ร่วมอภิปรายกับคณะผู้แทนมณฑลเจียงซู

ผู้แทน 6 คนจากมณฑลเจียงซูได้แบ่งกันอภิปรายในประเด็นต่างๆ เช่น การบรรลุการพึ่งพาตนเองและการสร้างความแข็งแกร่งทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับสูง การส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงของอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ของจีน การส่งเสริมการคุ้มครองและสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม การสร้างหมู่บ้านแห่งความสุขที่มีความมั่งคั่งร่วมกัน การสนองตอบการใช้ประโยชน์จากการพัฒนาแบบบูรณาการของพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี และการส่งเสริมช่างฝีมือ โดยนายสี จิ้นผิงได้พูดแทรกเป็นครั้งคราวเพื่อแลกเปลี่ยนกับผู้ร่วมอภิปรายทั้งหลาย

หลังตั้งใจฟังความคิดเห็นของทุกคน นายสี จิ้นผิงก็ได้กล่าวต่อที่ประชุมกลุ่มย่อยโดยประการแรกได้เห็นชอบรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล และได้ชื่นชมความคืบหน้าและความสำเร็จใหม่ๆของมณฑลเจียงซูในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และหวังว่ามณฑลเจียงซูจะสร้างคุณูปการมากยิ่งขึ้น

ขณะกล่าวถึงการพัฒนากำลังการผลิตที่มีคุณภาพใหม่(new quality productive forces)นั้น นายสี จิ้นผิงได้เน้นย้ำสี่อักษรอันได้แก่ “อินตี้จื้ออี๋” ซึ่งหมายถึงการใช้มาตรการที่เหมาะสมตามสภาพท้องถิ่น กล่าวคือ ต้องเริ่มจากความเป็นจริงของแต่ละท้องถิ่น ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ โมเดลใหม่ และพลังขับเคลื่อนใหม่โดยมีการคัดกรองก่อน เขายังเน้นย้ำด้วยว่าการพัฒนากำลังการผลิตที่มีคุณภาพใหม่ไม่ได้หมายถึงการละเลยหรือละทิ้งอุตสาหกรรมดั้งเดิม แต่จำเป็นต้องป้องกันการแย่งกันเดินหน้าอย่างเร่งรีบและการเกิดฟองสบู่ และไม่ควรดำเนินการโดยมีเพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น

วันที่ 5 มีนาคมปีที่แล้ว นายสี จิ้นผิง ก็ได้ร่วมการอภิปรายกับคณะผู้แทนมณฑลเจียงซูเช่นกัน ซึ่งขณะพูดถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมในชนบทนั้น เขาเน้นย้ำว่าแต่ละพื้นที่ต้อง “แม่กุญแจหนึ่งตัวไขด้วยลูกกุญแจดอกเดียว” ซึ่งหมายถึงต้องตัดสินใจตามสภาพความเป็นจริงนั่นเอง

หนึ่งปีผ่านไป นายสี จิ้นผิงได้เน้นย้ำถึงการใช้มาตรการที่เหมาะสมตามสภาพของพื้นที่อีกครั้ง แน่นอนว่าวิธีการนี้มีความสำคัญมาก ไม่ว่าจะพัฒนาอุตสาหกรรมใดๆก็ตามล้วนต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของตัวเองและหลีกเลี่ยงการเลียนแบบที่ไร้ความคิดสร้างสรรค์

นายสี จิ้นผิง กล่าวว่ามณฑลเจียงซูมีเงื่อนไขและขีดความสามารถที่ดีในการพัฒนากำลังการผลิตที่มีคุณภาพใหม่ ต้องมุ่งเน้นประเด็นสำคัญอันได้แก่การสร้างระบบอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่ถืออุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูงเป็นหลัก ชี้นำด้วยการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บูรณาการส่งเสริมการยกระดับอุตสาหกรรมดั้งเดิม การเติบโตของอุตสาหกรรมเกิดใหม่ และการบ่มเพาะอุตสาหกรรมในอนาคต สร้างเสริมการหลอมรวมเชิงลึกระหว่างการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับการสร้างนวัตกรรมอุตสาหกรรม ส่งเสริมสถานะผู้นำของอุตสาหกรรมดั้งเดิม ตลอดจนเร่งสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมเกิดใหม่ทีมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่เปี่ยมด้วยขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล เพื่อทำให้มณฑลเจียงซูกลายเป็นฐานที่มั่นสำคัญสำหรับการพัฒนากำลังการผลิตที่มีคุณภาพใหม่

นายสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นว่า มีความจำเป็นต้องวางแผนมาตรการสำคัญเพื่อปฏิรูปอย่างลึกและครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่ออัดฉีดแรงผลักดันอันแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องให้กับการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงและการส่งเสริมความทันสมัยแบบจีน โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบเศรษฐกิจตลาดสังคมนิยมระดับสูง เร่งปรับปรุงระบบเศรษฐกิจการตลาดขั้นพื้นฐาน เช่น การคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สิน การเข้าถึงตลาด การแข่งขันที่ยุติธรรม และระบบเครดิตทางสังคม เป็นต้น สนับสนุนการพัฒนาและการเติบโตของเศรษฐกิจภาคเอกชนและวิสาหกิจเอกชน และกระตุ้นพลังขับเคลื่อนภายในและส่งเสริมผู้ประกอบการประเภทต่างๆสร้างนวัตกรรม ดำเนินการปฏิรูประบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบบการศึกษา ระบบทรัพยากรมนุษย์ ฯลฯ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และขจัดปัญหาคอขวดและอุปสรรคต่างๆที่จำกัดการพัฒนากำลังการผลิตที่มีคุณภาพใหม่ ตลอดจนดำเนินการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจชั้นหนึ่งที่เป็นแบบตลาด ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นสากล เพื่อสร้างข้อได้เปรียบใหม่ในการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจที่มีระดับที่สูงยิ่งขึ้น

นายสี จิ้นผิงเน้นย้ำว่านับตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนแห่งชาติครั้งที่ 18 เป็นต้นมา เราได้ดำเนินชุดยุทธศาสตร์การพัฒนาที่สอดประสานกันระดับภูมิภาค ยุทธศาสตร์สำคัญระดับภูมิภาค ยุทธศาสตร์การสร้างเขตระบบนิเวศที่สำคัญ ฯลฯ ซึ่งได้ขยายบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการสร้างโครงสร้างการพัฒนาใหม่และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูง มณฑลเจียงซูต้องหลอมรวมเข้าไปในทุกด้านและสนับสนุนการพัฒนาแถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซีและยุทธศาสตร์การพัฒนาแบบบูรณาการของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี เสริมสร้างการเชื่อมต่อกับยุทธศาสตร์การพัฒนาระดับภูมิภาคอื่น ๆ และยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาคที่สำคัญ และร่วมกันสร้างห่วงโซ่นวัตกรรม ห่วงโซ่อุตสาหกรรม และห่วงโซ่อุปทานในขอบเขตที่กว้างใหญ่ยิ่งขึ้น เพื่อแผ่ขยายอิทธิพลในฐาะมณฑลที่เข้มแข็งทางเศรษฐกิจในการกระตุ้นการการพัฒนาระดับภูมิภาคกระทั่งทั่วประเทศให้ดียิ่งขึ้น

นายสี จิ้นผิงชี้ให้เห็นว่า เราต้องสร้างเสริมแนวโน้มเชิงบวกที่มีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไป และเพิ่มความเชื่อมั่นด้านการพัฒนาแก่สังคม สมาชิกพรรคและเจ้าหน้าที่ระดับผู้นำต้องสร้างความเชื่อมั่นและทุ่มเททำงานอย่างจริงจังก่อนประชาชนทั่วไป เราต้องแก้ไขลัทธิรูปแบบนิยมและลัทธิเจ้าขุนมูลนายให้สิ้นซาก ลดภาระของระดับรากหญ้าอย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นพลังสร้างสรรค์ของทั้งพรรคและสังคม และกระตุ้นจิตวิญญาณของสมาชิกพรรคและเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่และสร้างผลงาน เราต้องยึดมั่นในแนวคิดการพัฒนาที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยกระดับการประกันชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมั่นคงในกระบวนการพัฒนา ตลอดจนชี้แนะและให้กำลังใจมวลชนให้สร้างชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุขด้วยสองมือของตนเอง

นายสี จิ้นผิงย้ำทิ้งท้ายว่า เราต้องทำงานให้ดีในด้านการผลิตที่ปลอดภัย ตรวจสอบความเสี่ยงด้านความปลอดภัยให้ดีอีกระดับ เสริมสร้างระบบการติดตามและการเตือนภัยล่วงหน้า ดำเนินมาตรการฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างหลักประกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

นักข่าวสังเกตเห็นว่าระหว่างการประชุม “สองภา”ของจีนในปีนี้  “การพัฒนากำลังการผลิตที่มีคุณภาพใหม่”ถือเป็นประเด็นร้อนในบรรดาสมาชิกสองสภาอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาได้มีการเปิด “เวทีพบผู้แทน” และ “เวทีพบรัฐมนตรี” ครั้งแรก จากเวทีดังกล่าวบรรดาผู้สื่อข่าวได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับ “การไล่ตามแสงสว่าง”  เช่น อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์เป็น “ผู้ไล่ตามแสงสว่าง”แห่งยุคสมัย ผู้ก่อตั้งบริษัทพลังงานแสงอาทิตย์คนหนึ่งกล่าวว่าเขาไม่ได้ตัดเงินทุนสำหรับการวิจัยและพัฒนาแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด นี่แสดงว่าเขากำลังไล่ตามแสงสว่างของเทคโนโลยีแกนหลัก ตัวแทนจากอุตสาหกรรมยานยนต์คนหนึ่งกล่าวว่า หากเราต้องการเป็นประเทศเข้มแข็งด้านยานยนต์ก็จำเป็นต้องทำให้แบรนด์จีนก้าวสู่ระดับโลก นี่คือการไล่ตามแสงสว่างแห่งแบรนด์เนม ซึ่งปัจจุบันนี้แวดวงรถยนต์จีนกำลังทำงานอย่างหนัก ตัวแทนจากแนวหน้าการวิจัยโบราณสถานอินซีว์กล่าวว่า การปฏิบัติงานด้านโบราณคดีไม่ได้เพื่อขุดหาสมบัติ แต่ต้องการค้นพบความลึกลับทางประวัติศาสตร์ นี่คือการไล่ตามแสงสว่างแห่งอารยธรรม ที่จริงแล้ว เศรษฐกิจจีนในปัจจุบันก็ถือเป็น “นักไล่ตามแสงสว่าง” เช่นกัน ซึ่งมีอุตสาหกรรมใหม่และแนวทางใหม่ ๆ จำนวนมากต่างก็เป็นไฮไลท์ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงและยกระดับอุตสาหกรรมดั้งเดิมด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ก็ทำให้มีอนาคตที่สดใสได้เช่นกัน

ก้าวหน้าไปในทิศทางที่เปี่ยมด้วยแสงสว่างเหล่านี้ โดยตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตประมาณ 5% เร่งพัฒนากำลังการผลิตที่มีคุณภาพใหม่ และเดินบนหนทางการพัฒนาคุณภาพสูง เช่นนี้เศรษฐกิจจีนย่อมมีอนาคตที่สดใส และผู้ที่ไล่ตามแสงสว่างก็ย่อมจะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามในฤดูใบไม้ผลิอย่างแน่นอน

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)