บทวิเคราะห์ : แถลงการณ์ร่วมเป็น “กรอบความสัมพันธ์” ที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ
แม้ว่าจีนจะคัดค้านอย่างเด็ดขาดต่อกรณีไต้หวัน แต่สหรัฐฯ ยังคงดื้อรั้นที่จะเริ่มต้นการเจรจาทางการค้าอย่างเป็นทางการกับไต้หวันของจีน ถือเป็นสัญญาณทางลบและเป็นอันตรายอย่างยิ่งในประเด็นแบ่งแยกดินแดนไต้หวัน
“การเจรจาทางการค้า” เป็นเพียงข้ออ้างของสหรัฐฯเท่านั้น แต่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวที่เลวร้ายครั้งนี้ คือ สหรัฐฯ ต้องการท้าทายหลักการ “จีนเดียว” และยับยั้งการพัฒนาของจีน โดยใช้ประโยชน์จากประเด็นปัญหา “ไต้หวัน” ประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ
การกระทำดังกล่าวของสหรัฐฯ เป็นการละเมิดคำสัญญาทางการเมืองที่สหรัฐฯได้ให้ไว้กับจีนเกี่ยวกับการรักษาหลักการจีนเดียว อีกทั้งยังเป็นการไม่เคารพแถลงการณ์ร่วมทั้ง 3 ฉบับระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่เป็นรากฐานทางการเมืองแห่งความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ
ช่วงที่ผ่านมา นักการเมืองสหรัฐฯ มักจะใช้คำใหญ่คำโตในการพูดถึงเรื่องการสร้าง “กรอบความสัมพันธ์” ให้กับจีน-สหรัฐฯ มาโดยตลอด แต่สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่พูด ซึ่งเห็นได้จากนักการเมืองสหรัฐฯบางส่วนกระทำในสิ่งที่ไม่สมควรมากขึ้นเรื่อยๆ ในการท้าทายเส้นแดงของจีน และสร้างความปั่นป่วนในช่องแคบไต้หวัน
ความจริงคือ แถลงการณ์ร่วมสามฉบับระหว่างจีน-สหรัฐฯ จึงเป็น “กรอบความสัมพันธ์” ที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับจีน-สหรัฐฯ แถลงการณ์ร่วมทั้งสามฉบับนี้มีการระบุอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ ยอมรับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่เพียงหนึ่งเดียวของจีน และยอมรับจุดยืนของจีนว่า “โลกนี้มีจีนเดียว” และไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน
บนพื้นฐานนี้ทางสหรัฐฯ ควรดำเนินการและปฏิบัติตามเงื่อนไข 3 ประการที่จีนเสนอ คือ ตัดความสัมพันธ์ทางการทูต ยกเลิกสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันกับทางการไต้หวัน และถอนกำลังทหารสหรัฐฯออกจากไต้หวัน ข้อกำหนดเหล่านี้ทำให้จีนและสหรัฐอเมริกา แม้จะมีระบบสังคมและอุดมการณ์ต่างกัน แต่ช่วยให้สามารถพูดคุยเจรจาและร่วมมือกันได้ เพื่อประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายและทั่วโลก
เมื่อหลักการจีนเดียวได้รับการเคารพ ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯก็จะสามารถพัฒนาอย่างราบรื่น และสามารถรักษาสันติภาพในช่องแคบไต้หวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากหลักการจีนเดียวถูกทำลาย ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ จะเกิดความปั่นป่วนและถดถอย จะส่งผลต่อสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวัน
ดังนั้น หากสหรัฐ ฯ ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ในแถลงการณ์ร่วมระหว่างจีน-สหรัฐฯ อย่างจริงจัง และยึดมั่นในแนวทางของแถลงการณ์ร่วม จะทำให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ไม่ตกรางและไม่อยู่นอกเหนือการควบคุม
ทุกวันนี้ หลักการ“จีนเดียว”ได้กลายเป็นฉันทามติของประชาคมระหว่างประเทศไปแล้ว และเป็นบรรทัดฐานพื้นฐานที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
กรณที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เยือนไต้หวัน ส่งผลให้กว่า 170 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศจำนวนมากได้ย้ำถึงจุดยืนการยึดมั่นในหลักการจีนเดียว โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ประธานการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 76 และเลขาธิการสหประชาชาติ ต่างออกมาเน้นย้ำว่า สหประชาชาติจะปฏิบัติตามมติหมายเลข 2758 ซึ่งยืนยันหลักการจีนเดียวอย่างชัดเจน
ด้วยการท้าทายหลักการจีนเดียว สหรัฐฯ กำลังทำลาย“กรอบความสัมพันธ์” ที่แท้จริงสำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับจีน และนั่นก็เท่ากับเป็นการท้าทายประชาคมระหว่างประเทศอย่างอุกอาจ สหรัฐฯได้รับรอง “กฎหมายว่าด้วยความสัมพันธ์กับไต้หวัน” โดยลำพังฝ่ายเดียว และให้กฎหมายฉบับนี้นำหน้าแถลงการณ์ร่วมสามฉบับระหว่างจีน-สหรัฐฯในการแถลงนโยบาย พร้อมสอดแทรก “หกหลักประกันต่อไต้หวัน” ไว้ในการบรรยายหลักการจีนเดียว ถือเป็นข้อบั่นทอนความสัมพันธ์มากขึ้น
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ได้เพิ่มการขายอาวุธให้กับไต้หวัน และผ่อนคลายข้อจำกัดในการแลกเปลี่ยนกับไต้หวัน ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวเแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ กำลังบั่นทอนความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯแต่ต้องการเพียงผลประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว คือ “ฉันสามารถทำทุกอย่างที่ฉันต้องการ และคุณไม่ควรเคลื่อนไหวตอบโต้ใดๆ” นี่เป็นการแสดงออกให้เห็นถึงแนวคิดของสหรัฐฯที่ต้องการเป็นใหญ่ของโลกและตรรกะการเป็นผู้ร้ายอย่างโจ่งแจ้ง
นายฮัสซัน อัสลาม ชัด ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศของปากีสถาน กล่าวเมื่อเร็วๆนี้ว่า สหรัฐฯ กำลังพยายามใช้ประโยชน์ไต้หวันในการต่อต้านจีน และได้ทดสอบเส้นแดงของจีนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตลอดจนท้าทายผลประโยชน์หลักของจีนด้วยเป้าหมายที่จะยับยั้งการพัฒนาของจีน
นายเฮนรี คิสซิงเงอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวอย่างเปิดเผยว่า “สหรัฐฯ ไม่ควรที่จะใช้กลอุบายหรือการกระทำใด ๆ เพื่อผลักดันการสร้างระบบ “สองจีน”
หลักการจีนเดียวไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของตนเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวพันถึงสถานการณ์โดยรวมแห่งความสัมพันธ์ของจีน-สหรัฐฯ ตลอดจนความสงบสุขและความมั่นคงของโลกด้วย สหรัฐฯ จำเป็นต้องหยุดเดินบนเส้นทางที่ผิดพลาดและบิดเบือน เพื่อลดทอนความสำคัญหลักการจีนเดียว
เขียนโดย ไช่ เจี้ยนซิน ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)