บทวิเคราะห์ การเติบโตกับการพัฒนาสีเขียวของพลังการประมวลผลของจีน

0
1

ข้อมูลจากที่ประชุมพลังประมวลผลของจีนประจำปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ภาคตะวันตกของจีน เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า ปัจจุบัน พลังการประมวลผลของจีนสูงถึง 197 EFLOPSต่อวินาที อยู่อันดับ 2 ของโลก อุตสาหกรรมพลังการประมวลผลของจีนรวมถึงศูนย์ข้อมูล ศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ และศูนย์ประมวลผลอัจฉริยะได้ก่อรูปขึ้นในขั้นพื้นฐาน พลังการประมวลผลกำลังซึมเข้าสู่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจีน และบริการสาขาต่าง ๆ ของจีนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนกลายเป็นทรัพยากรพื้นฐานที่มีความจำเป็นพอๆกับน้ำและไฟฟ้า การสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตของพลังการประมวลผลกับการพัฒนาสีเขียวกลายเป็นประเด็นหนึ่งในจีน

พลังการประมวลผลหมายถึงความสามารถของคอมพิวเตอร์หรือศูนย์ข้อมูลในการประมวลผลข้อมูล โดยพิจารณาจากความเร็วในการประมวลผล วิธีการประมวลผล ความสามารถด้านการสื่อสาร และความสามารถในการจัดเก็บข้อมูล ถือเป็นพื้นฐานของระบบดิจิทัลและระบบอัจฉริยะ ปัจจุบัน มีการประยุกต์ใช้พลังการประมวลในอุตสาหกรรม การคมนาคม การบิน การเงิน พลังงาน การศึกษา และการรักษาพยาบาลอย่างกว้างขวาง

ตัวอย่างเช่นการพยากรณ์อากาศ การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีพลังการประมวลผลและปัญญาประดิษฐ์ทำให้การพยากรณ์อากาศมีความแม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในงานกีฬามหาวิยาลัยโลกครั้งที่ 31 ที่จัดขึ้นที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวนของจีน พลังการประมวลผลช่วยทำให้งานกีฬาครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น เนื่องจากสภาพอากาศของเมืองเฉิงตูที่มีฝนตกชุก และเป็นช่วงที่มีน้ำท่วม การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศค่อนข้างสลับซับซ้อน ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการแข่งขันกีฬากลางแจ้ง เช่น พายเรือ กรีฑา ยิงธนู และเทนนิส เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับชาติที่เมืองเฉิงตูได้ใช้คอมพิวเตอร์ขนาดซูเปอร์ใหญ่ที่ประมวลผลด้วยความเร็ว 100,000 ล้านล้านครั้งต่อวินาที ในการสร้างแบบจำลองเชิงตัวเลขที่มีความละเอียดสูง เพื่ออัปเดตข้อมูลสาพอากาศทุก 10 นาที

หลายปีมานี้ อุตสาหกรรมต่าง ๆ  เช่น เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ  วิทยาศาสตร์ชีวเคมี และการผลิตอัจฉริยะพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ประกอบกับความต้องการโมเดลปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่พิเศษและข้อมูลขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น  ซึ่งขับเคลื่อนให้การประมวลผลอัจฉริยะกลายเป็นแรงผลักดันหลักต่อการเติบโตของพลังการประมวลผล

สำหรับสังคมอัจฉริยะ ศูนย์ประมวลผลอัจฉริยะกลายเป็นสาธารณูปโภคที่มีความจำเป็นพอๆกับการอนุรักษ์น้ำและการคมนาคมขนส่งที่มีต่อสังคมเกษตรกรรม และความจำเป็นของทางรถไฟ ทางหลวง สนามบินและโครงข่ายไฟฟ้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ขาดมิได้สำหรับสังคมอุตสาหกรรม

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทไชน่า จำกัดได้เริ่มก่อสร้างศูนย์ประมวลผลอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดแห่งเอเชีย นายหวัง เสี่ยวหยุน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของบริษัทไชน่า โมบาย ระบุว่า เราหวังจะนำเสนอโมเดลแหล่งจ่ายไฟสำหรับการประมวลผลแบบใหม่ และสร้างเครือข่ายพลังงานการประมวลผลแบบครบวงจร เพื่อให้สามารถรับเครือข่ายพลังงานการประมวลผลได้ทันทีเหมือนกับโครงข่ายไฟฟ้า

นอกจากศูนย์ประมวลผลอัจฉริยะแล้ว ปัจจุบัน จีนยังมีศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ด้วย ในศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เหล่านี้ มักจะติดตั้งซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “เทียนเหอ-1”  เพื่อใช้ในการประมวลผลทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่และการประมวลผลทางวิศวกรรมโดยเฉพาะ  ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “เทียนเหอ-1” เป็นสัญลักษณ์พลังการประมวลผลที่ก้าวหน้าที่สุดของจีน มีรายงานว่า การทำงานหนึ่งชั่วโมงของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “เทียนเหอ-1” รุ่นล่าสุด เท่ากับการใช้กำลังคนทำงาน 7,000 ล้านคนเป็นเวลากว่า 500 ปี

พลังการประมวลผลเป็นตัวกําหนดความเร็วในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาสังคมอัจฉริยะ ผลการวิจัยพบว่า การลงทุนในพลังการประมวลผลทุก 1 หยวนหรือ 5 บาท สามารถทำให้จีดีพีเติบโต 3-4 หยวน ยิ่งพลังการประมวลผลของประเทศมีขนาดใหญ่เท่าใด ระดับการพัฒนาเศรษฐกิจก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น  ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไฮเทค เช่น การประมวลผลแบบคลาวด์ บิ๊กดาต้า บล็อกเชน เมตาเวิร์ส และปัญญาประดิษฐ์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่และชั้นสูงล้วนพึ่งพาอาศัยพลังการประมวลผล

ทว่า ต้นทุนการประมวลผลที่แพงที่สุดคือค่าไฟฟ้า โดยทั่วไปค่าไฟฟ้าของศูนย์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะคิดเป็น 60-70% ของต้นทุนทั้งหมด มีการประมาณการว่าพลังการประมวลผล 1PFLOPS ใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 2,400 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อวัน สถาบันวิจัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศจีนคาดว่า  ปี 2025 บรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายของจีนจะชำระค่าไฟฟ้าสูงถึง 33,700 ล้านหยวน

มีรายงานด้วยว่าการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลสำหรับการฝึกอบรมโมเดลปัญญาประดิษฐ์จะสูงกว่างานบนคลาวด์ทั่วไปถึงสามเท่า แต่ละครั้งที่แชทบอท CHAT-GPT ได้รับการฝึก จะใช้พลังงานมากพอที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้า Tesla จำนวน 3,000 คันวิ่งรอบโลกได้ 10 รอบ

ตามสถิติปี 2021 ศูนย์ประมวลผลในพื้นที่ต่าง ๆ ของจีนใช้ไฟฟ้ารวม 216,600 กิโลวัตต์ชั่วโมง คิดเป็น 2.6% ของยอดปริมาณการใช้ไฟฟ้าของทั้งประเทศ ในอีกหลายปีข้างหน้า ศูนย์ประมวลผลเหล่านี้มีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นผู้ใช้ไฟฟ้ามากเป็นอันดับหนึ่งในจีน

เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้พลังงาน ศูนย์ประมวลส่วนใหญ่ ของจีนมักจะตั้งอยู่ในภาคตะวันตกซึ่งมีพลังงานไฟฟ้าอุดมสมบูรณ์ พิจารณาจากการกระจายความร้อนของเครื่องคอมพิวเตอร์ ศูนย์ประมวลผลของบริษัทอาลีบาบาตั้งอยู่ที่อำเภอจังเป่ย มณฑลเหอเป่ย ซึ่งเป็นรีสอร์ทฤดูร้อนที่มีชื่อเสียงของจีน นอกจากนี้ Ant Group ที่เป็นบริษัทในเครือของอาลีบาบาได้ปรับปรุงพลังการประมวลประมวลผลผ่านการผสมผสาน ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ และจัดสรรทรัพยากรพลังงานในการประมวลผลอย่างสมเหตุสมผล กลุ่มใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สีเขียวเพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า 1,538,000 กิโลวัตต์ชั่วโมงในช่วงเทศกาลช้อปออนไลน์ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี 2022 เท่ากับลดปล่อยคาร์บอน 947 ตัน หรือเท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ต้นไม้จำนวน 79,000ต้นดูดซับเป็นเวลาหนึ่งปี ในการประชุมพลังประมวลผลของจีนประจำปี 2023 นายเหอ เจิงอวี่ รองประธาน Ant Group ประธานฝ่ายเทคโนโลยีแพลตฟอร์มของกลุ่ม ได้รับรางวัลผู้บุกเบิกพลังประมวลจากนวัตกรรมการประมวลผลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสีเขียวและสร้างคุณประโยชน์ที่สำคัญในการพัฒนาพลังการประมวลผลของจีน

ปัจจุบัน ในจีนมีเมือง อย่างน้อย 30 เมืองได้สร้างหรือกำลังสร้างศูนย์ประมวลผลอัจฉริยะขึ้น ศูนย์เหล่านี้มุ่งมั่นพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น ศูนย์ประมวลผลสาธารณะจื่อจินหยุน มณฑลกันซู่ประสบความสำเร็จในการประหยัดพลังงานและลดคาร์บอนอย่างครอบคลุมตั้งแต่อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ไปจนถึงการทำงานโดยรวม เช่น แหล่งผลิตความเย็นจาก 3 ลู่ทางพร้อมกันได้แก่ การทำความเย็นตามธรรมชาติผสมกับการระบายความร้อนด้วยอากาศและการทำความเย็นแบบระเหย นอกจากนี้ ยังนําความร้อนที่เหลือกลับมาใช้ใหม่

แม้พลังการประมวลผลของจีนอยู่อันดับ 2 ของโลก แต่จีนยังคงเผชิญปัญหาการพัฒนาพลังการประมวลผลที่ต้องใช้เงินทุนสูงและใช้พลังงานมหาศาล แต่การใช้งานยังไม่เต็มที่ ด้วยเหตุนี้ จีนจึงพยายามสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตของพลังการประมวลผลกับการพัฒนาสีเขียว

เขียนโดย โจว ซวี่ ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)