ไฟถนนโบราณกู่ซานสว่าง- เส้นทางสี จิ้นผิง (76)

0
7
ทัศนียภาพภูเขากู่ซานซึ่งตั้งอยู่ในตำบลกู่ซาน เขตจิ้นอัน เมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน

คุณลุงหลิน ฉางซิง ซึ่งอยู่อาศัยในเมืองฝูโจว มีนิสัยชอบปีนเขากู่ซานในเขตชานเมืองทุกบ่ายวันเสาร์ เพื่อยืดเส้นยืดสายและออกกำลังเรียกเหงื่อ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2002 คุณลุงประหลาดใจอย่างยิ่งที่พบว่านายสี จิ้นผิง ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ว่าการมณฑลฝูเจี้ยนอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักปีนเขาด้วย หลังสอบถามจึงทราบว่าคณะของผู้ว่าการมณฑลมาครั้งนี้เพื่อตรวจดูการติดตั้งไฟส่องสว่างริมถนนสายโบราณนี้โดยเฉพาะ    

กู่ซานตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองฝูโจว มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 870.30 เมตร ตั้งชื่อนี้เพราะว่ากันว่าบนภูเขามีหินขนาดใหญ่คล้ายกลองซึ่งจะมีเสียงเมื่อมีลมและฝนหนัก ที่นี่มีวัดหย่งฉวนวัดโบราณเป็นศูนย์กลาง มีจุดชมวิวที่สวยงามทั้งทางตะวันออก เหนือ ตะวันตกและใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนภูเขามีภาพแกะสลักหินบนหน้าผาที่สืบทอดมาจากอดีตเป็นจำนวนมาก มีขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่งเหนือจนถึงราชวงศ์ชิง ได้รับการขนานนามว่า “ป่าศิลาจารึกตะวันออกเฉียงใต้” ชัยภูมิซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับบรรดาปัญญาชนในการแสดงอารมณ์ความรู้สึกแห่งนี้เป็นแหล่งที่ดีสำหรับผู้คนทั้งหลายในการปีนเขาเพื่อออกกำลังกายและชื่นชมทิวทัศน์ธรรมชาติมาตั้งแต่สมัยโบราณ

ในขณะที่กระแสการออกกำลังกายของทั่วประเทศเริ่มร้อนแรง การไปปีนเขาตามถนนโบราณกู่ซานนับวันก็ยิ่งกลายเป็นแฟชั่นยามว่างของชาวเมืองฝูโจวมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อปี 1997 มีคนปีนเขากู่ซานเพียงหนึ่งหรือสองพันคนในช่วงสุดสัปดาห์ ทว่าเมื่อถึงปี 2002 ตัวเลขนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นนับหมื่นคน

จำนวนคนที่นับวันเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เกินขีดความสามารถการรองรับของถนนโบราณกู่ซาน บวกกับไม่มีไฟส่องสว่างตามถนน ยามค่ำคืนจึงมืดมิด แยกแยะถนนอันคดเคี้ยวได้ยาก ที่นี่จึงเกิดเหตุคนหกล้มและบาดเจ็บบ่อยครั้ง กระทั่งมีพวกอันธพาลก่อคดีจี้ปล้นโดยฉวยโอกาสจากความมืด ประชาชนต่างส่งเสียงไม่พอใจอย่างยิ่ง

เมื่อนายสี จิ้นผิง รู้เรื่องนี้ ได้ออกคำสั่งทันทีให้เมืองฝูโจวและเขตจิ้นอัน“แก้ปัญหาการสร้างระบบไฟส่องสว่างริมถนนปีนเขาโบราณในกู่ซานโดยเร็วที่สุด เพื่อให้บริการประชาชนในการปีนเขาและออกกำลังกายได้ดียิ่งขึ้น” วันนั้นเขามาที่นี่ก็เพื่อตรวจการสร้างระบบไฟถนนของถนนโบราณโดยเฉพาะ

เริ่มต้นจากบริเวณ “เซี่ยย่วน”กู่ซาน ไปตามถนนบนภูเขาที่คดเคี้ยว ทอดยาวผ่าน“สือปาจิ่ง” ไปจนถึงลานจอดรถที่อยู่ครึ่งทางจากยอดเขา ความยาวรวมของแนวที่ต้องติดตั้งไฟถนนประมาณ 2.8 กิโลเมตร ตามเส้นทางนี้ นายสี จิ้นผิงและคณะใช้เวลา 45 นาทีในการปีนถึงจุดพักชมวิวบริเวณ“สือปาจิ่ง”กู่ซาน

นายสี จิ้นผิงและผู้นำเมืองฝูโจวและเขตจิ้นอันพากันเดินไปคุยไป

“แหล่งที่มวลชนชอบไปพวกเราก็ควรไปให้บ่อย เช่นนี้เท่านั้น เราจึงจะรู้ว่ามวลชนต้องการอะไร” นายสี จิ้นผิง กล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่รายรอบเมื่อเห็นว่ามีมวลชนหลั่งไหลมาปีนเขาไม่ขาดสายตลอดทาง

ในมุมมองของนายสี จิ้นผิง การปีนเขาเป็นกิจกรรมออกกำลังกายที่ดีสำหรับทุกคนในชาติ การปรับปรุงสภาพแวดล้อมการปีนเขาเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน ต้องทำเรื่องดีๆ ให้ดีให้ได้ ต้องทำให้ถนนสายโบราณสว่างขึ้นโดยยึดหลักการ “มีความปลอดภัย ใช้งานได้ดี สวยงาม และเหมาะสม” เพื่อให้มวลชนสามารถเดินได้สะดวกสบายและราบรื่นยิ่งขึ้น

นายสี จิ้นผิงเน้นย้ำว่า การยกระดับคุณภาพการให้บริการประชาชนนั้นต้องให้ความสำคัญกับภาพรวมและเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆน้อยๆ ศึกษาสิ่งที่ประชาชนใส่ใจและช่วยแก้ปัญหาและความยากลำบากให้กับประชาชน ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถบรรลุ “ประชาชนมีความต้องการสิ่งใด เราตอบสนองในสิ่งนั้น” และ “ประชาชนเสนอความต้องการ เราสร้างผลงาน”

การติดตั้งระบบไฟส่องสว่างริมถนนปีนเขาโบราณก็ถือเป็นสิ่งที่สาธารณชนตั้งตารอคอย

ทริปปีนเขาในวันนั้นก็ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ณ สถานที่จริง

ในที่สุด มณฑล เมือง และเขตได้ร่วมกันออกทุนรวม 1.3 ล้านหยวน เพื่อดำเนิน “โครงการระบบไฟส่องสว่าง” ริมถนนปีนเขาโบราณกู่ซาน  ได้ติดตั้งไฟถนนที่เป็นศิลปะเกือบ 200 ดวงโดยใช้หินแกรนิตเป็นฐานเสาตามริมถนนปีนเขาระยะทาง 2.8 กิโลเมตร

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 ถนนโบราณกู่ซานเริ่มมีไฟส่องสว่างเป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนี้ เขตจิ้นอัน เมืองฝูโจวยังได้ตั้งป้อมยามรักษาความปลอดภัย 3 ป้อมในบริเวณ“เซี่ยย่วน” “สือปาจิ่ง” และสถานที่อื่นๆซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อบนภูเขากู่ซาน พร้อมทั้งตั้ง “สถานีตำรวจเคลื่อนที่” ที่เชิงเขากู่ซาน เพื่อเพิ่มกำลังการลาดตระเวน

เส้นทางปีนเขาที่สร้างขึ้นใหม่ 2 เส้นได้รับการตั้งชื่อว่า “ถนนผู้กล้า”ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออก และ “ความรักต้นสน”อยู่ทางตะวันตกของถนนโบราณกู่ซาน “ถนนผู้กล้า”มีสภาพสอดคล้องกับชื่อถนน คือ ขึ้นภูเขาตามแนวลำธารซึ่งสูงชันและเร้าใจ ส่วน “ความรักต้นสน” เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างราบและชมทิวทัศน์ได้กว้างไกล

วันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2002 หนังสือพิมพ์ฝูเจี้ยนเดลี่ได้ตีพิมพ์ข่าวหัวข้อ “การปีนเขากู่ซานยามค่ำคืนกลายเป็นแฟชั่น” โดยรายงานว่าในช่วงครึ่งปีนับตั้งแต่มีไฟถนน กูซานไม่มีเหตุประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการหกล้มขณะปีนเขาแม้แต่รายเดียว จำนวนคดีอาชญากรรมก็ลดลงจาก 7 คดีในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2001 เหลือ 1 คดี

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)

ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่

https://www.tcjapress.com/2024/02/23/xi-way-75/