การร่วมทริปศึกษาประเทศจีนกับ CIPG และ China Report ASEAN ในช่วง 15-20 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมาทำให้ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปเยือนเมืองซีอานเป็นครั้งที่ 5 และได้ไปสักการะ “เจดีย์ห่านป่าใหญ่” ที่วัดต้าสือเอินเป็นครั้งที่ 2 แต่ครั้งนี้มีความแตกต่างเพราะเกิดความกระจ่างแจ้งในข้อกังขาที่ติดค้างคาใจมานานอย่างน้อยสองเรื่อง หนึ่งคือ “พระถังซำจั๋ง” ที่คนไทยรู้จักในนวนิยายเรื่อง “ไซอิ๋ว”นั้นเป็นแค่ตัวละครในจินตนาการหรือท่านมีตัวตนจริง อีกหนึ่งคือ “เจดีย์ห่านป่าใหญ่” ทำไมจึงมีชื่อแปลกเช่นนี้
เจดีย์ห่านป่าใหญ่ (Big Wild Goose Pagoda) ตั้งอยู่ทางใต้ของกำแพงเมืองซีอาน สร้างโดยถังเกาจงในปีค.ศ. 652 สมัยราชวงศ์ถัง นับอายุถึงปัจจุบันกว่า 1,300 ปี เป็นศิลปะจีนผสมอินเดีย เดิมสร้างแค่5ชั้น ต่อมาได้รับการบูรณะสมัยราชวงศ์หมิงและชิง เสริมเป็น 7 ชั้น ปัจจุบันสูง 64.7เมตร เหตุที่สร้างเจดีย์องค์นี้ว่ากันว่าเป็นไปตามคำขอของ “พระถังซำจั๋ง” เพื่อเก็บรักษาพระไตรปิฎกที่อันเชิญมาจากชมพูทวีป ซึ่งต่อมาได้แปลจากภาษาสันสกฤตเป็นภาษาจีน
แล้วทำไมจึงชื่อ “ห่านป่าใหญ่” นี่ก็เล่าต่อๆกันมาอีกเหมือนกันว่า จากจีนสู่ชมพูทวีปนั้นหนทางยากลำบากนักต้องผ่านทั้งป่าดงดิบและพื้นที่ทุรกันดาร ช่วงหนึ่งอยู่กลางทะเลทรายเกือบจะอดน้ำตาย พระถังซำจั๋งเห็นฝูงห่านป่าบินผ่านบนท้องฟ้า จึงให้คณะติดตามไปในทางที่ฝูงห่านป่ามุ่งหน้าเพราะเชื่อว่าจะพบแหล่งน้ำซึ่งก็ได้พบจริงๆจนรอดตายไปถึงอินเดีย ดังนั้นเมื่อได้สร้างเจดีย์ขึ้นจึงได้ตั้งชื่อว่า “ห่านป่าใหญ่”หรือ “ต้าเยี่ยนถ่า” เพื่อเป็นการรำลึกถึงบุญคุณของห่านป่า
ส่วนพระถังซำจั๋งนั้นมีหลักฐานบันทึกทางประวัติศาสตร์ว่าเดิมท่านมีชื่อว่า “เฉินอี” เกิดสมัยราชวงศ์สุย บิดาเป็นขุนนางระดับนายอำเภอ มีแววใฝ่รู้ใฝ่เรียนตั้งแต่เด็ก มารดาเสียชีวิตตอนท่านอายุเพียง 5 ขวบ เหตุที่เลื่อมใสพระพุทธศาสนาเพราะพี่ชายบวชเป็นภิกษุก่อน หลังบิดาเสียชีวิตจึงไปอาศัยอยู่ที่วัดกับพี่ชาย ยิ่งได้มีโอกาสศึกษาพระพุทธศาสนา อายุ13บรรพชาเป็นสามเณร อายุ18แตกฉานในพระไตรปิฎก
ศึกษาพระพุทธศาสนาถึงอายุ 28 ท่านเกิดร้อนวิชาบังอาจเสนอฮ่องเต้ว่าควรชำระศาสนาโดยอาสาไปอันเชิญพระไตรปิฎกของแท้จากชมพูทวีป แม้ฮ่องเต้ไม่อนุญาตแต่พระถังซำจั๋งก็ออกเดินทางไปเองในปีค.ศ.629 บุกป่าฝ่าดงและอันตรายนานัปการจนถึงอินเดียได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยนาลันทา ซึ่งยุคนั้นได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนา กลับถึงฉางอานปีค.ศ.645 รวมเวลา 16 ปี รวมระยะทางที่เดินทางไป-กลับ 58,000 กิโลเมตร
เล่ากันว่าตอนท่านกลับจากชมพูทวีปใหม่ๆนั้นฮ่องเต้อยากให้ท่านสึกมาช่วยบริหารบ้านเมืองเพราะพูดได้ถึง 13 ภาษา แต่ท่านอุทิศชีวิตให้แก่พระพุทธศาสนาแล้ว ฮ่องเต้จึงให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสที่วัดต้าสือเอิน ท่านเป็นผู้มีบทบาทในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ท่านมรณภาพตอนอายุ 64 ปี สหประชาชาติประกาศเป็นบุคคลสำคัญของโลก นี่จึงเป็นการยืนยันว่าพระถังซำจั๋งมีตัวตนจริง
นวนิยายเรื่องไซอิ๋ว หรือ “ซีโหยวจี้” การผจญภัยอันสนุกสนานพิศดาร มีตัวละครที่โลกจดจำอย่าง พระถังซำจั๋ง เฮ่งเจีย หรือ “ซุนอู่คง” ซัวเจ๋ง และ ตือโป๊ยก่าย ก็เอาเค้าโครงมาจากบันทึกการเดินทาง “ต้าถังซีโหยวจี้” จดหมายเหตุการเดินทางสูดินแดนตะวันตกของมหาราชวงศ์ถัง” ที่พระถังซำจั๋งได้บันทึกประสบการณ์การเดินทางไปอินเดีย การท่องเอเชียกลาง เอเชียใต้ 110 แคว้น เป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์กว่า 1,000 ปีนั่นเอง
ชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ
นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน