‘สี จิ้นผิง’ ขับเคลื่อนการสร้างและพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน

0
40

             หลังดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศจีนได้ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น จูไห่ ซ่านโถวหรือซัวเถา เซี่ยเหมินหรือเอ้หมึง และไห่หนานหรือไหหลำ รวม 5 แห่งตามลำดับ จนประสบความสำเร็จเป็นที่จับตามองทั่วโลก นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่ผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศ ครั้งที่ 18 เป็นต้นมา ภายใต้การนำอันทรงพลังของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มีนายสี จิ้นผิงเป็นแกนกลางการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนด้านเขตเศรษฐกิจมีการพัฒนาใหม่แบบก้าวกระโดด สะท้อนให้เห็นอย่างลึกซึ้งว่า การปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นมาตรการสำคัญที่สุดในการกำหนดอนาคตของจีนในยุคปัจจุบัน

                    ก้อนหินเฉียนไห่สือ เมืองเซินเจิ้ บันทึกภาพเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2020

ที่อุทยานเฉียนไห่สือ เมืองเซินเจิ้น มีหินก้อนใหญ่ตั้งตระหง่านรูปทรงเมือน เรือกางใบออกเดินทางและมีอักษรใหญ่สองตัวเฉียนไห่ สลักบนหินก้อนนี้                                          

เหตุที่การลงพื้นที่ดูงานครั้งนี้ต้องมาที่มณฑลกว่างตก็เพราะว่า อยากมาที่เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนและทบทวนกระบวนการทางประวัติศาสตร์แห่งการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปและเปิดประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2012 นายสี จิ้นผิง เดินทางไปที่เขตเฉียนไห่ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าริมชายหาดในเมืองเซินเจิ้น ถือป็นการลงพื้นที่ตรวจงานครั้งแรกของนายสี จิ้นผิง หลังเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ข้าง ๆ ก้อนหินเฉียงไหสือ นายสี จิ้นผิง ออกคำสั่งให้ดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศบนจุดเริ่มต้นใหม่ พร้อมฝากำชับอย่างสุดซึ้งไว้กับเฉียนไห่ว่า ต้องดำเนินการพัฒนาอย่างละเอียดประณีต เปลี่ยนโฉมหน้าทุก ๆ ปี เริ่มต้นใหม่บนกระดาษเปล่าจากศูนย์ ต้องวาดภาพที่สวยและดีที่สุดออกมาให้ได้

                          ทิวทัศน์เขตเฉียนไห่ เมืองเซินเจิ้ บันทึกภาพเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2020

วันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2018 ในโอกาสการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีนครบรอบ 40 ปี นายสี จิ้นผิงเดินทางไปที่เขตเฉียนไห่อีกครั้ง พื้นที่ว่างเปล่าในอดีตเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงและเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา มีอาคารสูงเสียดฟ้ามากกว่า 200 แห่ง

        นายสี จิ้นผิง พูดคุยกับตัวแทนผู้ร่วมพัฒนาพื้นที่เฉียนไห่และสักขีพยานความเปลี่ยนแปลงของเฉียนไห่ โดยชี้ว่า ภาคปฏิบัติพิสูจน์ให้เห็นว่า หนทางแห่งการพัฒนามาถูกทางแล้ว จำต้องยืนหยัดดำเนินงานต่อไปอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคครั้งที่ 18 เป็นต้นมา นายสี จิ้นผิง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเขตเศรษฐกิจพิเศษหลายครั้ง เช่น เซี่ยเหมิน 1 ครั้ง ซัวเถา 1 ครั้ง จูไห่ 2 ครั้ง ซินเจิ้น 3 ครั้ง และไห่หนาน 3 ครั้ง เขาเอาใจใส่สภาพการปฏิรูปและเปิดประเทศของเขตเศรษฐกิจพิเศษมาโดยตลอด เคยเรียกประชุมกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน จัดการประชุมคณะกรรมการลงลึกการปฏิรูปอย่างรอบด้าน แห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และการประชุมอื่น ๆ เพื่อศึกษาวิจัยและวางยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาที่สำคัญ พร้อมออกคำสั่งหรือให้คำชี้แนะหลายต่อหลายครั้งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ นอกจากนี้ ยังชี้นำทิศทางการปฏิรูปและเปิดประเทศแก่เขตเศรษฐกิจพิเศษจากระดับสูงทางยุทธศาสตร์และสถานการณ์โดยรวม บุกเบิกสถานการณ์ใหม่แห่งการปฏิรูปและเปิดประเทศอย่างลึกซึ้งและรอบด้านของจีน ทำให้เขตเศรษฐกิจพิเศษได้รับการพัฒนาใหม่อย่างก้าวกระโดด

เขตเศรษฐกิจพิเศษของจีนก้าวหน้าไปบนจุดเริ่มต้นใหม่ตามลำดับ

วันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2015 เขตทดลองการค้าเสรีกว่างตงและฝูเจี้ยนก่อตั้งขึ้นในวันเดียวกัน

วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 ที่ฮ่องกง นายสี จิ้นผิงเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม กรอบข้อตกลงว่าด้วยการลงลึกความร่วมมือระหว่างกว่างตงฮ่องกงมาเก๊ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์เขตอ่าวใหญ่ ระหว่างคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติจีนกับรัฐบาลมณฑลกว่างตง เขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งถือเป็นการเปิดฉากแห่งการสร้างเขตอ่าวใหญ่และกลุ่มเมืองระดับโลกในภูมิภาค

วันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2018 ที่มณฑลไห่หนาน นายสี จิ้นผิง เข้าร่วมงานฉลองครบรอบ 30 ปี แห่งการก่อตั้งมณฑลและเขตเศรษฐกิจพิเศษไห่หนานพร้อมกล่าวปราศรัยสำคัญ ซึ่งกำหนดยุทธศาสตร์และภาระหน้าที่ของเขตเศรษฐกิจพิเศษไห่หนาน รวมถึงประกาศสนับสนุนไห่หนานสร้างเขตทดลองการค้าเสรีในขอบเขตทั่วทั้งเกาะ

วันที่ 24 กรกฎาคม .. 2019 ที่ทำเนียบจงหนานไห่ในกรุงปักกิ่ง นายสี จิ้นผิง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการลงลึกการปฏิรูปอย่างรอบด้าน คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 9 พิจารณาและอนุมัติความเห็นของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์และคณะรัฐมนตรีจีนเกี่ยวกับการสนับสนุนเมืองเซินเจิ้นสร้างเขตสาธิตนำร่องแห่งสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน อันเป็นการมอบภาระหน้าที่ระดับชาติที่สูงยิ่งกว่าเดิมแก่เมืองเซินเจิ้น

บนจุดเริ่มต้นใหม่ที่มีระดับสูงยิ่งขึ้น นายสี จิ้นผิงวางกลยุทธ์และแผนงาน พร้อมขับเคลื่อนการสร้างสรรค์เขตอ่าวใหญ่กว่างตง-ฮ่องกง-มาเก๊า เขตสาธิตนำร่องแห่งสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์จีนแห่งเมืองเซินเจิ้นและเมืองท่าการค้าเสรีไห่หนานด้วยตนเอง

ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมของสามเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ประกอบด้วยเมืองเซินเจิ้น จูไห่ และซัวเถา ในผลิตภัณฑ์มวลรวมของมณฑลกว่างตง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6.4 เป็นร้อยละ 30.7  สำหรับเมืองเซี่ยเหมิน ผลิตภัณฑ์มวลรวมในปี 2019 มีถึงราว 6 แสนล้านหยวน มากกว่าเมื่อ 40 ปีก่อนเกือบ 1,000 เท่า ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมเฉลี่ยต่อคนเกิน 20,000 เหรียญสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก

วันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2020  จีนประกาศ แผนแม่บทว่าด้วยการสร้างเมืองท่าการค้าเสรีไห่หนานนับเป็นการเปิดฉากกระบวนการสร้างเมืองท่าการค้าเสรีที่มีเอกลักษณ์ของจีนอย่างเป็นทางการ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ไห่หนานมีวิสาหกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 62 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีวิสาหกิจทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 78 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว ในช่วงราว 100 วันตั้งแต่ประกาศใช้นโยบายใหม่ด้านสินค้าปลอดภาษี ไห่หนานจำหน่ายสินค้าปลอดภาษีเฉลี่ยต่อวันมากถึงราว 100ล้านหยวน ไห่หนานทุกวันนี้เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาและกำลังเป็นจุดหมายปลายทางของทั้งชาวจีนและชาวต่างประเทศมากขึ้น

14,000 เท่า นี่คืออัตราการเติบโตอันน่าทึ่งในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาของผลิตภัณฑ์มวลรวมของเมืองเซินเจิ้น จากไม่ถึง 200 ล้านหยวน ในปี 1979 เพิ่มขึ้นเป็น 2.69 ล้านล้านหยวนในปี 2019 อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีสูงถึงร้อยละ 21.6

นิตยสาร The Economist ของอังกฤษ เคยแสดงความชื่นชมว่า ทั่วโลกมีเขตเศรษฐกิจพิเศษมากกว่า 4,000 แห่ง แต่แบบฉบับแห่งความสำเร็จมากที่สุดควรยกให้ปาฏิหาริย์เมืองเซินเจิ้น

ทุกวันนี้ การยื่นจดทะเบียนตั้งบริษัทในเมืองเซินเจิ้นใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบวินาที ในอดีตเคยมี การสร้างตึก 1 ชั้นภายใน 3 วัน ซึ่งถูกเรียกว่า ความเร็วแห่งเซินเจิ้น ปัจจุบัน มีการ คิดค้นสร้างระบบใหม่ภายใน 3 วัน ซึ่งถูกมองว่าเป็น ประสิทธิภาพใหม่แห่งเซินเจิ้น จากเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกของจีนมาสู่ เขตสาธิตนำร่องแห่งสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน แห่งแรก เมืองเซินเจิ้นกำลังยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นใหม่ ก้าวหน้าไปบนหนทางการสร้างแบบฉบับแห่งเมืองทันสมัยระดับโลก

อย่างไรก็ตาม บนพื้นที่ไม่ถึง 2,000 ตารางกิโลเมตรที่มีประชากรกว่า 20 ล้านคน เมืองเซินเจิ้ซึ่งถูกคาดหวังอย่างสูงจากรัฐบาลกลางและประชาชนทั่วประเทศ จะสามารถบรรลุการรวมตัวและไหลเวียนของทรัพยากรสำคัญต่าง ๆ ตลอดจนก้าวไปบนหนทางแห่งการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงได้ในอนาคตหรือไม่นั้นเป็นการทดสอบที่เขตสาธิตนำร่องแห่งนี้จำต้องค้นหาคำตอบให้ได้ ทั้งนี้ จะเป็นการสั่งสมประสบการณ์อันทรงคุณค่าและสามารถเลียนแบบได้อย่างแพร่หลายแก่เมืองใหญ่พิเศษด้านการแก้ไข ปัญหาคอขวดแห่งการพัฒนา

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน CMG