จีนประกาศสร้าง “เขตสาธิตความมั่งคั่งร่วมกัน” ในมณฑลเจ้อเจียง

0
7

วันที่ 10 มิถุนายน ปี 2021 จีนได้ประกาศ “ข้อคิดเห็นของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์และคณะรัฐมนตรีจีนว่าด้วยการสนับสนุนมณฑลเจ้อเจียงพัฒนาและสร้างสรรค์เขตสาธิตความมั่งคั่งร่วมกันอย่างมีคุณภาพสูง” กลายเป็นข่าวเด่นที่สร้างความสนใจแก่สื่อมวลชนทั้งในจีนและต่างประเทศเป็นอย่างมาก

ผู้สันทัดกรณีมองว่า การประกาศนโยบายดังกล่าวของทางการจีนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ทีมผู้นำจีนได้มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่แน่วแน่ยิ่งขึ้นที่จะบรรเทาและแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลด้านการพัฒนาภายในประเทศและความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ของประชาชน ย่อมมีความหมายอันลึกซึ้งและยาวไกลต่ออนาคตของประชาชนและประชาชาติจีน

พรรคคอมมิวนิสต์จีนถือการขจัดความยากจน ปรับปรุงคุณภาพชีวิตประชาชนและสร้างความมั่งคั่งร่วมกันเป็นภารกิจสูงสุดตั้งแต่วันก่อตั้งพรรค มุ่งแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจนและสร้างความมั่งคั่งร่วมกันผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ระบอบสังคมนิยมตลอดมา

เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำรุ่นที่สองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเคยกล่าวถึงแนวคิด “ความมั่งคั่งร่วมกัน” หลายครั้ง โดยชี้ว่าลักษณะพิเศษแห่งสังคมนิยมก็คือ “ความมั่งคั่งร่วมกัน” หาใช่ปล่อยให้มีความเหลื่อมล้ำแบบแยกเป็นสองขั้วไม่ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบสูงสุดของระบอบสังคมนิยม เป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้ของระบอบสังคมนิยม

       สี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดคนปัจจุบันของจีนก็ได้ชี้อย่างชัดเจนว่า ความมั่งคั่งร่วมกัน นั้น เป็นหลักการพื้นฐานของระบอบสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของจีน ดังนั้นจะต้องทำให้ผลสำเร็จของการพัฒนาได้รับการแบ่งปันสู่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสู่ทิศทางของการสร้างความมั่งคั่งร่วมกัน ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

“ความมั่งคั่งร่วมกัน” คืออะไร ในช่วงต้นปี 2014 นายสี จิ้นผิงเคยกล่าวไว้ในบทความว่าเค้ก” กำลังใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันต้องแบ่ง “เค้ก” ให้ดีด้วย แต่ไหนแต่ไรมาสังคมของเรามีแนวคิดเสมอว่า “ไม่ทุกข์จากการขาดแคลนแต่ทุกข์จากความไม่เท่าเทียมกัน” เราต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อส่งเสริมความเป็นธรรมและความยุติธรรมทางสังคมให้ดีบนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้านหนึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ อีกด้านหนึ่งก็ต้องคำนึงถึงขีดความสามารถ ต้องพยายามให้ประชาชนทุกคนมีความคืบหน้าใหม่อย่างต่อเนื่องในด้านการได้โอกาสเรียนหนังสือ มีรายได้จากการทำงาน ได้รับการรักษาพยาบาลจากแพทย์ยามเจ็บไข้ได้ป่วย  ได้รับการดูแลด้วยดียามเข้าสู่วัยชราและมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองข้อความนี้ได้อธิบายถึงความหมายของ “ความมั่งคั่งร่วมกัน” อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม

นับแต่การประชุมผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่ 18 เมื่อปี  2012 เป็นต้นมา ทางการจีนได้ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละตามเป้าหมายการสร้างความมั่งคั่งร่วมกันมาโดยตลอด ได้ประสบความสำเร็จในการขจัดความยากจนสุดขีดและการสร้างสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้าน ซึ่งถือเป็นการปูพื้นฐานอันแข็งแกร่งเพื่อเดินหน้าสร้างความมั่งคั่งร่วมกันในขั้นตอนการพัฒนาใหม่ในปัจจุบัน  

แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันปัญหาด้านการพัฒนาที่ไม่สมดุลและไม่เต็มที่ในจีนยังคงดำรงอยู่อย่างโดดเด่น ช่องว่างด้านการพัฒนาระหว่างเมืองกับชนบทและระหว่างภูมิภาคกับภูมิภาค ตลอดจนช่องว่างด้านรายได้ของประชาชนยังคงค่อนข้างมาก และยังห่างไกลจากเป้าหมายแห่งความมั่คั่งร่วมกัน พื้นฐานและเงื่อนไขของท้องที่ต่างๆ ในการขับเคลื่อนความมั่คั่งร่วมกันนั้นมีความแตกต่างกัน การบรรลุความมั่คั่งร่วมกันของประชาชนทั้งมวลเป็นภารกิจอันหนักหน่วงในระยะยาว ยากที่จะขับเคลื่อนอย่างพร้อมเพรียงกันในเวลาอันสั้นได้ มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องคัดเลือกพื้นที่ที่มีความพร้อมกว่านำหน้าทดลองก่อน เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่พื้นที่อื่นได้เลียนแบบ

สาเหตุที่เลือกมณฑลเจ้อเจียงเป็นเขตสาธิตก็เพราะว่าขนาดพื้นที่และโครงสร้างประชากรของเจ้อเจียงมีลักษณะความเป็นตัวแทนในทั่วประเทศจีน มณฑลนี้มีระดับความมั่คงค่อนข้างสูง สภาพการพัฒนาทางเศรษฐกิจทำให้มีพื้นฐานและความเหนือกว่าในการสร้างเขตสาธิตความมั่งคั่งร่วมกัน ปี 2020 ผลิตภัณฑ์มวลรวมเฉลี่ยต่อหัวของมณฑลเจ้อเจียงทะลุ 1 แสนหยวน รายได้ของชาวเมืองและชาวชนบทแยกกันครองอันดับ 1 ในเขตบริหารระดับมณฑลทั่วประเทศจีนติดต่อกันถึง 20 ปีและ 36 ปีตามลำดับ ดัชนีช่องว่างด้านรายได้ระหว่างชาวเมืองกับชาวชนบทในมณฑลเจ้อเจียงอยู่ในระดับ 1.96 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 2.56 ของทั่วประเทศค่อนข้างมาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้อเจียงได้ประสบผลสำเร็จที่เด่นชัดในการแสวงหาวิธีการแก้ปัญหาความไม่สมดุลด้านการพัฒนา มีผลงานบ้างแล้วในการคิดค้นสร้างสรรค์ระบบด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจการตลาด การปรับปรุงสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการทางสังคมเป็นต้น ในอนาคตเจ้อเจียงมีความพร้อมกว่ามณฑลอื่นๆ ในด้านการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ และการหลอมรวมเมืองกับชนบท เป็นต้น

“ข้อคิดเห็นของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์และคณะรัฐมาตรีจีนว่าด้วยการสนับสนุนมณฑลเจ้อเจียงพัฒนาและสร้างสรรค์เขตสาธิตความมั่งคั่งร่วมกันอย่างมีคุณภาพสูง” ได้พิจารณาวางแผนการสร้างระบบนโยบายและกลไกที่เอื้อต่อเรื่องนี้ โดยกำหนดยุทธศาสตร์ 4 ประการ ซึ่งถือเป็นด้านสำคัญที่ต้องการขจัดอุปสรรคและสร้างนวัตกรรมโดยด่วน ประกอบด้วย

ประการแรก  เขตนำร่องการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพสูง  ประการที่สอง เขตนำร่องการพัฒนาเมืองและชนบทอย่างสอดประสานกัน ประการที่สาม เขตทดลองการปฏิรูประบบการกระจายรายได้  และประการที่สี่ เขตชุมชนสาธิตที่สามัคคีกลมกลืน สวยงามและมีอารยธรรม

นายหลิว หยวนชุน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เขตสาธิตนำร่องความมั่คั่งร่วมกันมณฑลเจ้อเจียงถือเป็นการทดลองที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ด้านหนึ่งก็เพื่อเสนอต้นแบบแห่งความมั่คั่งร่วมกันแก่ประเทศชาติเรา และสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเหนือกว่าของระบอบสังคมนิยมอย่างเด่นชัด ทั้งยังต้องเสนอแนวทางและรูปแบบจีนแก่ทั่วโลกในการแก้ไขปัญหาการกระจายรายได้ที่แยกเป็นสองขั้ว

เขียนเรียบเรียงโดย Lu Yongjiang

เจ้าหน้าที่ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน