สีจิ้นผิงปลุกคนจีนให้ตื่น.. “ม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วลุยไปด้วยกัน”
โดย รศ.วิภา อุตมฉันท์
การประชุมสมัชชาครั้งที่ 20 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนปิดฉากลงแล้ว สื่อจากทุกมุมโลกติดตามทำข่าวอย่างใกล้ชิด แม้เหตุการณ์ทุกอย่างจะดำเนินไปเป็นปกติ แต่ด้วยความเคยชินแบบสื่อยุคเก่าที่ชอบหากินกับการกุข่าวความขัดแย้งในหมู่ผู้นำจีน ภาพอดีตผู้นำหูจิ่นเทาในวัย 80 เศษถูกประคองตัวออกจากที่ประชุม จึงไม่วายตกเป็นเป้าของการปล่อยข่าวแบบฮา ๆ ว่า “หูฯถูกสีฯสลายขั้ว” โดนคุมตัวออกจากห้องไปกักขังแล้ว!
การประชุมสมัชชาพรรคฯครั้งนี้จีนให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากเป็นการประชุมในวาระที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอายุครบ 100 ปีแล้ว ที่สำคัญยังเป็นการประชุมครั้งแรกในโอกาสที่พรรคฯ กำลังจะเข้าสู่วัย 100 ปีรอบที่ 2 ซึ่ง 100 ปีรอบใหม่นี้แหละที่ผู้นำจีนยืนยันแข็งกร้าวว่า “พรรคฯจะนำพาประเทศเดินทัพทางไกลสู่การพัฒนาจีนให้ยิ่งใหญ่และทันสมัยกว่าเก่า”
สีจิ้นผิงในฐานะเลขาธิการใหญ่ของ พคจ. กล่าวรายงานต่อที่ประชุมด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่น้ำเสียงหนักแน่นฟังชัดทุกถ้อยกระทงความ ด้วยเนื้อหาที่ใครจะกล่าวหาว่า สีฯ พูด “คำโต” ตลอดเกือบ 2 ชั่วโมงก็คงไม่ผิด 1) เนื้อหาในส่วนที่เป็นอดีต 10 ปีที่เขาเป็นผู้นำ สีฯ ใช้แต่คำโต ๆ แบบไม่อายใครว่า… “ เป็น 10 ปีที่จีนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ชนิดที่ประวัติศาสตร์ต้องให้การจารึก”…. “ลัทธิสังคมนิยมแบบจีนได้ยกระดับขึ้นสู่ขั้นที่เป็น (สังคมนิยม) สมัยใหม่แล้ว”
2) เนื้อหาในส่วนที่เกี่ยวกับภาระหน้าที่ที่ต้องทำในอนาคต น่าสังเกตว่าสมัชชาครั้งนี้จีนตั้งใจเน้นบทบาทของลัทธิมาร์กซ์ที่มีต่อความสำเร็จในอดีตที่ผ่านมาของจีนมากเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงเน้นย้ำต่อไปว่า ภารกิจที่พรรคฯจะต้องทำต่อไปในอนาคตข้างหน้า พรรคฯก็จะเชิดชูลัทธิมาร์กซ์และจะนำลัทธิมาร์กซ์ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับจีนและเหมาะกับยุคสมัยใหม่ที่เปลี่ยนไป… “ ลัทธิมาร์กซ์เป็นแนวคิดชี้นำของเราตั้งแต่การตั้งพรรคฯ การตั้งประเทศ การเติบใหญ่ของพรรคฯ และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ภาคปฏิบัติบอกเราว่าเหตุที่พรรคฯเราทำได้ เพราะลัทธิมาร์กซ์ปฏิบัติได้ ลัทธิมาร์กซ์ที่มีความเป็นจีนและทันยุคทันสมัยใช้การได้ การยึดมั่นหลักการที่เป็นวิทยาศาสตร์ของลัทธิมาร์กซ์เป็นความแน่วแน่ในศรัทธา และหนทางแห่งการปฏิบัติเชิงรุกของพรรคคอมมิวนิสต์จีน” ผู้นำหมายเลข 1 ของจีนประกาศกลางเวที
เมื่อ สีฯ วาดฝันอนาคตอันงดงามที่ พคจ.ตั้งเป้าจะบรรลุให้ได้ในอีก 5 ปีข้างหน้าจนคนฟังเคลิ้มได้ที่แล้ว เขาก็ฉวยจังหวะนี้กล่าวปลุกระดมคนจีนทั่วประเทศให้ลุกขึ้นช่วยเขาสานฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง… “ม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วลุยไปด้วยกัน”….. “เราเดินมาถูกทางแล้ว”… “ 5 ปีต่อแต่นี้ คือจุดเริ่มต้นที่เราจะทุ่มเทความพยายามทั้งหมดให้กับการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ขึ้นมาให้จงได้” (คนจีนฟังแล้วขนลุกซู่กันรึเปล่าไม่ทราบได้ !?)
เมื่อสีจิ้นผิงกล่าวรายงานจบ ผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 2296 คน ต่างแยกย้ายกันไปอภิปรายแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ก่อนจะนำกลับไปลงมติด้วยการโหวดรับรองรายงานที่เลขาธิการใหญ่ของพรรคฯนำเสนอ วาระสำคัญต่อจากนั้นคือการแก้ไขธรรมนูญของพรรคฯ และการเลือกตั้งกรรมการกลางพรรคฯ
การแก้ไขธรรมนูญพรรคฯ มีจุดที่ได้รับการแก้ไขและเพิ่มเติมประมาณ 50 จุด จุดสำคัญที่สุดเป็นไปตามที่ผู้เฝ้ามองจีนจากทั่วโลกพยากรณ์กันไว้ล่วงหน้า คือการเพิ่ม “วลีทอง” ที่สั้นกระชับและแสนธรรมดาลงไปในธรรมนูญพรรคฯ.. ว่าอีกอย่างน้อย 5 ข้างหน้า…
“จีนจะสร้างประเทศตามความคิดสังคมนิยมแบบจีนสมัยใหม่ของสีจิ้นผิง”
วลีสั้น ๆ ที่เรียกกันว่า “ความคิดสีจิ้นผิง” นี้คงเล่นเอาผู้นำหมายเลข 1 ที่นั่งฟังอยู่อีกฟากหนึ่งของโลกถึงกับนอนเกาหัว เพราะมันทั้งสั้นทั้งเป็นนามธรรมเสียจนตีความแทบไม่ออก ไม่รู้ว่าผู้นำหมายเลข 2 กำลังวางแผนจะใช้กลยุทธ์อะไรขึ้นมาชิงตำแหน่งผู้นำโลก ซ้ำร้ายการเลือกตั้งกรมการเมืองประจำ 7 คนชุดใหม่ก็ยังเป็นไปตามโผที่สื่อทำนายไว้ทุกประการ โปลิตบูโรทั้ง 7 ล้วนเป็นคนจาก “ก๊วนเดียวกัน” แสดงให้เห็นความเป็นเอกภาพทางการเมืองของจีนในยุคสีจิ้นผิงเสียอีกด้วย.. ฮัลโหล..มิสเตอร์โจ..จะเอาไงดี ?