เรื่องราวของสี จิ้นผิง กับมณฑลกวางตุ้ง (ตอนที่ 1)

0
8

ระหว่างวันที่ 10-13 เมษายน ค.ศ.2023 นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีนได้เดินทางไปยังเมืองจ้านเจียง เม่าหมิง และกวางโจว มณฑลกวางตุ้งเพื่อตรวจเยี่ยมวิสาหกิจ ท่าเรือและชนบท เขาเน้นย้ำว่ามณฑลกวางตุ้งเป็น กองกำลังแนวหน้า” “พื้นที่นำร่องและ เขตทดลองการปฏิรูปและการเปิดประเทศ มีสถานะที่สำคัญและมีบทบาทที่โดดเด่นในการสร้างสรรค์ความทันสมัยแบบจีนโดยรวม ต้องยึดมั่นเป้าหมายการสร้างประเทศให้เข้มแข็งไกรเกรียงและการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของชาติ มุ่งเน้นไปที่ภารกิจอันดับแรกอันได้แก่การพัฒนาคุณภาพสูงและภารกิจเชิงยุทธศาสตร์อันได้แก่การสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่ นำพาทั่วประเทศมุ่งสู่ารปฏิรูปเชิงลึกอย่างรอบด้าน ขยายการเปิดประเทศระดับสูง ยกระดับการพึ่งพาตนเองและพัฒนาตนเองให้มีความแข็งแกร่งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้างระบบอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ​​ส่งเสริมการพัฒนาที่ประสานสอดคล้องกันระหว่างเมืองกับชนบทและระหว่างภูมิภาคกับภูมิภาค และด้านอื่น ๆ ตลอดจนนำพาทั่วประเทศให้เกิดความก้าวหน้าและความทันสมัยแบบจีน

นายสี จิ้นผิงให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานของมณฑลกวางตุ้ง ตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศ ครั้งที่ 18เป็นต้นมา เขาได้ไปตรวจเยี่ยมมณฑลกวางตุ้งมาแล้ว 4 ครั้ง ได้ร่วมประชุมกับคณะผู้แทนมณฑลกวางตุ้งในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ 2 ครั้ง ได้ให้คำแนะนำที่สำคัญหลายครั้งเกี่ยวกับการทำงานในกวางตุ้งให้ดี ได้มอบโอกาส เวทีและภารกิจที่สำคัญให้กับมณฑลกวางตุ้ง

ผลักดันการปฏิรูปและเปิดประเทศต่อไป

เมื่อเดือนธันวาคมปี 2012  การเดินทางออกจากกรุงปักกิ่งเพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ครั้งแรกของนายสี จิ้นผิงภายหลังการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศ ครั้งที่ 18โดยได้ไปที่มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นแนวหน้าแห่งการปฏิรูปและการเปิดประเทศที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลจีนใต้ ณ สวนสาธารณะเหลียนฮวาซาน นายสี จิ้นผิงได้วางกระเช้าดอกไม้ที่รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของสหายเติ้ง เสี่ยวผิง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา

เรามาสักการะรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของสหายเติ้ง เสี่ยวผิง ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราจะส่งเสริมการปฏิรูปและการเปิดประเทศต่อไปอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง ทุ่มเทที่จะขับเคลื่อนการปฏิรูป การเปิดประเทศ และการสร้างสรรค์ความทันสมัยให้มีความคืบหน้าใหม่ บรรลุความก้าวหน้าใหม่ และก้าวขึ้นสู่ระดับใหม่ นายสี จิ้นผิงกล่าวอย่างหนักแน่นว่า หนทางแห่งการสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศชาติและประชาชน ต้องเดินหน้าต่อไปอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ อีกทั้งต้องมีการบุกเบิกพัฒนาใหม่ และต้องก้าวขึ้นสู่ระดับใหม่

การปฏิรูปและการเปิดประเทศเป็นการตื่นตัวครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในเวลานั้น นายเติ้ง เสี่ยวผิง นักออกแบบใหญ่การปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีนได้ปลุกพลังที่หลับใหลของจีนให้ตื่นขึ้น  นำมาซึ่งการเปิดบทใหม่ของประวัติศาสตร์การปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีน

ในยุคใหม่ นายสี จิ้นผิงเป็นผู้นำการปฏิรูปเชิงลึกรอบด้านซึ่งถือเป็นการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ด้วยตนเอง เพื่อนำพาภารกิจการปฏิรูปและการเปิดประเทศสู่การเดินทางที่กว้างขวางและยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น

เมื่อเดือนตุลาคมปี 2000 นายสี จิ้นผิงเดินทางไปที่สวนสาธารณะเหลียนฮวาซานอีกครั้ง และวางกระเช้าดอกไม้ที่รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของสหายเติ้ง เสี่ยวผิง เพื่อประกาศความมุ่งมั่นความตั้งใจอันแน่วแน่อีกครั้งว่า ไม่หยุดการปฏิรูปและการเปิดประเทศ

ขณะมองไปยังต้นกร่างที่ปลูกไว้เองเมื่อแปดปีก่อน ซึ่งเติบโตงอกงาม นายสี จิ้นผิงกล่าวอย่างมีความหมายอันลึกซึ้งว่า แปดปีแล้ว แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส สถานที่ที่นี่เลือกไว้ได้ดีมาก เรือนยอดไม้สามารถแผ่ขยายกว้างออกไป ต้นไม้ก็เติบโตไว

ต้นกร่างที่สูงตระหง่านแผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา กำลังเติบโตอย่างแข็งแรงบนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์แห่งการปฏิรูปและการเปิดประเทศ ปลดปล่อยพลังที่คึกคักมีชีวิตชีวา

เซินเจิ้นเป็นเมืองใหม่ที่สร้างขึ้นโดยพรรคและประชาชนหลังจากการปฏิรูปและการเปิดประเทศ มันเป็นการสื่อความหมายถึงความอดเยี่ยมของสังคมนิยมที่มีอัตลักษณ์จีนบนกระดาษเปล่าสีขาว” “นี่คือ สิ่งมหัศจรรย์ประการหนึ่งในประวัติศาสตร์การพัฒนาของโลกที่สร้างขึ้นโดยประชาชนจีนนายสี จิ้นผิงกล่าว

งานทั้งหมดของพรรคก็เพื่อแก้ไขปัญหาความยากลำบากและแสวงหาความสุขให้กับประชาชน

การทุ่มเทเพื่อสร้างหลักประกันและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงเพิ่มพูนความรู้สึกได้รับประโยชน์ มีความสุข และมีความมั่นคงของประชาชนนั้น เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในความคิดของสี จิ้นผิง ในระหว่างการตรวจเยี่ยมที่มณฑลกวางตุ้ง นายสี จิ้นผิงได้พูดคุยกับประชาชนครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อรับฟังเสียงของประชาชน ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของประชาชน และปลอบขวัญให้กำลังใจประชาชน

เมื่อปี 2012  ณ หมู่บ้านหวงหลง เมืองซุ่นเต๋อ  นายสี จิ้นผิงเดินเข้าไปในบ้านอิฐหลังเตี้ยๆ เพื่อเยี่ยมครอบครัวของจาง ซีเหยาซึ่งยากไร้เนื่องจากเจ็บป่วย ได้พูดคุยกับพวกเขาเป็นเวลานาน รับรู้ปัญหาความยากลำบากและรับฟังความต้องการของครอบครัวนี้ เมื่อได้ฟังว่าจาง เจี่ยนน่า  ลูกสาวของจาง ซีเหยา กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 3  มีความขยันหมั่นเพียรในการเรียน นายสี จิ้นผิงจึงได้ให้กำลังใจเธอว่า ต้องคิดบวกและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และก่อนกลับได้มอบ พจนานุกรมภาษาจีนสมัยใหม่” “พจนานุกรมภาษาอังกฤษภาษาจีนและหนังสืออื่นๆให้เธอด้วย

เมื่อปี 2018 ณ หมู่บ้านเหลียนจาง ตำบลเหลียนเจียงโข่ว เมืองอิงเต๋อ นายสี จิ้นผิงนั่งรถยนต์ไปตามถนนบนภูเขาที่ขรุขระเพื่อเยี่ยมชาวบ้าน ผมคิดถึงบรรดาชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ยากจนมาโดยตลอด ตราบใดที่พวกเขาไม่หลุดพ้นความยากจน ตราบนั้นผมก็จะไม่วางใจนายสี จิ้นผิงกล่าวว่า พรรคของเราเป็นพรรคที่รับใช้ประชาชนด้วยความตั้งอกตั้งใจอย่างเต็มที่ งานทั้งหมดของพรรคก็เพื่อแก้ไขปัญหาความยากลำบากและแสวงหาความสุขให้กับประชาชน บนหนทางสู่สังคมพอกินพอใช้รอบด้านจะทิ้งใครอยู่ข้างหลังไม่ได้ การขจัดความยากจนสู่ความมั่งคั่งจะปล่อยให้ใครตกขบวนไม่ได้

คำพูดที่เปี่ยมด้วยความรักอันลึกซึ้งของนายสี จิ้นผิง เป็นภาพสะท้อนงานทั้งหมดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งก็คือการแก้ไขปัญหาความยากลำบากและแสวงหาความสุขให้กับประชาชน

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)