ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์“จวินเฉ่า”แห่งแรกของจีน– เส้นทางสี จิ้นผิง(44)

0
13
นายหลิน จ้านซี(สองจากซ้าย)กำลังตรวจดูการเติบโตของจวินเฉ่ายักษ์ที่ฐานเพาะจวินเฉ่าในอำเภอเหลียนเฉิง เมืองหลงเหยียน มณฑลฝูเจี้ยน (ภาพโดยหนังสือพิมพ์ฝูเจี้ยนเดลี่)

การไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งเป็นเวลายาวนานเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงวิภาษวิธีระหว่างการบรรเทาความยากจนผ่านการพัฒนาอุตสาหกรรมกับการพิทักษ์ระบบนิเวศ ทำให้นายสี จิ้นผิงให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเทคโนโลยีจวินเฉ่า

ในระหว่างการประชุม “สองสภา”(สภาผู้แทนประชาชนและสภาปรึกษาการเมือง)ของมณฑลฝูเจี้ยนเมื่อต้นปี ค.ศ. 2001 นายหลิน จ้านซี ในฐานะกรรมการสภาปรึกษาการเมืองประจำมณฑลฝูเจี้ยนได้กล่าวสุนทรพจน์พิเศษต่อที่ประชุมสภาปรึกษาการเมืองประจำมณฑล โดยขอให้ตั้งห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จวินเฉ่าในมหาวิทยาลัยเกษตรและป่าไม้ฝูเจี้ยน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดเทคโนโลยีจวินเฉ่า

ณ เวลานั้น ด้วยการสนับสนุนของมณฑลฝูเจี้ยน หลายประเทศได้สร้างห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จวินเฉ่าประเภทต่างๆตามลำดับ ภายในจีนเขตบริหารระดับมณฑลจำนวนไม่น้อยก็กำลังพยายามตามให้ทัน แต่ทว่าทรัพยากรทางเทคโนโลยีที่มีอยู่ในสถาบันวิจัยจวินเฉ่าของมหาวิทยาลัยเกษตรและป่าไม้ฝูเจี้ยนนั้นไม่ค่อยเอื้อ ทำให้นายหลิน จ้านซีเกิดความกังวลว่า “หากไม่เร่งปรับปรุงปัจจัยที่ใช้ในการทดลองการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ ฝูเจี้ยนจะไม่สามารถรักษาสถานะที่เป็นแหล่งกำเนิดของเทคโนโลยีจวินเฉ่าทั้งในระดับสากลและภายในประเทศได้” เขาคาดหวังให้มณฑลฝูเจี้ยนจัดสรรงบโครงการพิเศษ 1 ล้านหยวนเพื่อสนับสนุนมหาวิทยาลัยเกษตรและป่าไม้ฝูเจี้ยนในการสร้างห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จวินเฉ่า เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำด้านเทคโนโลยีจวินเฉ่าของฝูเจี้ยน

สุนทรพจน์นี้ได้รับการแก้ไขเพิ่มเติมโดยที่ประชุมและเป็นข้อเสนอสําคัญของกรรมการสภาปรึกษาการเมืองประจำมณฑล

นายสี จิ้นผิง ผู้ว่าการมณฑลฝูเจี้ยนในขณะนั้น ได้ฟังสุนทรพจน์พิเศษของนายหลิน จ้านซี ต่อจากนั้นได้เขียนคําแนะนําในข้อเสนอฉบับนี้พร้อมสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง

เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2001 หน่วยงานที่ศึกษาเรื่องนี้สรุปผลการพิจารณาออกมา ลงความเห็นว่า “เทคโนโลยีการเพาะเห็ดกินได้โดยใช้จวินเฉ่าเป็นวัตถุดิบนั้นเป็นเพียงหนึ่งใน“การเพาะเห็ดที่ใช้วัตถุดิบอื่นทดแทนไม้”ในอุตสาหกรรมเห็ดเท่านั้น จึงไม่เหมาะสมที่จะตั้งห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จวินเฉ่า ”

เมื่อวันที่ 30 กันยายนปีเดียวกัน นายสี จิ้นผิงได้เขียนคําแนะนําในรายงานผลการพิจารณาเรื่องนี้ว่า “สมควรแจ้งให้มหาวิทยาลัยเกษตรและป่าไม้ฝูเจี้ยนและศาสตราจารย์หลินทราบ ”

หลังได้รับแจ้งผลการพิจารณา อารมณ์ของนายหลิน จ้านซีก็ยากที่จะสงบเป็นเวลานาน

ในฐานะที่เป็นวิทยาศาสตร์สาขาใหม่ เทคโนโลยีจวินเฉ่าทําลายขอบเขตทางวิทยาศาสตร์ระหว่างไม้ หญ้า และเห็ด ได้บุกเบิกเทคโนโลยีใหม่เอี่ยม แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสงสัยมานานกว่าสิบปี

นายหลิน จ้านซีรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย แต่คําแนะนําสั้น ๆ ของนายสี จิ้นผิงทําให้เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ดูเหมือนยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ “เมื่อท่านสั่งให้แจ้งผลการพิจารณาศึกษานี้ให้กับผม นั่นหมายความว่าท่านยังคงต้องการขอความเห็นจากผม”

ความมั่นใจของนายหลิน จ้านซียังมาจากคําปราศรัยของนายสี จิ้นผิงในที่ประชุมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตรมณฑลฝูเจี้ยนเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2001 ซึ่งขณะพูดถึงการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตรนั้น นายสี จิ้นผิงได้กล่าวถึงนายหลิน จ้านซีและเทคโนโลยีจวินเฉ่าที่เขาคิดค้นขึ้นว่า”ในการช่วยเหลือเขตหนิงเซี่ยแบบจับคู่ เราได้ผลักดันเขา(นายหลิน จ้านซี”)ออกไป(แสดงบทบาท)และในการช่วยเหลือจังหวัดไฮแลนด์ตะวันออกของปาปัวนิวกินีเราก็ผลักดันเขาออกไปอีก การที่เราสร้างความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกับจัดหวัดไฮแลนด์ตะวันออกได้นั้น ก็สืบเนื่องจากการสานสัมพันธ์โดยเขาและเทคโนโลยีจวินเฉ่านั่นเอง ”

คําพูดให้กําลังใจของนายสี จิ้นผิงยังคงดังก้องอยู่ในหูของเขา หลังคิดใคร่ครวญ นายหลิน จ้านซีจึงตัดสินใจเขียนจดหมายถึงนายสี จิ้นผิง ในจดหมายเขาเน้นย้ำอีกครั้งถึงความเร่งด่วนในการปรับปรุงเงื่อนไขการทดลองทางวิทยาศาสตร์และส่งเสริมการศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับจวินเฉ่าว่า”สถานะระดับสูงสุดด้านเทคโนโลยีจวินเฉ่าอาจถูกแทนที่โดยประเทศหรือมณฑลอื่น ๆ  ความเหนือกว่าทางด้านเทคโนโลยีจวินเฉ่าที่เรามีในโลกก็อาจจะสูญหายไป”

เมื่อนายสี จิ้นผิงได้รับจดหมายแล้วได้ส่งให้กรมการศึกษาของมณฑลฝูเจี้ยนเพื่อทำการพิจารณาศึกษา เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 2002 หลังผ่านการสำรวจและศึกษาค้นคว้าหลายครั้ง กรมการศึกษาได้ส่งรายงานไปยังมณฑลโดยลงความเห็นว่า มีความจำเป็นที่จะขยายและลงลึกการวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีจวินเฉ่า รวมถึงควรรักษาตำแหน่งผู้นําในด้านนี้ต่อไป ควบคู่ไปกับการเพิ่มปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการทดลองนั้นควรให้มหาวิทยาลัยฯดําเนินการวางแผนแบบครบวงจรเกี่ยวกับการจัดสรรบุคลากร การสร้างทีมวิจัย สถานที่ทดลอง การจัดตั้งหน่วยงาน ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาค้นคว้าเทคโนโลยีจวินเฉ่า เพื่อส่งเสริมให้การศึกษาวิจัยเทคโนโลยีจวินเฉ่ากลายเป็นหนึ่งในสาขาที่มีข้อได้เปรียบและเอกลักษณ์ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของมหาวิทยาลัยเกษตรและป่าไม้ฝูเจี้ยน

มหาวิทยาลัยเกษตรและป่าไม้ฝูเจี้ยน (ภาพจากแฟ้ม)

เมื่อวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2002 ในรายงานผลการพิจารณาที่ส่งโดยกรมการศึกษามณฑล นายสี จิ้นผิงได้ลงความเห็นซึ่งถือเป็นข้อสรุปว่า “เทคโนโลยีจวินเฉ่าเป็นผลสําเร็จด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่มีความได้เปรียบของฝูเจี้ยน ซึ่งมีอิทธิพลอย่างกว้างไกล ควรได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อการพัฒนาอีกระดับ” “โครงการนี้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงมากว่าโครงการอื่นๆ มีประสิทธิผลทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม”

ไม่นานทางมณฑลได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดําเนินการตามคำสั่ง ที่ประชุมตัดสินใจที่จะจัดสรรเงิน 1 ล้านหยวนเพื่อสนับสนุนการสร้างห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จวินเฉ่าในมหาวิทยาลัยเกษตรและป่าไม้ฝูเจี้ยน นี่เป็นห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จวินเฉ่าแห่งแรกในประเทศจีน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นายหลิน จ้านซีได้คัดกรองและเพาะเลี้ยงจวินเฉ่ารวม 46 ชนิดจากหญ้าป่าและไม้ล้มลุกที่ปลูกขึ้น ได้พัฒนาเทคโนโลยีจวินเฉ่าอเนกประสงค์สําหรับการเพาะเห็ดที่ใช้ประโยชน์ทางด้านอาหารและยา และการผลิตอาหารสัตว์จวินเฉ่า อาหารสัตว์เชื้อราจวินเฉ่าและปุ๋ยเชื้อราจวินเฉ่า

“หากปราศจากการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งของสหายสี จิ้นผิง ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จวินเฉ่ามณฑลฝูเจี้ยนก็คงไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้” นายหลิน จ้านซีมักจะพูดถึงประสบการณ์ที่ไม่ราบรื่นนี้ เขากล่าวว่าด้วยห้องปฏิบัติการนี้ถึงมีแพลตฟอร์มนวัตกรรมเทคโนโลยีจวินเฉ่าระดับชาติสามแพลตฟอร์มในภายหลังอันได้แก่ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีวิศวกรรมจวินเฉ่าแห่งชาติ ศูนย์วิจัยวิศวกรรมร่วมระหว่างหน่วยงานส่วนกลางกับท้องถิ่นในด้านเทคโนโลยีการพัฒนาและการใช้ประโยชน์จากจวินเฉ่าอย่างครอบคลุม และศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมนิเวศวิทยาจวินเฉ่าที่ร่วมกันสร้างขึ้นโดยกระทรวงและมณฑล และเทคโนโลยีจวินเฉ่ายังได้รับการกำหนดให้เป็นโครงการ “กองทุนสันติภาพและการพัฒนาจีน – สหประชาชาติ” ของสำนักงานกิจการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ จึงได้รับการส่งเสริมให้มีการเผยแพร่ไปทั่วโลก

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)

ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่

http://www.tcjapress.com/2023/07/21/xi-way-43