ควบตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียง- เส้นทางสี จิ้นผิง (68)

0
5
วันที่ 20 กันยายน ค.ศ.1990 นายสี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองฝูโจวและอธิการบดีมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียงในขณะนั้น  เดินทางไปตรวจเยี่ยมมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียง

ขณะทำงานที่เขตหนิงเต๋อ นายสี จิ้นผิง สังเกตเห็นว่า พื้นที่ภาคตะวันออกมณฑลฝูเจี้ยนซึ่งเรียกย่อ ๆ ว่า หมิ่นตง นั้นส่วนใหญ่เป็นชนบท จึงควรมีคุณลักษณะทางการศึกษาที่ “เปี่ยมด้วยกลิ่นโคลน” “เป้าหมายของเรา คือ การปลูกฝังผู้ทำงานที่มีความรู้มากขึ้นที่สามารถขจัดความยากจนสู่ความมั่งคั่งได้ ด้วยเหตุนี้ จำต้องผสมผสานการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานกับการพัฒนาอาชีวศึกษาและการศึกษาผู้ใหญ่เข้าด้วยกัน”

อาชีวศึกษาถือเป็นรูปแบบการศึกษาที่สามารถเข้าถึงการจ้างงานและการบรรเทาความยากจนได้เร็วที่สุด

ในช่วงเริ่มแรกของการปฏิรูปและเปิดประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่ท้องถิ่นต้องการอย่างเร่งด่วน รัฐบาลกลางได้ออกนโยบายพิเศษโดยอนุญาตให้ทางการท้องถิ่นทุกระดับสามารถเปิดมหาวิทยาลัยในท้องถิ่นสำหรับปลูกฝังบุคลากรที่ตนเองต้องการได้ ตั้งแต่ปี 1981 เป็นต้นไป มหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาจำนวนมากจึงได้ถือกำเนิดขึ้นทั่วประเทศ ในจำนวนนี้รวมถึงมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียง (เรียกย่อว่า “หมิ่นต้า”) ซึ่งก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1984 ด้วย

ในช่วงแรกๆมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียงบริหารงานร่วมกันโดยมหาวิทยาลัยฝูโจวและมหาวิทยาลัยครูฝูเจี้ยน ไม่มีอาคารเรียน ไม่มีอาจารย์ ไม่มีอุปกรณ์ เป็นที่รู้จักในชื่อโรงเรียน “สามไม่มี” และอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

หลังนายสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองฝูโจว ก็ได้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียงด้วย

วันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1990 นายสี จิ้นผิง ต้องกล่าวสุนทรพจน์อย่างกะทันหันในการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่และการประชุมว่าด้วยกองทัพและประชาชนร่วมกันสร้างสรรค์จิตวิญญาณของอารยธรรมสังคมนิยมแห่งมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียงประจำปี 1990

“มหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียงเริ่มต้นจากศูนย์แต่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับในปัจจุบันนี้ได้นั้น ที่สำคัญเป็นเพราะ‘การต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคและความยากลำบาก การจัดการเรียนการสอนอย่างประหยัด’” เขาชี้ให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียงควรสานต่อประเพณีที่ดีนี้ต่อไปด้วยการส่งเสริมการขยันทำงานหนักต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคและความยากลำบากและการจัดการเรียนการสอนอย่างประหยัด พยายามแก้ปัญหาทางการเงินในการจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพผ่านช่องทางและรูปแบบอันหลากหลาย ปรับปรุงเงื่อนไขในการจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำงานทุกด้านของโรงเรียนให้ดียิ่งขึ้น

หลังเสร็จสิ้นการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ก็ได้จัดการประชุมต่อ ณ ที่นั้นในทันที ในเวลานั้นมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียงกำลังประสบปัญหามากมาย ภารกิจเร่งด่วนที่สุดคือคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติจะเข้าตรวจสอบเพื่อรับรองผล “การปรับปรุงแก้ไข” ตามที่กำหนดไว้ในปี 1991 เรื่องนี้มีอยู่ว่าเมื่อปี 1998 คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติจีนได้ประกาศรายชื่อสถาบันอุดมศึกษาจำนวนหนึ่งที่สภาพการเรียนการสอนไม่ได้มาตรฐานและจำเป็นต้องดำเนินการปรับปรุงและแก้ไขซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียงด้วย เนื่องจากพื้นที่วิทยาเขต 35 โหม่ว (ราว 14.58 ไร่) และอาคาร 3 หลัง ซึ่งเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกด้านฮาร์ดแวร์ยังห่างไกลจากมาตรฐานการตรวจสอบและการรับรอง นายสี จิ้นผิง ได้ให้คำแนะนำที่ชัดเจนว่าต้องวางแผนล่วงหน้าและเร่งนำไปปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง

ที่ประชุมครั้งนี้ได้หยิบยกประเด็นต่างๆ ขึ้นพิจารณา เช่น ปัญหาด้านบุคลากร สิ่งอำนวยความสะดวกด้านฮาร์ดแวร์ ที่อยู่อาศัยของคณาจารย์ และเงินทุนในการจัดการเรียนการสอน เป็นต้น

สิ่งที่สามารถได้ข้อสรุปก็ดำเนินการแก้ไขทันที สำหรับเรื่องที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ในช่วงเวลาสั้นๆก็จะถูกรวมไว้ในกำหนดการประมวลผลด้วย นายสี จิ้นผิง ให้คำมั่นสัญญา ณ จุดนั้นว่า “เริ่มจากผมเป็นต้นไป จะไม่เป็นผู้นำสถาบันการศึกษาที่แค่มาดำรงตำแหน่งเฉยๆ หากจะใส่ใจเกี่ยวกับการสร้างสรรค์สถาบันการศึกษาแห่งนี้จริงๆ และแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมอย่างทันท่วงที”

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 ซึ่งเป็นวันที่ 29 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติจีน นายสี จิ้นผิงได้รับเชิญให้เข้าร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนครั้งแรกหลังจากมาดำรงตำแหน่งที่เมืองฝูโจวร่วมกับตัวแทนอาจารย์จากมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียง

อาหารค่ำจัดขึ้นที่ห้อง 601 ของหอพักคณาจารย์และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียงซึ่งตั้งอยู่ที่อาคาร 18 ชุมชนเหอหนานซินชุน เขตกู่โหลว เมืองฝูโจว ผู้เข้าร่วมนำเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารมาเองพร้อมกับข้าวจานพิเศษที่ตนเองถนัดสองจาน โดยสมาชิกครอบครัวของพวกเขาจะจัดส่งขึ้นไปชั้นบนทุก ๆ สิบกว่านาที อาหารมื้อนี้รวมถึง ผัดสามอย่างสไตล์ฝูเจี้ยน (เนื้อหมู กุ้งและปลาหมึก) ไข่ฝูหรง ขนมหยวนเซียวสไตล์ฉวนโจว ไวน์ข้าวหมักเอง และซุปลูกชิ้นปลา บนโต๊ะอาหารชั่วคราวที่ใช้โต๊ะหลายตัวตั้งต่อๆกัน นายสี จิ้นผิง กับตัวแทนครูกว่า 20 คนนั่งรอบโต๊ะ พูดคุยข่าวคราวสารทุกข์สุกดิบ เช่น เรื่องเกี่ยวกับครอบครัว โรงเรียน การศึกษา และวิธีการปรุงอาหารแต่ละจาน เสียงหัวเราะอันเปี่ยมด้วยความสุขดังขึ้นเป็นระยะๆ

“การรวมตัวสองชั่วโมงครั้งนี้เรียบง่ายแต่อบอุ่น ท่านอธิการบดีสี จิ้นผิงมีความเป็นกันเองกับทุกคน ท่านเคารพนับถือคณาจารย์และให้ความสำคัญกับการศึกษา ซึ่งทำให้บรรดาครูอาจารย์ต่างรู้สึกสบายใจ” นายซุน ฟางจง รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาหมิ่นเจียงในขณะนั้นเล่าย้อนหลังให้ฟัง

แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)

ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่

https://www.tcjapress.com/2023/12/29/xi-way-67/