ทำไมต้องภาษาจีน? ถอดบทเรียนจาก 3 สาวแวดวงธุรกิจ

0
2732

เมื่อไม่นานมานี้ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดงาน “เทศกาลวัฒนธรรมไทย-จีน” ส่งเสริมความสัมพันธ์นักศึกษาไทยและนักศึกษาจีน ภายในงานมีการแสดงโขน-เชิดสิงโตสุดอลังการ และเต็มไปด้วยกิจกรรมดีๆมากมาย นอกจากนี้ยังมีอีกไฮไลต์บนเวที นั่นคือการเสวนาในหัวข้อ “ความสำคัญของภาษาจีนในโลกธุรกิจ” โดยวิทยากร 3 สาวคนเก่ง ได้แก่ คุณพนมพร แช่เจ็ง (ปุ้ย) เจ้าของโรงเรียนสอนภาษาจีนฮุ่ยจง และอาจารย์สอนภาษาจีนในโรงเรียนนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ คุณอาภรณ์ ภูสิทธิ์อนันต์ (กิมจู) นายสถานี สายการบินเสฉวนแอร์ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และคุณวิภาดา โรจน์ปริญญาวุฒิ (โบว์) เจ้าของธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ All Accessories เราจึงขอนำข้อคิดดีๆที่ได้จากการเสวนาครั้งนี้มาฝาก

รู้จัก 3 สาวที่ใช้ภาษาจีนเป็นอาวุธเด็ด
คุณปุ้ย : มาจากเชียงใหม่ ทำงานที่โรงเรียนนานาชาตินครเชียงใหม่ ต่อปริญญาโทที่ไต้หวัน
คุณกิมจู : จบคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำงานนายสถานีสายการบินเสฉวนแอร์ไลน์ ที่สนามบินเชียงใหม่
คุณโบว์ : จบคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ทำธุรกิจออนไลน์

ทำไมถึงคิดจะเรียนภาษาจีนอย่างเป็นจริงเป็นจัง
คุณปุ้ย : เริ่มเรียนภาษาจีน 3-4 ปีที่ผ่านมา แล้วตัดสินใจต่อปริญญาโทที่ไต้หวันแต่สมัครเรียนอินเตอร์ภาษาอังกฤษล้วน พอไปถึงแล้วเกิดปัญหาการใช้ชีวิตประจำวันในการสนทนา เช่นการสั่งอาหาร หรือไปข้างนอก คนที่นั่นไม่พูดภาษาอังกฤษกัน จึงตัดสินใจเรียนภาษาจีนอย่างจริงจัง (เรียนจริงจัง 4 ปี)
คุณกิมจู : ที่บ้านเป็นครอบครัวจีนอยู่แล้ว ปกติฟังได้พูดได้แต่อ่านไม่ได้เขียนไม่ได้ เคยโดนที่บ้านบังคับให้ไปอยู่ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ในช่วงมัธยม และติดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น หลงทางหรือการสั่งอาหาร พอกลับมาประเทศไทยจึงเริ่มเรียนภาษาจีนอย่างจริงจัง (เรียนจริงจัง 4 เดือนขึ้นไป)
คุณโบว์ : ช่วงมัธยมมีเลือกเสรีที่ต้องเรียนจึงเลือกเรียนจีน เพราะครอบครัวมีเชื้อสายจีนแต่เรียนอาทิตย์ละครั้งแล้วทักษะไม่ได้พัฒนาขึ้น พอเรียนจบมหาวิทยาลัยรู้สึกว่าภาษาจีนยังไม่แข็งแรงจึงตัดสินใจเทคคอร์ส 1 ปี (เรียน 1 ปี)

ทั้งนี้ ทั้ง 3 ท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ภาษาจีนถ้าเรียนอย่างจริงจัง 1 ปีก็เก่งแล้ว พูดได้ฟังได้เขียนได้

อยากเก่งภาษาจีน ต้องไปอยู่ประเทศจีนหรือไม่
คุณปุ้ย : คิดว่าไม่จำเป็นเพราะว่าคนที่มาเรียนที่โรงเรียนสอนภาษาก็เริ่มจากไม่มีพื้นฐานบางคนอายุ 40-50 ปี แต่ที่จำเป็นในการเรียนภาษาจีนคือการได้สนทนากับคนจีน เพราะเราจะมีความกระตือรือร้นในการจำด้วยตัวเอง
คุณกิมจู : คิดว่าไม่จำเป็นเสมอไป ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล เพราะว่าบางคนเรียนในประเทศไทย มีความจริงจัง อดทนก็สามารถเก่งได้ แต่บางคนไปเรียนที่ประเทศจีนสภาพแวดล้อมจะเป็นการบังคับให้เราได้เรียนรู้ภาษาโดยอัตโนมัต
คุณโบว์ : คิดว่าขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเพราะว่าถ้ามีความตั้งใจจริง อยู่ไทยก็เรียนได้เหมือนกัน สิ่งที่สำคัญคือการใช้ชีวิต ถ้าเราอยู่ต่างประเทศอยู่แต่หอ นั่งอ่านหนังสือก็จะไม่ค่อยได้ประโยชน์ไม่ต่างกับการอยู่ประเทศไทย

ภาษาจีนมีความก้าวหน้าในการทำธุรกิจหรือการทำงานอย่างไร
คุณปุ้ย : ภาษาจีนในปัจจุบันมีความเปิดกว้างมากกว่าแต่ก่อน ประเทศจีนก็มีทุนรับนักษาต่างชาติเยอะแยะ วัฒนธรรม การใช้ชีวิต และสิ่งต่างๆมีความใกล้เคียงกับประเทศไทยมาก เพราะฉะนั้นด้านการศึกษาจึงคิดว่ามีความจำเป็นที่นักศึกษาจะต้องเรียนภาษาที่ 3
คุณกิมจู : จะเป็นการทำงานเกี่ยวกับบริษัทจีนซึ่งตอนไปสัมภาษณ์งานทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผ่านการสัมภาษณ์ คือภาษาจีนเพราะแตกต่างจากคนอื่น ไม่ว่าการส่งเรซูเม่ภาษาจีน การสัมภาษณ์ จึงได้ตำแหน่งงาน สเตชั่น เมเนเจอร์
คุณโบว์ : เดิมทีเริ่มธุรกิจจากการสั่งเสื้อผ้าที่ผลิตจากไทยขายตามสื่อออนไลท์ จากนั้นก็หาสินค้าอื่นเพิ่มที่เป็นกระเป๋า จึงหาจากเว็บเถาเป่า และอาลีบาบา แล้วสินค้ามีเยอะมากจึงตัดสินใจบินไปกวางโจวเพื่อเลือกสินค้าเองเลย จึงได้ใช้ภาษาจีนที่เคยเรียนมาติดต่อการค้าได้เลย ต่อมาอยากขายเครื่องประดับเพิ่มจึงได้ทำเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และตัวสินค้าต่อยอดให้ดูมีความโมเดิร์นมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า

อยากเก่งภาษาจีน ควรสนใจวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์จีน ฯลฯ
คุณปุ้ย : ชอบเรื่องอาหาร ซึ่งประเทศจีนในแต่ละภาคจะมีอาหารที่ขึ้นชื่อ มีรสชาติแตกต่างกัน เลยเริ่มสนใจศึกษาจึงรู้ว่า อาหารแต่ละภาคมาจากวัฒนธรรม บางภูมิภาคทานรสจัด บ้างทานของร้อน จึงเอาวัฒนธรรมที่ได้เรียนรู้ และนำมาสอนที่ประเทศไทย ให้เข้าใจคนจีนมากขึ้น
คุณกิมจู : สนใจการท่องเที่ยวประเทศจีน เพราะทุกครั้งที่ไปเที่ยวจะต้องศึกษาและการเตรียมตัวของภาษาก่อน สถานที่ที่ไปบ่อยสุดจะเป็นเฉินตู เป็นเมืองค่อนข้างคล้ายเชียงใหม่ มีความโบราณผสมผสานกับวัฒนธรรมสมัยใหม่ ใช้ชีวิตค่อนข้างสโลว สถานที่อื่นที่เคยไปก็ จิวไจ้โกว เขาชิงเฉินซาน เขื่อนตูเจียงเยี่ยน มณฑลเสฉวน เป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมจีนผ่านการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะภาษาได้เป็นอย่างดี
คุณโบว์ : ชอบเล่นดนตรีสนใจพิณจีน กู่เจิน เล่นได้ประมาณ 2-3 ปี เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เข้าใจวัฒนธรรมของกันและกันมากขึ้น

คิดผิดคิดถูกที่เรียนภาษาจีน
คุณโบว์ : ถ้าย้อนกลับไปยังไงก็จะเรียนภาษาจีน ทุกวันนี้มีการเปิดการค้าเสรี มีการจ้างงานกับเจ้าของภาษา สามารถพัฒนาฐานเงินเดือนให้สูงขึ้น ทุกวันนี้แทบทุกประเทศแม้แต่ประเทศเกาหลีก็ยังพูดภาษาจีนกันเลย ภาษาจีนแทบจะพูดกันทั่วโลกแล้ว และที่สำคัญเขาเลือกเรียนภาษาจีนเองมากกว่าที่จะจ้างล่ามแปล
คุณกิมจู : เรียนแน่นอนและจะตั้งใจเรียนตั้งแต่ยังเด็กมากกว่านี้ เอาถึงขั้นแต่งงานกับคนจีนได้เลย (หัวเราะ)

จำเป็นไหมที่ต้องแต่งานกับคนจีนเพื่อเอาดีด้านภาษา
คุณปุ้ย : เป็นส่วนหนึ่งของแต่ละคน บางคนอยากเก่งภาษาอังกฤษก็ไปแต่งงานกับฝรั่ง ส่วนเรื่องธุรกิจยังไงก็ต้องได้เจอภาษาจีน ยังไงถ้าทำธุรกิจที่ต้องเจรจาก็ต้องใช้ภาษาจีนในการสนทนา

คนจีนมีทัศนคติมองคนไทยยังไงและคนไทยมองคนจีนยังไง
คุณโบว์ : คนจีนมองคนไทยเหมือนพี่เหมือนน้องเพราะคนไทยเชื้อสายจีนมีอยู่เยอะมาก คล้ายเพื่อนบ้าน
คุณกิมจู : ไม่ใช่แค่ไทยมองจีนยังไง ตอนนี้จีนมองไทย เพราะว่าสินค้าที่ไทยหลายอย่างไปมีกระแสที่จีน ครั้งล่าสุดที่ไปเฉินตู ถนนคนเดิน มีนักศึกษาคนจีนมาขอถ่ายรูปเพราะได้ยินที่พูดเป็นภาษาไทยจึงรู้ว่าเป็นคนไทย ไหนจะคนจีนเยอะมากที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทย คนจีนที่มาไทยสิ่งที่ชอบซื้อกลับคือของกิน เช่น สาหร่ายเถ้าแก่น้อย มะม่วงอบแห้ง ทุเรียนอบแห้ง และผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยพวกยาดม ยาหม่อง สบู่สมุนไพร ฯลฯ
คุณปุ้ย : ผลิตภัฑณ์สมุนไพรตอนนี้ได้รับความนิยมมากพวกแฮนเมค ขายดีมาก ที่เชียงใหม่ มีงาน Health&Care พวกผลิตภัณฑ์สปา คนจีนมองว่า สินค้าไทยคือดีมีคุณภาพ และราคาถูก

อยากบอกอะไรกับคนที่สนใจภาษาจีน
คุณปุ้ย : ภาษาจีนไม่ยากอย่างที่คิด ไม่มี Tense เหมือนภาษาไทยหรืออังกฤษ และสมัยนี้คนจีนอยู่ในประเทศไทยเยอะมาก เพราะฉะนั้นควรเรียนรู้ศึกษากับคนจีนโดยตรง
คุณกิมจู : ภาษาจีนไม่ใช่ภาษาที่ใหม่สำหรับคนไทย แต่คนที่มีความเชี่ยวชาญภาษาจีนยังมีอยู่น้อยตอนนี้ เป็นโอกาสของทุกคน ถ้าจับโอกาสนี้ได้ก่อนก็จะได้เปรียบในอนาคตแน่นอน การเรียนภาษาไม่สามารถเรียนได้ในวันเดียว ต้องมีความอดทน ปรับทัศนคติใหม่ให้รักในภาษาที่เราเรียน
คุณโบว์ : อย่ามัวอยู่แต่กับตำราและการท่องจำ สิ่งที่สำคัญคือการหาเพื่อนคนจีน หาซีรี่ส์จีนมาดู จะเป็นการช่วยพัฒนามากกว่าการอยู่กับตำราอย่างเดียว

3 สาวในแวดวงธุรกิจ ได้ฉายภาพให้เห็นแล้วว่า ภาษาจีนเข้ามามีบทบาทรอบๆตัวเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วจะดีกว่าไหมหากเราจะทำความรู้จักกับมันและต่อยอดให้เป็นอาวุธเด็ดเพื่อใช้ในการสื่อสาร ทำธุรกิจ ประกอบวิชาชีพในอนาคต อย่าลืมว่าตอนนี้ภาษาจีนได้เดินทางไปอยู่ทุกหนแห่งบนโลกแล้ว