ขานรับ พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิตใหม่

0
200

หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนขานรับ พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิตใหม่ ภายใต้การจัดเก็บที่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการ ผู้บริโภค

นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานคณะกรรมการกฎหมายภาษีและกฎระเบียบ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ที่ได้ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ว่า ภาคเอกชนเล็งเห็นถึงความสำคัญของมาตรการใหม่ ด้านภาษีเพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการปฏิรูประบบเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งด้านการจัดเก็บภาษีให้ได้ตามเป้าหมาย ยกระดับมาตรฐานระบบภาษีให้เป็นสากล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ด้วยเหตุนี้ เราจึงร่วมกับภาคเอกชนประสานความร่วมมือกับภาครัฐ ให้การสนับสนุนและข้อคิดเห็นต่อการร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ แม้ข้อคิดเห็นของเราจะไม่ได้รับการตอบรับทั้งหมด แต่ก็ได้รับคำชี้แจงประเด็นที่ไม่สามารถทำได้ ดังนั้น ในจุดนี้ ทุกฝ่ายเข้าใจ และมีเป้าหมายเดียวกัน คือร่วมกันพัฒนากฎหมายและปฏิรูประบบภาษีของไทย เพื่อประโยชน์ของประเทศในภาพรวม

ทั้งนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนได้รับฟังแนวทางที่ชัดเจนจากกรมสรรพสามิตว่า พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่นี้จะใช้การจัดเก็บที่เป็นธรรม หรือ revenue neutrality กล่าวคือ แม้จะเปลี่ยนการจัดเก็บจากราคาหน้าโรงงาน มาเป็นราคาขายปลีกแนะนำ แต่กรมสรรพสามิตก็จะปรับอัตราการจัดเก็บลง เพื่อให้รายได้ที่จัดเก็บโดยรวมอยู่ในระดับที่เท่าหรือไม่ต่างจากเดิมมากนัก ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ประกอบการจะไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่น่าจะต้องมีการผลักภาระภาษีไปยังผู้บริโภคในรูปของราคาสินค้าที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายกังวล ท่ามกลางสภาวะกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่แข็งแรงมากนัก ซึ่งกรอบการจัดเก็บนี้ เป็นสิ่งที่ภาคเอกชนเห็นพ้องด้วย

นายนันทิวัต ธรรมหทัย ประธานคณะอนุกรรมการภาษีสรรพสามิต คณะกรรมการกฎหมายภาษี หอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนขอขอบคุณรัฐบาลที่เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการร่างกฎหมายลูก โดยเราพร้อมที่จะส่งผู้แทนเข้าร่วมเป็นคณะทำงานร่วมอันประกอบไปด้วยหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกรมสรรพสามิต เพื่อร่วมกันกำหนดรายละเอียดการบริหารการจัดเก็บที่โปร่งใส่และเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ ผู้บริโภค และช่วยให้การจัดเก็บภาษีของรัฐบาล มีประสิทธิภาพมากขึ้น นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป