“กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์” นักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนผู้ร่ำรวยความสามารถ

0
2016

ทางเมืองไทยเริ่มเข้าวัสสานฤดูหรือฤดูฝนกันแล้ว ช่วงนี้มีฝนตกลงมาให้ชุ่มฉ่ำลดบรรยากาศความร้อนระอุไปได้บ้าง วันนี้ทางทีมงานมีโอกาสได้มาเยือนบ้านเรือนไทยหลังใหญ่กว้างขวาง ด้านในตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม สถานที่แห่งนี้เป็นที่สำหรับบ่าวสาวไว้จัดงานมงคลสมรส ทางเราได้รับเกียรติให้มาเยี่ยมชมและสัมภาษณ์เจ้าบ้าน นักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนผู้ร่ำรวยความสามารถ – คุณกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สากลธุรกิจเลิศรวมมิตร, ร้านอาหารอะจิเซ็น ราเมน รวมถึงธุรกิจเวดดิ้ง-สถานที่รับจัดแต่งงานสไตล์บ้านเรือนไทย นอกจากนี้เวลาว่างคุณกริชยังทำหน้าที่เป็นผู้ให้ ตอบแทนสังคมด้วยการเขียนหนังสือ บทความ รวมถึงไปมอบความรู้แก่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัย คุณกริชต้อนรับเราด้วยความเป็นมิตรในห้องทำงานบนโต๊ะมีชุดกาน้ำชาจีนวางไว้ต้อนรับ

ผู้สื่อข่าว: สวัสดีค่ะ คุณกริชเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในหลากวงการ อยากทราบว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้างคะ

คุณกริช: ผมทำธุรกิจหลากหลาย ธุรกิจนำเข้าส่งออก (Import-Export), ส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไปที่จีนตอนใต้และประเทศในเขต CLMV, ทำธุรกิจเวดดิ้ง หรือสถานที่รับจัดแต่งงานบ้านเรือนไทย, โรงคัดเลือกข้าว, ร้านอาหารอาจิเซนราเมง (AJISEN RAMEN) แล้วก็มีเปิดบริษัทอยู่เวียดนาม พม่าด้วยครับ

ผู้สื่อข่าว: อยากให้เล่าความเป็นมาของธุรกิจบ้านเรือนไทยที่เป็นสถานที่รับจัดแต่งงานค่ะ

คุณกริช: ผมทำธุรกิจนี้มาได้สัก 7 ปีแล้ว ตอนนี้มี 2 สาขา สาขาแรกชื่อเรือนนายไท (Nine Thai Wedding) อยู่ถนนพระราม 9 และที่นี่ ดิ โอเดียม บางกอก (The Odeum Bangkok) ซอยถาวรธวัช 1 (รามคำแหง 24 แยก 2) เป็นสาขาที่ 2

เริ่มต้นมาจากผมมีที่ดินติดอยู่พระรามเก้า มีบ้านเก่า เพราะทำธุรกิจเกี่ยวกับบ้านจัดสรร ทำพวก Apartment (อพาร์ทเมนท์) และโรงแรม พอมองว่าจะทำอะไร ก็คิดว่ามีไม้สักเก่าอยู่อุตรดิตถ์ได้ประมาณ 5 หลัง เลยเอาไม้นั้นมาสร้างเรือนไทยที่ถนนพระราม 9 ตอนแรกอยากทำยิมชกมวยแต่มีเหตุขัดข้องก็เลยจะปล่อยให้คนอื่นเช่า ทีมงานที่บริษัทแนะนำว่าอยากทำร้านอาหารไทยผมเลยตกลงพอทำไปมา 3-4 เดือน มีคนมาเช่าขอแต่งงานเลยคิดว่าเป็นธุรกิจที่ดี

ผมเปิดสาขาที่ 2 ก็เพราะว่าที่เก่าคับแคบ รับได้ไม่เกิน 200 คน ผมมาคิดว่าเรามีที่ดินแปลงว่างอยู่แปลงหนึ่ง ก็เลยนำมาทำสาขาที่ 2 ที่ใหม่รับได้ประมาณ 1000 คน สถานที่กว้างขวางกว่าสาขาแรกเยอะ

ผู้สื่อข่าว: เป็นลักษณะบ้านเรือนไทยแล้วลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติคะ

คุณกริช: คนไทยเชื้อสายจีนอยู่ในไทยเยอะ งานแต่งงานส่วนใหญ่ก็มักจะมีพิธียกน้ำชาและกั้นประตูตามแบบฉบับงานมงคลของจีน ชาวต่างชาติมาจัดงานแต่งงานที่นี่ก็เยอะ คนจีนก็มาแต่งงานกันที่นี่นะครับ

ผู้สื่อข่าว: ทราบมาว่าคุณกริชพูดเขียนภาษาจีนได้คล่อง

คุณกริช: บ้านผมเป็นจีนแคะ คุณพ่อเป็นคนโคราช (นครราชสีมา) คุณพ่อผมเป็นชาวจีนอพยพมาที่ประเทศไทย รุ่นลูกเลยอยากให้เรียนภาษาจีน ผมก็ดิ้นรนหาที่เรียน ยุคนั้นไม่มีโรงเรียนสอนภาษาจีนในประเทศไทยเหมือนสมัยนี้ ผมต้องเดินทางไปเรียนถึงเชียงราย สมัยก่อนใช้เวลาเดินทางถึง 2 วัน 1 คืนถึงจะถึงเชียงราย แล้วก็ได้ทุนไปเรียนต่อที่ไต้หวัน จบมัธยมปลายก็กลับมาต่อมหาวิทยาลัยที่เมืองไทย เรียนที่ม.รามคำแหงทั้งปริญญาตรีและปริญญาโท ผมมีความผูกพันกับความเป็นจีนมากเรียนจีนมา 12 ปี แม้พนักงานของผมก็ส่งเสริมให้ได้เรียนรู้ภาษาจีน มีการเชิญเพื่อนที่รู้ภาษาจีนมาสอนให้ที่บริษัท ลูกๆผมก็ส่งเสริมให้เรียนภาษา อย่างลูกชายคนที่ 2 เรียนจบที่ญี่ปุ่น ผมก็ให้เรียนภาษาจีนต่อ มีส่งลูกไปเรียนภาษาที่เมืองจีนด้วย ก็อยากให้สามารถสื่อสารได้ ใช้งานได้

ผู้สื่อข่าว: งานอดิเรกก็ยังเกี่ยวข้องกับความเป็นจีน อย่างที่เห็นนี่ก็ใช้ชุดน้ำชาต้อนรับแขก

คุณกริช: ผมชื่นชอบการดื่มชามาก ดื่มทุกวัน ใครเคยมาบ้านผม ผมจะยกชุดน้ำชามาต้อนรับเสมอ ชาที่บ้านผมมีเป็นสิบๆชนิด อู่หลง ผู่เอ๋อ เทียะกวนอิน เหม่ยเหรินฉา ผมมองว่าแขกน่าจะชอบชาอะไรก็เสิร์ฟชงให้ ส่วนกาแฟวันหนึ่งดื่มแค่แก้วเดียวก็พอแล้ว

ผู้สื่อข่าว: คุณกริชยังเขียนหนังสือ เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์และนิตยสารด้วย

คุณกริช: ใช่ครับ ผมมีเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ อย่างล่าสุดก็จะเขียนเกี่ยวกับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ประสบการณ์ต่างๆที่ผมได้พบมาจากการเดินทางและทำธุรกิจในประเทศแถบ CLMV อย่างพม่านี่คนไทยหลายคนก็ยังไม่ทราบข้อมูลหรือความเป็นอยู่ต่างๆ นอกจากนี้ผมยังสอนหนังสือให้เด็กปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ ที่ม. รามคำแหง เงินค่าตอบแทนในการสอนผมก็ส่งมอบต่อให้เป็นทุนแก่นักศึกษาที่นั่น ผมอยากส่งต่อความรู้และมอบโอกาสให้กับพวกเขา เด็กบางคนฐานะทางบ้านก็ไม่เอื้ออำนวยให้ศึกษาแต่ก็ขยันเรียน

ผู้สื่อข่าว: คุณกริชมีคติหรือหลักในการดำเนินชีวิตอย่างไรคะ

คุณกริช: ด้วยความที่ผมเรียนหนังสือจีน ม่งจื๊อ ขงจื๊อ เต็มหัว ผมชื่นชอบความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นจริยธรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวันและธุรกิจ ทำธุรกิจต้องมีจริยธรรม ศีลธรรมประจำใจ “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน”

ผู้สื่อข่าว: ในฐานะที่คุณกริชเป็นนักธุรกิจมีความคิดเห็นอย่างไรกับแนวคิดอี๋ไต้อี๋ลู่ (一带一路 หรือ One Belt One Road) คนไทยหรือนักธุรกิจไทยจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้างคะ

คุณกริช: ผมชอบมากนะ ที่สีจิ้นผิงคิดจะฟื้นฟูเรื่อง one belt one road เพราะยิ่งมองโลกให้กว้างและช่วยกันพัฒนามีการเชื่อมโยงกันในภูมิภาค ประชาชนจะได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างมหาศาล สำหรับผมการพัฒนาเศรษฐกิจ ต้องเริ่มจาก infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน) ส่งผลดีกับทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง

ตอนที่ประกาศนโยบายนี้ออกมาใหม่ๆ ผมอยู่ที่พม่า เวียดนาม แต่ละวันมีนักธุรกิจเดินเข้าออกมาคุยมาปรึกษาเรื่องนี้กันมาก ผมว่านี่เป็นนโยบายที่ดีและต้องสร้างให้มันเกิด เศรษฐกิจจะยั่งยืนมาก พูดถึงเรื่องการเชื่อมโยงในภูมิภาค จีนเป็นกลุ่มประชากรที่เยอะสุดอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่การทำ infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน) ต่างๆ การเชื่อมโยงระหว่างประเทศให้ไปมาหาสู่กันง่าย  การสร้างถนนหนทางส่งผลให้การลงทุนในปลายทางระหว่างทางเห็นได้ชัด เช่น R3A ไล่ลงมาจนกระทั่งถึงเวียงจันทร์ ข้ามหนองค่ายตีเข้ามา ทำให้ลาวที่ไม่มีถนน ไม่มีรถไฟ มีแต่เครื่องบิน การคมนาคมในลาวที่แย่มากๆจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

การพัฒนาเศรษฐกิจต้องเริ่มจาก infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน)  สำคัญสุดคือทางรถและทางรถไฟ          ประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาล อย่างปลายทางที่มาที่ไทยหรือผ่านไทย ก็จะกระตุ้นให้ไทยได้รับผลทางเศรษฐกิจสูงมากทีเดียว กระตุ้นได้ทั้งการค้า การลงทุน และ consumption (การบริโภค) ใหม่ๆที่เกิดในประเทศไทย

เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก (林敏儿)
ภาพ: พันธสัญญา โชติธนพุทธิพงษ์