เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ปี 2016 ขณะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีและเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนลงพื้นที่ตรวจงานที่เมืองอีชุน มณฑลเฮยหลงเจียงนั้น เขาได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของนายหลิว หย่างซุ่น คนงานเกษียณจากฟาร์มป่าไม้ของสำนักกิจการป่าไม้ซ่างกังหลิงโดยเฉพาะ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสัมภาษณ์หลิว หย่างซุ่นอีกครั้ง
หลิว หย่างซุ่นเล่าย้อนหลังให้ฟังว่า วันนั้น ณ อุทยานป่าไม้แห่งชาติซีสุ่ย สังกัดสำนักกิจการป่าไม้ซ่างกังหลิง ท่านเลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงได้พิจารณาต้นไม้ที่ขึ้นริมทาง เช่น ป่าต้นหงซง ที่ขึ้นเป็นแนวรั้วถนนตามธรรมชาติ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ฟาร์มป่าไม้ต้องปกป้องทรัพยากรป่าไม้ด้วยดีให้ได้
หลังจากนั้นสี จิ้นผิงได้ไปที่บ้านของหลิว หย่างซุ่น เขาเดินเข้าไปในห้องครัว ยกฝาหม้อขึ้น ได้กลิ่นหอมจากอาหารชาวนา จึงยิ้มแล้วพูดว่า “ดูน่าอร่อยนะ” ปธน.สี จิ้นผิงยังได้ถามไถ่เกี่ยวกับสภาพที่พักและความเป็นอยู่ของครอบครัวหลิว หย่างซุ่น เช่น การซ่อมแซมบ้านเก่า การดัดแปลงระบบไฟฟ้าและน้ำภายในบ้าน เป็นต้น ตลอดจนพูดคุยกับครอบครัวของหลิว หย่างซุ่นเกี่ยวกับประวัติการพัฒนาฟาร์มป่าไม้และคำนวณบัญชีรายรับรายจ่าย
ยามพระอาทิตย์ตกดิน สี จิ้นผิงพร้อมครอบครัวของหลิว หย่างซุ่นและเพื่อนบ้านได้รวมตัวนั่งคุยกันในลานเล็กๆ เกี่ยวกับเรื่องชีวิตประจำวัน สี จิ้นผิงไถ่ถามว่าพวกเขาทำอะไรเป็นอาชีพหลักหลังจากฟาร์มป่าหยุดการตัดไม้ แหล่งรายได้ของพวกเขามีอะไรบ้าง ยังมีความลำบากอะไรบ้างในชีวิตประจำวัน สภาพการหางานทำและการเรียนหนังสือ และอื่นๆ
บรรดาชาวบ้านพากันพูดถึงการทำมาหากินของตนเอง เช่น บางคนปลูกเห็ดหูหนู บางคนปลูกแคนตาลูป และบางคนประกอบอาชีพการขยายพันธุ์พืช สี จิ้นผิงกล่าวว่าเขารู้สึกดีใจและสบายใจมากเมื่อได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของคนงานฟาร์มป่าได้รับการปรับปรุงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงการพัฒนาทางเศรษฐกิจในพื้นที่ป่าไม้จะประสบความยากลำบากเป็นการชั่วคราวบ้าง คณะกรรมการพรรคฯและรัฐบาลจะให้ความเอาใจใส่อย่างแน่นอน เพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนก็ต้องพยายามพึ่งพาตนเองและขยันหาทางออกใหม่
หลิว หย่างซุ่นบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเขาจะไม่มีวันลืมวันที่ท่านเลขาธิการใหญ่มาที่บ้านของเขา ขณะท่านเลขาธิการใหญ่เข้าไปตรวจดูในครัวนั้น หลิว หย่างซุ่นยังได้แนะนำให้สี จิ้นผิงถึงผักในกะละมังซึ่งเก็บมาจากป่าทั้งหมด และต่อมาได้กลายเป็น “แบรนด์”ของครอบครัวของเขาในการเปิดทำธุรกิจ
ในเวลานั้นการตัดไม้เชิงพาณิชย์ในป่าธรรมชาติในเมืองอีชุนได้หยุดลงอย่างสมบูรณ์ บรรดาชาวฟาร์มป่าต่างก็รู้สึกสับสนบ้างไม่มากก็น้อยเกี่ยวกับชีวิตในอนาคตของพวกเขา คำพูดของสี จิ้นผิงทำให้หลิว หย่างซุ่นตาสว่างขึ้นทันทีทันใด ท่านเลขาธิการใหญ่ให้กำลังใจทุกคนหาทางออกใหม่ ชาวฟาร์มป่าก็ควรเร่งดำเนินการโดยด่วน
ในฤดูร้อนของปีนั้น ครอบครัวของหลิว หย่างซุ่นได้เปิดธุรกิจโฮมสเตย์ เขาและภรรยาทำหน้าที่หุงข้าวและทำกับข้าว ในขณะที่ลูกชายและลูกสะใภ้คอยเสิร์ฟอาหารและน้ำดื่มให้กับลูกค้า แต่ไหนแต่ไรมาภายในบ้านไม่เคยมีความคึกคักเช่นนี้มาก่อนเลย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของฟาร์มป่าในท้องถิ่นได้ช่วยกันรักษาไว้ซึ่งน้ำใสและภูเขาเขียว สภาพแวดล้อมโดยรอบก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก่อนหน้าบ้านติดกับถนนลูกรัง พอมีรถขับผ่านไปฝุ่นก็ปลิว ตอนนี้ทางฟาร์มป่าได้สร้างถนนลาดยาง ติดตั้งโคมไฟหลากสี ปลูกต้นไม้ ตลอดจนได้สร้างสถานที่ท่องเที่ยวในทุ่งหญ้าที่อยู่ตรงข้ามบ้านของหลิว หย่างซุ่นด้วย
สภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาที่ได้รับการปรับปรุงดีขึ้นได้นำมาซึ่งผลประโยชน์มากมายมาสู่ผู้คนทั้งหลาย มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ภายในลานบ้านจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเกือบทุกวัน บรรดานักท่องเที่ยวเดินทางไกลมาที่นี่เพื่อดูอะไรเล่า? มันเป็นเพราะท้องฟ้าที่นี่เป็นสีครามยิ่งกว่าที่อื่น น้ำใสยิ่งกว่าที่อื่น และอากาศก็บริสุทธิ์ยิ่งกว่าที่อื่นไม่ใช่หรือ?
ในปีที่โชคดีหลิว หย่างซุ่นสามารถทำเงินได้มากกว่า 100,000 หยวนจากการดำเนินธุรกิจโฮมสเตย์ เขากล่าวว่า “ถึงเวลานี้ผมจึงเข้าใจแล้วจริงๆ ว่า น้ำใสและภูเขาเขียวก็คือทางออกใหม่ที่ท่านเลขาธิการใหญ่ได้ชี้นำให้กับเรา!”
หลิว หย่างซุ่นยังบอกกับผู้สื่อข่าวว่า นอกจากครอบครัวของเขาแล้ว บรรดาชาวบ้านรอบๆ และคนงานที่เกษียณอายุจากฟาร์มป่าจำนวนมากก็ได้เริ่มต้นทำธุรกิจของตนเองเช่นกัน พวกเขาได้ร่วมกันสร้าง “ถนนแห่งอาหารการกิน” โฮมสเตย์เกือบ 30 แห่งดำเนินธุรกิจได้อย่างมีชีวิตชีวา บรรดาผู้ทำอาชีพปลูกโสมในป่าหรือปลูกพืชพิเศษอื่นๆ ต่างก็ร่ำรวยขึ้นเช่นกัน ชาวฟาร์มป่าที่นั่นพากันทำมาหากินและเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วด้วยการพึ่งพาและปกป้องพื้นที่ป่าไม้ในท้องถิ่น
แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน(CMG)
ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่
‘สี จิ้นผิง’ในสายตาของปชช.จีน – คำพูดนี้ของท่านเลขาธิการใหญ่เป็นการชื่นชมและยิ่งเป็นการกำชับ (8)
